posttoday

“ความลับที่วัดผลได้” ของอาคารเขียว Coral Life พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาคารไทย

18 พฤษภาคม 2568

คุยกับ "เจมส์ ดูอัน" ผู้ก่อตั้ง Coral Life เจ้าของโซลูชัน "อาคารเขียว" ตัวจริงของจริงที่ครบที่สุดของไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้แต่ UN ยังให้การยอมรับในฐานะนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้คนและโลก

 “พลังงานที่ดีที่สุดคือ พลังงานที่เราไม่ต้องใช้”
— เจมส์ ดูอัน, ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด

 

ขอเริ่มต้นด้วยคำถามว่า อาคารทุกวันนี้สามารถวัดต้นทุนพลังงานได้จริงแค่ไหน?

 

ในยุคที่คำว่า “ESG” และ “Sustainability” กลายเป็นคำฮิตในบอร์ดห้องประชุมขององค์กรขนาดใหญ่ แต่การลงมือทำจริงให้เห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้นั้นกลับยังเป็นสิ่งหายาก “คอรัล ไลฟ์” คือหนึ่งในองค์กรไม่กี่แห่งที่เดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น และเปลี่ยนแปลงโลกของอาคารอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการพัฒนาโซลูชั่นประหยัดพลังงานและยกระดับคุณภาพอากาศภายในอาคารสู่มาตรฐานที่โลกยอมรับ

 

ในวันที่องค์กรชั้นนำหลายแห่งเริ่มหันมาทบทวนบทบาทของ ‘อาคาร’ ไม่ใช่เพียงในฐานะพื้นที่ทำงาน แต่ในฐานะ ‘กลไกเชิงกลยุทธ์’ ที่มีผลกระทบต่อพลังงาน สุขภาพพนักงาน และภาพลักษณ์องค์กรอย่างลึกซึ้ง

 

ที่อาคาร Coral Life สุขุมวิท 39 อาจเป็นตัวอย่างของอาคารประหยัดพลังงานและคุณภาพอากาศดี ที่เราเรียกว่า อาคารเขียว (Green Building) ที่เห็นได้ชัดที่สุดในประเทศไทยนอกเหนือจาก กลุ่มลูกค้าของบริษัทที่ใช้โซลูชันอาคารเขียวของ Coral Life กับการลงทุนรีโนเวทอาคารใหม่ (หรือในการออกแบบสร้างอาคารใหม่) จากอาคารเดิมที่ใช้ระบบเครื่องปรับอากาศแบบเดิม ยกตัวอย่างเช่น ออฟฟิศของ A49 บริษัทสถาปนิกชื่อดัง และอาคารของบริษัทกรังปีผู้จัดงานมอเตอร์โชว์ ที่ใช้ระบบของ Coral Life ในปัจจุบัน

 

เพราะไม่ว่าจะอาคารใหม่หรืออาคารเก่าก็สามารถออกแบบเอาระบบหรือโซลูชันที่ว่านี้ใส่เข้าไปได้ เพราะสิ่งที่สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตในเรื่องพลังงานและอากาศให้กับโลกนี้ได้จริงก็คือ "คน" ที่เข้าใจและพร้อมจะสร้างความเปลี่ยนแปลง

 

เจมส์ ดูอัน, ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด

 

จากวิสัยทัศน์สู่ “ผลลัพธ์ที่วัดผลได้”

คุณเจมส์ ดูอัน ผู้ก่อตั้ง Coral Life มีประสบการณ์กว่า 21 ปีในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เขาเริ่มต้นด้วยคำถามง่าย ๆ แต่ทรงพลังว่า “จะสร้างอาคารประหยัดพลังงานให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยได้อย่างไร?” เพราะจากประสบการณ์ที่ได้ศึกษาในต่างประเทศโดยเฉพาะในยุโรป (เยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์) โซลูชันในด้านพลังงานและอากาศจะตอบโจทย์อากาศหนาวและแห้งในภูมิภาคนั้นแต่สำหรับประเทศไทยไม่ใช่

 

