AIS ชวนลูกค้าคู่แข่งนับล้านยูสเซอร์ย้ายค่าย หลังทรูล่ม !
เมื่อคู่แข่งเพลี่ยงพล้ำ คือโอกาสทองของอีกฝ่าย เมื่อทรูล่ม AIS โพสต์ชวนย้ายค่ายทันที โพสต์ทูเดย์ ไปดูการตลาดแบบ "ซ้ำเติม" อย่างแนบเนียน
ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การตลาดไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การนำเสนอจุดเด่นของตนเอง แต่ยังรวมถึงการจับจ้องความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง และพร้อมที่จะฉวยโอกาสในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่คู่แข่งกำลังเผชิญกับวิกฤติหรือความผิดพลาด การตลาดในช่วงเวลานี้จึงเปรียบเสมือนการ "ซ้ำเติม" อย่างสแนบเนียน เพื่อดึงดูดลูกค้าที่กำลังไม่พอใจให้หันมาสนใจแบรนด์ของตนเอง
เรื่องนี้เกิดขึ้นสดๆร้อนๆของ วันที่ 22 พ.ค.68 เกิดเหตุการณ์เครือข่ายอินเทอร์เน็ตของ TRUE ล่มทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานนับล้าน ทำให้การสื่อสารและธุรกรรมออนไลน์หยุดชะงัก ความเดือดร้อนของผู้บริโภค จนทางทรูต้องออกมาขออภัยและเร่งแก้ไข
กลายเป็นโอกาสทองของ AIS ทันที AIS ได้งัดกลยุทธ์การตลาดแบบฉับพลัน ด้วยการปล่อยแคมเปญ "MOVE WITH US อุ่นใจยิ่งกว่ากับบริการ พร้อมโปรสุดพิเศษ รีบย้ายมาเป็นครอบครัวเดียวกันน๊า" พร้อมช่องทางย้ายค่ายที่สะดวกสบาย การเคลื่อนไหวนี้เปรียบเสมือนการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่กำลังประสบปัญหา พร้อมนำเสนอทางเลือกใหม่ที่ "อุ่นใจกว่า" ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดอ่อนของคู่แข่งในช่วงวิกฤตได้อย่างตรงจุด
มองย้อนกลับไปในสมรภูมิการตลาดอื่นๆ
แม้ว่ากรณีของ TRUE และ AIS จะเป็นการฉวยโอกาสในช่วงวิกฤติอย่างชัดเจน แต่ในโลกการตลาดก็มีกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกัน แม้จะไม่ใช่ในช่วงเวลาที่อีกฝ่าย "ล้ม" แต่เป็นการใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจหรือจุดอ่อนของคู่แข่งอยู่เสมอ
1: "สงครามน้ำดำ" ในประเทศไทย แม้จะไม่ใช่การโจมตีในช่วงวิกฤติ แต่การแข่งขันอันยาวนานระหว่างเป๊ปซี่และโค้กก็เต็มไปด้วยการ "บลัฟ" กันอย่างต่อเนื่อง เมื่อฝ่ายหนึ่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ อีกฝ่ายก็จะตอบโต้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจกว่า
หรือเมื่อฝ่ายหนึ่งใช้พรีเซนเตอร์ยอดนิยม อีกฝ่ายก็พยายามดึงดาราที่มีอิทธิพลไม่แพ้กันมาเป็นตัวแทนแบรนด์ การแข่งขันนี้เปรียบเสมือนการชิงไหวชิงพริบ ที่แต่ละฝ่ายพยายามสร้างความได้เปรียบและดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา
2: แคมเปญ "Get a Mac" ในต่างประเทศ ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการตลาดเชิงเปรียบเทียบที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
Apple ในช่วงที่กำลังเติบโต ได้ปล่อยโฆษณาที่เปรียบเทียบผู้ใช้ Mac ที่ดูสบายๆ และสร้างสรรค์ กับผู้ใช้ PC (Windows) ที่ดูงุ่มง่ามและมีปัญหาบ่อยครั้ง
แม้ว่า Microsoft จะไม่ได้อยู่ในช่วงวิกฤติ แต่ Apple ก็สามารถใช้ภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตนเอง มาสร้างความแตกต่างและดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาพรวมของการตลาดในช่วงวิกฤติ
การตลาดในช่วงที่คู่แข่งเพลี่ยงพล้ำ เปรียบเสมือน "การฉวยโอกาสทอง" ที่ต้องอาศัยความรวดเร็วในการตัดสินใจและความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังไม่พอใจ การนำเสนอทางเลือกที่ดีกว่า พร้อมกับข้อเสนอที่ดึงดูดใจ จะช่วยให้แบรนด์สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ การทำการตลาดในลักษณะนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงและไม่ควรเป็นการโจมตีที่รุนแรงหรือใส่ร้ายคู่แข่ง เพราะอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์เองในระยะยาว
Timing ที่เหมาะสม และ การสื่อสารที่ชาญฉลาด เป็นหัวใจสำคัญของการตลาดในช่วงวิกฤติ การแสดงความเข้าใจต่อปัญหาของผู้บริโภค และนำเสนอทางออกที่ตอบโจทย์ จะช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ และเปลี่ยนวิกฤติของคู่แข่งให้กลายเป็นโอกาสในการเติบโตของตนเองได้อย่างแท้จริง


