posttoday

เปิดแผนดัน GDP ไทย ‘Fun Economy’ ปลุกไทยสู่สถานบันเทิงครบวงจรโลก

21 พฤษภาคม 2568

ประเทศไทยกำลังเดินเข้าสู่ทางแยกสำคัญของยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ผ่านแนวคิด “Fun Economy” เศรษฐกิจแห่งความสนุก ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ความบันเทิง กีฬา ฯลฯ

เปิดแผน ‘Fun Economy’ มูลค่า 14% ของ GDP โลก: ไทยลุยสร้างมหานครแห่งความบันเทิงเต็มรูปแบบ

ประเทศไทยกำลังเดินเข้าสู่ทางแยกสำคัญของยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ผ่านแนวคิด “Fun Economy” หรือเศรษฐกิจแห่งความสนุก ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ความบันเทิง กีฬา และกิจกรรมสร้างประสบการณ์เชิงบวกแบบครบวงจร ซึ่งขณะนี้คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 14% ของ GDP โลก ใหญ่กว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ถึง 5 เท่า และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่มาแรงทั่วโลก

 

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในรายการ “NBT มีทางออก” เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ถึงความคืบหน้าโครงการ Entertainment Complex ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกหลักของแผน Fun Economy ว่า โครงการนี้ถือเป็น “ทางแยกสำคัญของประเทศไทย” ที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและความบันเทิงของชาติ โดยมุ่งหวังให้ไทยเป็น “มหานครแห่งใหม่ของเอเชีย” ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกมาสัมผัสประสบการณ์ระดับโลก

 

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

 

Entertainment Complex กุญแจขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านความบันเทิง

หัวใจของแผน Fun Economy คือการสร้าง Entertainment Complex หรือศูนย์รวมความบันเทิงแบบครบวงจร ด้วยแนวคิด “Family Oriented” ที่มุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นพนันแบบเดิม ๆ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตระดับโลก โชว์ แฟชั่น วัฒนธรรม และกิจกรรมสร้างสรรค์ในร่มได้ตลอดปี ซึ่งเหมาะกับภูมิอากาศไทยที่มีช่วงโลว์ซีซั่นยาวนาน

 

"ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มีธรรมชาติที่สวยงาม แต่ขาดโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโชว์ระดับโลก เราไม่มีสนามที่พร้อม ทั้งในแง่ระบบแสง สี เสียง เวทีปรับเปลี่ยน และที่สำคัญคือหลังคาและระบบปรับอากาศ" นายศึกษิษฏ์อธิบาย

 

เขายกตัวอย่างความสำเร็จของ Marina Bay Sands ในสิงคโปร์ ซึ่งสร้างรายได้ถึง 0.6% ของ GDP ประเทศ และแม้แต่คอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ที่จัดขึ้นที่นั่น ยังสามารถขยับ GDP ได้ถึง 0.1% ด้วยการดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลเข้าประเทศในช่วงเวลาสั้น ๆ

 

เปิดทางเอกชนลงทุนเต็มรูปแบบ

จุดเด่นของแผนนี้คือการเปิดให้ภาคเอกชนระดับโลกเข้ามาลงทุนอย่างเต็มที่ 100% โดยรัฐไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินแต่อย่างใด ลดภาระการบริหารจัดการในระยะยาว ขณะเดียวกันยังสามารถควบคุมและกำกับดูแลผ่านกฎหมายและกลไกที่เข้มงวดภายใต้ระบบตลาดทุนสากล

 

“เราไม่ต้องการให้รัฐลงทุนเอง เพราะนี่ไม่ใช่แค่การก่อสร้างอาคาร แต่มันต้องการการบริหารระดับมืออาชีพ และต้องอยู่ได้ในระยะยาว” เขากล่าว พร้อมระบุว่า ขณะนี้มีบริษัทระดับโลกหลายแห่งให้ความสนใจลงทุนในไทยแล้ว เช่น Wynn Resorts และ MGM International Resorts ที่เพิ่งลงทุนในดูไบและโอซาก้า

 

จ้างงาน 2 หมื่น สร้างโอกาส SME ไทย

ในแง่การจ้างงาน โครงการ Entertainment Complex เพียงหนึ่งแห่งสามารถสร้างงานได้ถึง 10,000–20,000 ตำแหน่ง ทั้งในส่วนของพนักงานประจำและการจ้างงานต่อเนื่องในภาคบริการ ภาคบันเทิง การค้าปลีก และโลจิสติกส์

 

นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ SME ไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร สินค้า OTOP และร้านอาหารท้องถิ่น เข้ามาเชื่อมโยงกับซัพพลายเชนของโครงการ เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ที่ผลิตภัณฑ์กว่า 90% ที่ใช้ภายใน Marina Bay Sands เป็นของในประเทศ

 

“เราต้องการให้พื้นที่นี้กลายเป็นที่ที่สินค้าและบริการไทยสามารถแจ้งเกิดในเวทีโลกได้” นายศึกษิษฏ์กล่าว

 

เทคโนโลยี–กฎหมาย–จริยธรรม: ปราการป้องกันปัญหาสังคม

หนึ่งในประเด็นที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดคือผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะปัญหาการติดการพนัน ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะใช้หลักวิทยาศาสตร์ผสานเทคโนโลยีเพื่อควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้โมเดล PETER ได้แก่:

Prevention – การป้องกัน

Education – การให้ความรู้

Treatment – การรักษา

Enforcement – การบังคับใช้กฎหมาย

Research – การวิจัยต่อเนื่องเพื่อปรับนโยบาย

 

นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ เช่น สมาร์ทเทเบิล และ RFID Chips ในชิปพนันทุกตัว ทำให้สามารถติดตามการใช้จ่ายของทุกบุคคลแบบเรียลไทม์ “การกำกับดูแลจะเข้มข้นไม่ต่างจากสถาบันการเงิน หรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ” เขากล่าว

 

ร่างกฎหมายเดินหน้า เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน

ขณะนี้ร่างกฎหมายเพื่อรองรับโครงการอยู่ในขั้นตอนของการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ซึ่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ต้องการให้ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้มีความรัดกุม และเปิดให้ประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้างได้ร่วมแสดงความเห็น เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมและความโปร่งใสตั้งแต่เริ่มต้น

 

ประเทศไทย…สู่มหานครแห่งประสบการณ์ระดับโลก

 

"ผมอยากให้ทุกคนจินตนาการว่า Entertainment Complex จะเป็นมหานครใหม่ที่มีสวนน้ำระดับโลก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ห้างสรรพสินค้าและฟู้ดคอร์ทที่เต็มไปด้วยร้านอาหารของ SME ไทย รวมถึงโชว์ระดับโลกที่จัดได้ตลอดทั้งปี" นายศึกษิษฏ์กล่าวทิ้งท้ายอย่างมีความหวัง

 

หากทุกอย่างดำเนินไปตามแผน โครงการนี้จะไม่ใช่เพียงการสร้างอาคารหรือแหล่งท่องเที่ยวใหม่ แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมของไทยอย่างยั่งยืน และอาจเป็นโอกาสที่ประเทศไทยรอคอยมายาวนานในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในเศรษฐกิจแห่งความสนุกนี้อย่างแท้จริง

ข่าวล่าสุด

กองหลังผลัดกันรั่ว ! แมนยู เสมอเดือด บอร์นมัธ 4-4 ผลบอลพรีเมียร์ลีก