คำตอบของเขาจึงไม่ใช่แค่การนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ แต่เป็นการออกแบบ วิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง บวกประสบการณ์จากการลงมือทำจริงในหลากหลายโครงการทั้งโรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ สำนักงาน และศูนย์การค้าชั้นนำ

 

“เราพบว่าเทคโนโลยีจากต่างประเทศหลายอย่างใช้ไม่ได้ผลในไทย เพราะอากาศร้อนชื้น ความร้อนสูง และอุณหภูมิที่ผันผวน… เราจึงต้องสร้างระบบที่ตอบโจทย์ของบ้านเราเอง”

 

ผลลัพธ์คือระบบ Coral Total Solution ซึ่งผสานความรู้จากฟิสิกส์ วิศวกรรมอาคาร ชีววิทยา และเทคโนโลยีดิจิทัล เข้าด้วยกัน

 

อาคาร Coral Life สุขุมวิท 39

 

“วัดผลได้จริง” ประหยัดพลังงานได้กว่า 70%

หัวใจของ Coral Total Solution คือการ “ออกแบบตั้งแต่ต้นทาง” ให้ลดความร้อนเข้าสู่อาคาร เช่น เลือกใช้กระจก-ฉนวนที่เหมาะสม, ออกแบบอาคารให้รับแดดในทิศทางที่เหมาะสม, และควบคุมพลังงานด้วยระบบอัจฉริยะ ไปจนถึงระบบปรับอากาศที่ฟอกอากาศไปในตัว 

 

แนวคิดด้านการประหยัดพลังงานยุคใหม่ไม่ได้พึ่งแค่โซลาร์เซลล์หรืออุปกรณ์ไฮเทค แต่เริ่มต้นจาก “การลด Demand” หรือความต้องการใช้พลังงานให้เหลือน้อยที่สุด ผ่านการวิเคราะห์ทิศทางแสงแดด กระจก ฉนวน และการถ่ายเทความร้อนต่อพื้นที่ (Heat Transfer)

 

คุณเจมส์บอกว่า Coral Life ไม่ใช่บริษัทก่อสร้าง แต่คือ มันสมองที่ออกแบบโซลูชันนี้ขึ้นมาจากเทคโนโลยีของหลากหลายประเทศ เช่นระบบเครื่องปรับ/ฟอกอากาศจากสวิตเซอร์แลนด์ กระจกกันความร้อนจากเยอรมนี ฯลฯ ที่เขาสามารถทำให้เกิดภาพรวมที่สามารถ "วัดผลได้" (Data-Based) ของอาคารประหยัดพลังงานและมีคุณภาพอากาศดี

 

ค่าดัชนี EUI (Energy Use Intensity) ของอาคารสำนักงานในไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 300 kWh/ตร.ม./ปี แต่โครงการที่ Coral Life พัฒนาสามารถลดลงเหลือต่ำกว่า 90 kWh/ตร.ม./ปี ซึ่งหากเทียบกับอาคาร 10,000 ตร.ม. หมายถึงการลดค่าไฟจาก 12 ล้านบาท/ปี เหลือเพียง 3-4 ล้านบาทเท่านั้น

 

“ข้อที่น่าสังเกตคือค่า EUI บ้านเราไม่ได้วัดจากพื้นที่ที่ใช้เครื่องปรับอากาศจริงๆ มาคำนวณ แต่ใช้พื้นที่ทั้งหมดมาคำนวณ ทำให้ได้ค่า EUI ที่ไม่ใช่ค่าจริงๆ มันจึงเป็นแค่การพีอาร์”

 

ตัวชี้วัดการใช้พลังงานของอาคาร “EUI” คืออะไร?

