วิกฤต "แร่หายาก" เขย่าอุตสาหกรรมยานยนต์โลก หลังจีนคุมส่งออก
วิกฤต "แร่หายาก" เขย่าอุตสาหกรรมยานยนต์โลก! จีนคุมเข้มส่งออก ทำโรงงานผลิตชิ้นส่วนในยุโรปหลายแห่งต้องหยุดชะงัก
สำนักข่าว CNBC รายงานว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตครั้งใหม่ เมื่อการขาดแคลน "แร่หายาก" (Rare Earth Elements) เริ่มส่งสัญญาณรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุหลักมาจากการที่จีนเริ่มใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากหลายชนิดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการตอบโต้ทางการค้าหลังจากที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
โรงงานยุโรปส่งสัญญาณเตือน
สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ยุโรป (CLEPA) เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานและสายการผลิตของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลายแห่งในยุโรปต้องหยุดชะงักลงแล้ว
เนื่องจากมาตรการควบคุมการส่งออกของจีน ทางสมาคมยังเตือนว่าอาจเกิดการหยุดชะงักเพิ่มขึ้นอีกเมื่อปริมาณสินค้าคงคลังลดน้อยลง
ขณะเดียวกัน ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้บริหารในเยอรมนีต่างก็ออกมาแสดงความกังวลอย่างจริงจัง โดยระบุว่า
ภาคส่วนนี้ซึ่งมีห่วงโซ่อุปทานเชื่อมโยงกันทั่วโลกอย่างลึกซึ้ง มีความเปราะบางอย่างมากต่อภาวะหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ทำไมแร่หายากจึงสำคัญกับรถยนต์?
แร่หายากบางชนิดที่จีนจำกัดการส่งออกนั้น ถือเป็น ส่วนประกอบสำคัญ อย่างยิ่งในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ทั้งในรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในและยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นเทรนด์หลักของโลกอนาคต
CLEPA เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า แม้จะมีการยื่นขอใบอนุญาตส่งออกหลายร้อยฉบับไปยังทางการจีนตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน แต่กลับได้รับการอนุมัติเพียงประมาณ 25% เท่านั้น
เบนจามิน ครีเกอร์ เลขาธิการ CLEPA กล่าวอย่างชัดเจนว่า "ด้วยห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่ถักทอเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง ข้อจำกัดการส่งออกของจีนกำลังทำให้การผลิตในภาคส่วนซัพพลายเออร์ของยุโรปต้องหยุดชะงักลงแล้วในขณะนี้"
เยอรมนีเรียกร้องการหารือด่วน
สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์เยอรมนี (VDA) ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนหลักของผู้ผลิตรถยนต์ในเยอรมนี ได้ออกมาเตือนว่า
"ข้อจำกัดการส่งออกแร่หายากของจีนเป็นความท้าทายที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงของอุปทาน ไม่ใช่แค่ในห่วงโซ่อุปทานยานยนต์เท่านั้น"
"แม้ว่าตอนนี้จะมีการให้ใบอนุญาตบางส่วนแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับประกันการผลิตที่ราบรื่นได้"
VDA ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีและสหภาพยุโรป "หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารืออย่างจริงจังกับฝ่ายจีน เพื่อให้สามารถหาทางแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว"
ความต้องการแร่หายากและแร่ธาตุวิกฤตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดกำลังเร่งตัวขึ้นทั่วโลก
ขณะที่จีนยังคงเป็นผู้นำที่ไม่มีใครโต้แย้งในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุวิกฤต โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของการผลิตแร่ธาตุหายากและวัสดุของโลกทั้งหมด ซึ่งสหรัฐฯ ได้เคยเตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่านี่คือความท้าทายเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญยิ่ง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสู่แหล่งพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น
ค่ายรถยนต์ปรับตัว: มองหาทางเลือกและลดการพึ่งพา
แม้สถานการณ์จะดูตึงเครียด แต่ผู้ผลิตรถยนต์แต่ละค่ายก็เริ่มปรับตัวและหาทางรับมือ มีรายงานว่า BMW ของเยอรมนีกล่าวว่าเครือข่ายซัพพลายเออร์บางส่วนได้รับผลกระทบจากมาตรการของจีนแล้ว
ขณะที่ยักษ์ใหญ่ร่วมชาติอย่าง Volkswagen และ Mercedes-Benz Group ทั้งสองค่ายกล่าวว่ายังไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนใดๆ
โฆษกของ Mercedes-Benz Group กล่าวว่า "โดยหลักการแล้ว Mercedes-Benz มีกลยุทธ์สำหรับวัตถุดิบวิกฤตทั้งหมดที่จัดซื้อโดยตรงและโดยอ้อม ซึ่งจะช่วยรักษาความต้องการในระยะยาวและลดความเสี่ยงด้านอุปทานในระยะยาว โดยตระหนักดีว่าแหล่งแร่ธาตุมีจำกัดในบางภูมิภาค"
นอกจากนี้ ทางค่ายกำลังพัฒนาแนวคิดที่จะ "ลดปริมาณ" การใช้โลหะแร่หายากต่อคันลงอย่างมีนัยสำคัญ และในอนาคตต้องการเลิกใช้โลหะแร่หายากหนักอย่างดิสโพรเซียมในระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
ด้านโฆษกของ Volkswagen กล่าวว่าการจัดหาส่วนประกอบยานยนต์ที่มีแร่หายากยังคงมีเสถียรภาพ "ซัพพลายเออร์ของเรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องกับผู้รับเหมาช่วง เพื่อขอใบอนุญาตส่งออกที่จำเป็น เราได้รับข้อบ่งชี้ว่ามีการให้ใบอนุญาตในจำนวนจำกัด"
ญี่ปุ่นก็ไม่รอด: ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน
ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปเท่านั้น เพราะ Nissan ของญี่ปุ่นก็ออกมายอมรับว่ากำลังสำรวจวิธีลดผลกระทบจากการควบคุมการส่งออกของจีน โดยร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่นและสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น
อีวาน เอสปิโนซา ซีอีโอของ Nissan กล่าวกับ CNBC ว่า "มันเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และเป็นความจริงที่มันจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างแน่นอน"
พร้อมเสริมว่า "เราจำเป็นต้องค้นหาทางเลือกใหม่ๆ สำหรับอนาคตต่อไป รักษาความยืดหยุ่น และเปิดทางเลือกของเราให้กว้างขึ้น"
นอกจากนี้ สำนักข่าว Reuters ยังอ้างแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อสองรายว่า Suzuki Motor ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ได้ระงับการผลิต รถยนต์รุ่น Swift ของตนลงชั่วคราวแล้ว สืบเนื่องจากมาตรการควบคุมแร่หายากของจีนเช่นกัน
วิกฤตแร่หายากครั้งนี้จึงเป็นบททดสอบสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ที่จะต้องปรับตัวและหาทางลดการพึ่งพาแหล่งผลิตเพียงไม่กี่แห่ง เพื่อให้การผลิตยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นในระยะยาว


