posttoday

กทม. จับมือ Google AI ไฟเขียวอัจฉริยะ ลดติดขัด ลดฝุ่น PM2.5

26 พฤษภาคม 2568

กทม. จับมือ Google ยกระดับเมืองสู่ Smart City ด้วยโครงการ "Green Light" ใช้ AI บริหารไฟจราจร เรียลไทม์ ลดการหยุดรถ 30% คาดลด PM2.5 เสริมความคล่องตัวการเดินทางทั่วกรุงเทพฯ

กรุงเทพมหานคร เดินหน้าสู่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการจับมือกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Google เปิดตัวโครงการ "Green Light เปลี่ยนเมือง" นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการบริหารจัดการสัญญาณไฟจราจรทั่วกรุงเทพฯ หวังเสริมสร้างความคล่องตัวในการเดินทางของประชาชน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากปัญหาฝุ่นละออง PM2.5
 

กทม. จับมือ Google AI ไฟเขียวอัจฉริยะ ลดติดขัด ลดฝุ่น PM2.5

นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ว่า "กทม. มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเดินทาง โครงการ 'Green Light' เป็นอีกก้าวสำคัญในการเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็น Smart City ที่มีการบริหารจัดการเมืองอย่างชาญฉลาดและยั่งยืน"

โครงการ "Green Light" เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดย Google ได้นำเทคโนโลยี Big Data และ AI ขั้นสูงมาวิเคราะห์ข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ เพื่อปรับจังหวะการเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจรให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การทำงานของ AI จะช่วยคาดการณ์และปรับเปลี่ยนระยะเวลาไฟเขียว-ไฟแดงให้เหมาะสม ลดการหยุดรอที่ไม่จำเป็น และเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของรถยนต์บนท้องถนน

กทม. จับมือ Google AI ไฟเขียวอัจฉริยะ ลดติดขัด ลดฝุ่น PM2.5

ผลลัพธ์เบื้องต้นจากการดำเนินโครงการเป็นที่น่าพอใจ โดยสามารถลดการหยุดรถบนถนนได้ถึง 30% ซึ่งส่งผลให้ปัญหาการจราจรติดขัดแบบหยุด-เคลื่อนลดลงอย่างเห็นได้ชัด และช่วยให้การเดินทางมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน กทม. ได้ดำเนินการปรับจังหวะสัญญาณไฟแล้วกว่า 50 แยกทั่วกรุงเทพฯ และคาดการณ์ว่าโครงการนี้จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของฝุ่น PM2.5 จากภาคคมนาคมและขนส่งได้ประมาณ 10%
 

กทม. จับมือ Google AI ไฟเขียวอัจฉริยะ ลดติดขัด ลดฝุ่น PM2.5

นอกจากนี้ กทม. ยังได้นำข้อมูล Probe Data ที่ได้จากอุปกรณ์ติดตามการเคลื่อนที่ เช่น GPS ในโทรศัพท์มือถือ มาวิเคราะห์ข้อมูลต้นทาง–ปลายทางของการเดินทาง (Origin–Destination หรือ O/D) เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนและจัดการจราจรในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปแบบสัญญาณไฟจราจรให้เหมาะสมกับปริมาณและความหนาแน่นของการเดินทาง หรือการบริหารจัดการช่องทางจราจรบริเวณแยกขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทดลองใช้ในพื้นที่สำคัญ เช่น แยกราชเทวี แยกพระราม 9 และสะพานตากสิน

"การนำ Big Data และ AI มาใช้ในการบริหารจัดการจราจรครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Smart City ของ กทม. ที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างแท้จริง หากประชาชนยังคงพบปัญหาการจราจรในพื้นที่ใด สามารถแจ้งข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue เพื่อให้ กทม. สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น" โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวทิ้งท้าย

โครงการ "Green Light เปลี่ยนเมือง" นี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรุงเทพมหานครในการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อสร้างเมืองที่น่าอยู่ มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"