  • EUI (Energy Use Intensity) เป็นค่าที่บอกว่าอาคารใช้พลังงานเท่าไรต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตรต่อปี
  • อาคารสำนักงานในไทยเฉลี่ย 300 kWh/ตร.ม./ปี
  • หากเป็นอาคาร 10,000 ตร.ม. จะใช้พลังงานปีละ 3 ล้านหน่วย หรือค่าไฟราว 12 ล้านบาท/ปี (ที่ 4 บาท/หน่วย)

 

“จากการออกแบบอาคารให้มี EUI ต่ำกว่า 100 kWh/ตร.ม./ปี เราสามารถลดค่าไฟได้กว่า 70% ซึ่งทำให้คืนทุนระบบภายใน 3–5 ปี และหลังจากนั้นคือกำไรที่ยั่งยืนในทุกเดือน โดยไม่ต้องพึ่งการ PR ว่าทำ ESG (Environment, Social, Governance) เพราะมันวัดผลได้ในงบดุลจริง ๆ” คำกล่าวของคุณเจมส์ที่เน้นย้ำในเรื่องนี้กับโพสต์ทูเดย์

 

มากกว่านั้นคือ “เราสามารถการันตี ROI (Return on Investment (อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน)) ได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่เพราะใช้พลังงานน้อยลง แต่เพราะสุขภาพของคนในอาคารดีขึ้น ผลผลิตของธุรกิจก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย”

 

สำหรับเขามองว่า "คาร์บอนเครดิตเป็นเพียงแค่โบนัสของ ESG"

 

“ความลับที่วัดผลได้” ของอาคารเขียว Coral Life พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาคารไทย

 

ความเชื่อมโยงระหว่าง EUI และ ROI

EUI ต่ำ → ค่าพลังงานลดลง → กำไรเพิ่มขึ้น → ROI สูงขึ้น

ตัวอย่าง ถ้าอาคารสำนักงานทั่วไปในไทยมี EUI ประมาณ 300 kWh/ตร.ม./ปี
แต่ Coral Life ออกแบบได้เหลือเพียง 90–100 kWh/ตร.ม./ปี
แปลว่า ประหยัดพลังงานได้ 60–70% ต่อปี


→ ค่าไฟลดลงหลักล้านบาท
→ คืนทุนไว
→ ROI ดี (อาจคืนทุนภายใน 3–5 ปี แล้วได้กำไรต่อเนื่องทุกปี)

 

อากาศดี = สุขภาพดี = ธุรกิจโต

อีกหนึ่งจุดแข็งที่ Coral Life ให้ความสำคัญคือ “คุณภาพอากาศภายในอาคาร” ซึ่งหลายองค์กรมักละเลย ทั้งที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพและสมาธิของผู้ทำงาน

ระบบของ Coral Life สามารถควบคุมคุณภาพอากาศระดับ Wellness ที่ WHO กำหนด โดยควบคุมได้ทั้ง 5 ด้านหลัก ได้แก่ 

  • PM2.5 ต่ำกว่าเกณฑ์
  • VOCs (สารระเหยที่เป็นอันตราย) ต่ำ
  • ความชื้น 40–60%
  • อุณหภูมิที่สบาย
  • CO₂ ต่ำกว่า 1000 ppm

 

“บางบริษัทบอกเราว่า หลังจากเปลี่ยนระบบอากาศ พนักงานไม่ง่วงบ่าย สมาธิดีขึ้น และกลับมาออฟฟิศมากขึ้นแม้ยังทำงานที่บ้านได้” งานวิจัยจากโครงการจริงพบว่า Productivity ของพนักงานดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยในพื้นที่ปิด เช่น อาการเหนื่อยง่าย ปวดหัว หรือคัดจมูก ลดลงอย่างชัดเจน

 

“ความลับที่วัดผลได้” ของอาคารเขียว Coral Life พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาคารไทย

 

ไม่ใช่ PR แต่คือภารกิจที่จริงจัง

ด้วยความมุ่งมั่นและจริงจังต่อการสร้างผลลัพธ์ ทำให้ คอรัล ไลฟ์ ได้รับ PHI Certification อาคารประหยัดพลังงานมาตรฐานระดับโลกเป็นที่แรกและที่เดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรองรับศักยภาพในการเป็น Hub ของการขยายตัวทางธุรกิจในทั้งภูมิภาคเอเชียที่มีตลาดประชากรกว่า 4,000 ล้านคนในปัจจุบัน

 

