เทคโนโลยี-ไอเดียสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนจากเวที Sustainability Week Asia
เปิดมุมมองสู่เมืองอนาคต เทคโนโลยีและความร่วมมือขับเคลื่อน “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ในเอเชียจากเวที Sustainability Week Asia 2025
ในโลกที่ทรัพยากรธรรมชาติลดลงอย่างต่อเนื่อง ขยะล้นเมือง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคุกคามวิถีชีวิตของผู้คนในทุกมิติ แนวคิด “เศรษฐกิจหมุนเวียน” หรือ Circular Economy จึงกลายเป็นหมุดหมายใหม่ของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่กำลังเผชิญความท้าทายจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองและประชากรจำนวนมหาศาล
เมื่อเร็วๆ นี้ งาน Sustainability Week Asia 2025 ครั้งที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นโดย The Economist Impact ณ กรุงเทพมหานคร ได้กลายเป็นเวทีสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศจากทั่วภูมิภาคเอเชีย มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเสนอแนวทางใหม่ๆ ในการสร้าง “เมืองเศรษฐกิจหมุนเวียน” ที่ไม่เพียงจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างคุณค่าใหม่จากของเสีย พลิกโฉมเมืองให้น่าอยู่ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
เทคโนโลยีรีไซเคิลขั้นสูง จุดเปลี่ยนของเมืองในยุคเศรษฐกิจหมุนเวียน
หนึ่งในไฮไลต์ของงานเสวนาคือการนำเสนอโดย นายบัมบัง จันดรา รองประธานฝ่ายธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Dow ผู้นำระดับโลกด้านวัสดุศาสตร์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านจาก “เศรษฐกิจเส้นตรง” ที่ใช้แล้วทิ้ง ไปสู่ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยทั้งนวัตกรรมทางเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ “ชุมชน” ที่เป็นผู้เล่นหลักในวงจรการจัดการขยะ
Dow ได้พัฒนา เทคโนโลยีการรีไซเคิลขั้นสูง ที่สามารถเปลี่ยนขยะพลาสติกหลังการใช้งานให้กลายเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ซึ่งนำกลับมาใช้ใหม่ได้เหมือนกับเม็ดพลาสติกใหม่แบบ “single pellet” โดยยังคงคุณสมบัติเชิงวิศวกรรมไว้ครบถ้วน ทั้งนี้ ช่วยลดการผลิตเม็ดพลาสติกใหม่ ลดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
Smart Bin นวัตกรรมเล็กที่เปลี่ยนเมืองใหญ่ของจีน
ในตัวอย่างที่น่าทึ่งจากประเทศจีน นายบัมบังยกกรณีของ “ถังขยะอัจฉริยะ (Smart Bin)” ซึ่งติดตั้งแล้วกว่า 31,000 จุดใน 38 เมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว โดย Smart Bin สามารถชั่งน้ำหนัก คัดแยกประเภท และตีราคาขยะเป็นเงินได้อัตโนมัติ พร้อมส่งเครดิตเข้าสู่แอปพลิเคชันของเจ้าของขยะ ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้คนเมืองเข้าร่วมในระบบรีไซเคิลมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
Smart Bin ไม่เพียงแค่ช่วยจัดการขยะเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ “เปลี่ยนพฤติกรรม” ของผู้คนให้รู้คุณค่าของขยะในฐานะทรัพยากร และสร้างฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบย้อนกลับวัสดุที่เข้าสู่ระบบรีไซเคิลได้อย่างแม่นยำ
เมืองและชุมชน หัวใจของความสำเร็จในระบบหมุนเวียน
การสร้างเมืองเศรษฐกิจหมุนเวียนต้องเริ่มจากรากฐานทางสังคม โดย นางแซนดี้ คูมาร์ จาก UN-Habitat ประจำเอเชียแปซิฟิก ย้ำถึงความจำเป็นของ “กรอบนโยบายระดับชาติ” ที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และแนะนำเครื่องมือ Waste Wise Cities Tool (WaCT) ซึ่งเป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลขยะอย่างเป็นระบบใน 7 ขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางจนถึงโรงงานปลายทาง เพื่อใช้วางแผนการจัดการขยะในเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ
ภาคขนส่ง ผู้ส่งต่อความรู้สู่นับล้านคน
นางโอลิเวีย หว่อง ผู้บริหารจาก MTR Corporation ฮ่องกง ชี้ให้เห็นว่าภาคขนส่งแม้จะไม่ผลิตขยะโดยตรง แต่มีศักยภาพในการเข้าถึงและสื่อสารกับประชาชนได้มากที่สุด โครงการให้ความรู้ด้านการแยกขยะแก่ผู้โดยสารและพนักงาน และการนำชิ้นส่วนรถไฟที่ปลดระวางไปใช้ในกิจกรรมการศึกษากับโรงเรียน คือการส่งต่อคุณค่าทรัพยากรให้กับเยาวชน และสร้างเมืองที่เข้าใจในวงจรชีวิตของวัตถุอย่างแท้จริง
"โยโกฮาม่า" เมืองต้นแบบแห่งการเปลี่ยนแปลง
อีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จจากญี่ปุ่น โดยนายยูทากะ มิคามิ จากเมืองโยโกฮาม่า แบ่งปันกลยุทธ์การสร้างจิตสำนึกผ่านการศึกษาและความร่วมมือกับครอบครัวตั้งแต่ระดับโรงเรียน การแยกขยะในครัวเรือนไม่ใช่เพียงเรื่องของระบบ แต่คือ “วัฒนธรรม” ที่ปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้เมืองสามารถลดขยะและเพิ่มอัตรารีไซเคิลได้อย่างยั่งยืน พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เมืองในไทยและฟิลิปปินส์ โดยได้รับการสนับสนุนจาก JICA และ ADB
จากเวทีสู่การลงมือ สร้างอนาคตที่หมุนเวียนร่วมกัน
แม้ในปัจจุบันระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในเอเชียจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจเส้นตรงแบบดั้งเดิม แต่เวที Sustainability Week Asia 2025 ครั้งนี้ได้ส่งสารที่ชัดเจนว่า การสร้างเมืองเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เป็นจริงได้นั้น ต้องอาศัย “เทคโนโลยี + นโยบาย + ความร่วมมือ + การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม”
ทุกภาคส่วนตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้บริโภค หน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบการรีไซเคิล ไปจนถึงเยาวชน ล้วนมีบทบาทสำคัญในวงจรนี้ และเมื่อทุกคนเริ่มลงมือทำ แม้เพียงเล็กน้อย เมืองของเราก็สามารถกลายเป็นพื้นที่แห่งความหวัง ความยั่งยืน และนวัตกรรมได้อย่างแท้จริง