โดยตัวอย่างที่ผ่านมา คอรัล ไลฟ์ ได้สร้างอาคารประหยัดพลังงานให้ลูกค้ารายสำคัญ อาทิ อาคารศูนย์การค้า สถานศึกษาโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล และ สำนักงานบริษัทมหาชนชั้นนำของประเทศไทย (กลุ่มลูกค้าหลักในปัจจุบันคือกลุ่มโรงพยาบาล โรงแรม อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า) และในปีนี้ คอรัล ไลฟ์ มีโครงการเริ่มสร้างอาคารสำนักงานและศูนย์การค้าให้องค์กรระดับโลกที่ไต้หวันอีกด้วย

 

“ความลับที่วัดผลได้” ของอาคารเขียว Coral Life พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาคารไทย

 

องค์การสหประชาชาติยังได้ร่วมแสดงความชื่นชมต่อโซลูชั่นของคอรัล ไลฟ์ ในฐานะนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้คนและโลก ด้วยการลดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีภายในอาคาร สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และเรายังได้รับรางวัล The Best Innovative Startup จากทาง Private Financing Advisory Network (PFAN) และ Sustainable Energy Association of Singapore (SEAS) ประเทศสิงค์โปร์อีกด้วย

 

“การทำ ESG ไม่ควรเป็นแค่รายงานหรือภาพลักษณ์ แต่ต้องวัดผลได้ มีผลกระทบต่อผู้คนจริง ๆ เราอยากให้คนไทยเห็นว่า ความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องไกลตัว”

 

เขาย้ำชัดว่า "ไม่ใช่หน้าที่ของธุรกิจที่จะพีอาร์ตัวเอง แต่หน้าที่สำคัญคือ

“ความลับที่วัดผลได้” ของอาคารเขียว Coral Life พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาคารไทย

 

ESG ที่เริ่มจากตัวเราเอง

เพื่อต่อยอดองค์ความรู้สู่สังคม Coral Life ได้จัดตั้งหลักสูตร ESG REAL พื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนความรู้จาก “ของจริง” ที่ไม่ใช่แค่การเรียนรู้จากตำรา ให้กับเจ้าของกิจการ นักออกแบบ นักการเมือง และภาคอุตสาหกรรม โดยมุ่งหวังจะสร้าง "ผลลัพธ์ที่แท้จริง" ในด้านพลังงานและสุขภาวะที่ดี เพื่อผลักดันสังคมสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง 

 

“Sustainability ต้องเริ่มจากองค์กรของเราเองก่อน แล้วเมื่อมีผู้นำที่ลงมือทำจริง เราถึงจะสร้างชุมชน ESG ที่มีพลังและยั่งยืนได้”

 

เพราะปัญหาใหญ่ไม่ใช่ “ตลาด” แต่คือ “คน” และ แนวคิดแบบเดิม ทั้งสถาปนิกและวิศวกรจำนวนมากยังไม่เข้าใจหรือไม่เปิดรับแนวคิดใหม่ บวกกับระบบการศึกษาที่ยังล้าหลังนวัตกรรมด้านอาคารกว่า 10–15 ปี

 

มากกว่านั้นก็คือรัฐบาลไทยยังไม่สนับสนุนเชิงนโยบายอย่างแท้จริง แม้เปิดรับฟังแต่ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ

 

ในอนาคตเราอาจได้เห็นการสร้างแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทเอกชนที่ลงทุนเอง ศึกษาวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  และมองเห็นโอกาสในวิกฤตเสมอ

 

“เรากำลังพัฒนา AI Platform จากฐานข้อมูลกว่า 500,000 เซลล์พลังงาน
เพื่อวิเคราะห์และคำนวณพลังงานล่วงหน้าแบบแม่นยำมากขึ้น” คือคำตอบสู่อนาคตที่คุณเจมส์ทิ้งท้ายไว้ให้เรา

 

ระบบปรับอากาศจากสวิตเซอร์แลนด์หนึ่งในองค์ประกอบของโซลูชัน

“ความลับที่วัดผลได้” ของอาคารเขียว Coral Life พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาคารไทย

 

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025