เปิดรายงานวุฒิสภา กรณีศึกษา สถานบันเทิงครบวงจร 3 แห่ง "ลาสเวกัส"
จากดินแดนรกร้างกลางทะเลทรายสู่เมืองหลวงแห่งความบันเทิงของโลก “ลาสเวกัส” คือกรณีศึกษาสำคัญที่วุฒิสภาไทยหยิบยกมาเพื่อประกอบการศึกษาการเปิด สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ในประเทศไทย
เปิดรายงานวุฒิสภา “ถอดบทเรียนลาสเวกัส” จากทะเลทรายสู่มหานครบันเทิง สร้างรายได้ทะลุ 1 ล้านล้านบาท
จากดินแดนรกร้างกลางทะเลทรายสู่เมืองหลวงแห่งความบันเทิงของโลก “ลาสเวกัส” คือกรณีศึกษาสำคัญที่วุฒิสภาไทยหยิบยกมาเพื่อประกอบการศึกษาการเปิด สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ในประเทศไทย โดยชี้ให้เห็นถึงบทเรียนด้านเศรษฐกิจ การจัดการ และการกำกับดูแลที่สามารถแปรเปลี่ยนแหล่งเสี่ยงให้กลายเป็นเครื่องจักรผลิตรายได้ระดับโลก
จุดเริ่มต้นจากศูนย์สู่ศูนย์กลาง
ลาสเวกัส ก่อตั้งในปี 1905 (พ.ศ.2448) เริ่มต้นจากเมืองคนงานเหมืองกลางทะเลทราย รัฐเนวาดา ก่อนจะเปลี่ยนโฉมหน้าในช่วงทศวรรษ 1990 เมื่อเอกชนและภาครัฐร่วมกันลงทุนพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงระดับโลก โดยเฉพาะธุรกิจกาสิโน การท่องเที่ยว และการจัดงานประชุม
3 สถานบันเทิงครบวงจรต้นแบบของลาสเวกัสที่ไทยนำมาศึกษา
1. เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ลาสเวกัส (MGM Grand Las Vegas)
หนึ่งในรีสอร์ตที่ทรงอิทธิพลที่สุดของลาสเวกัส MGM Grand คือแม่แบบของ "สถานบันเทิงครบวงจร" สมัยใหม่ที่ผสมผสานโรงแรมขนาดยักษ์ กาสิโนขนาดใหญ่ การจัดแสดงระดับโลก และกิจกรรมสันทนาการครบวงจร ตั้งอยู่บน Las Vegas Strip เปิดดำเนินการครั้งแรกในปี 1993 และพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมือง
สิ่งอำนวยความสะดวกหลัก
MGM Grand Casino: มีทั้งโต๊ะเกม, สล็อต, โป๊กเกอร์, โซนเดิมพันกีฬาขนาดใหญ่ และห้อง VIP ระดับไฮเอนด์ รองรับลูกค้าทุกระดับ
MGM Grand Garden Arena: สนามอเนกประสงค์ความจุกว่า 17,000 คน ใช้จัดคอนเสิร์ต, การแข่งขันกีฬา, งานประกาศรางวัล เช่น Grammy Awards และ UFC
โรงละครและการแสดง: เคยเป็นที่จัดโชว์ Cirque du Soleil ("KÀ") ซึ่งเป็นหนึ่งในโชว์ถาวรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลาสเวกัส
ไนต์คลับและสถานบันเทิงยามค่ำคืน: เช่น Hakkasan Nightclub ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างสูงในกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ โดยมีดีเจระดับโลกมาเล่นประจำ
ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดัง: เช่น Joël Robuchon, Morimoto Las Vegas, และ Tom Colicchio’s Craftsteak
ศูนย์ประชุมและอีเวนต์: มีพื้นที่จัดประชุมและสัมมนาขนาดใหญ่ สำหรับธุรกิจและองค์กรนานาชาติ
2. เดอะ เวเนเชียน รีสอร์ท ลาสเวกัส (The Venetian Resort Las Vegas)
หนึ่งในสัญลักษณ์ของความหรูหราและความสร้างสรรค์แห่งลาสเวกัส “The Venetian” คือรีสอร์ตขนาดใหญ่ที่จำลองบรรยากาศเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ไว้กลางทะเลทรายอย่างประณีต ประกอบด้วยโรงแรม 5 ดาว กาสิโนระดับโลก พื้นที่จัดแสดงศิลปะ ร้านอาหาร สปา และคลองเวนิสจำลอง สร้างประสบการณ์แบบ “ธีมพาร์ก” สำหรับนักท่องเที่ยว
สิ่งที่โดดเด่นใน The Venetian
โรงแรมหรู ห้องพักรวมกว่า 7,000 ห้อง แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือ The Venetian และ The Palazzo ซึ่งเป็นอาคารพี่น้องต่อเติมทีหลัง มีการตกแต่งแบบหรูหรา เน้นงานศิลปะและความสะดวกสบายสูงสุด
กาสิโนระดับโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 120,000 ตารางฟุต รวมเกมโต๊ะ สล็อตแมชชีน และโซนวีไอพี พร้อมบริการหรูหราทุกระดับ
Grand Canal Shoppes แหล่งช้อปปิ้งหรูที่ออกแบบให้เหมือนเดินอยู่ริมคลองเวนิส มีแบรนด์ดังระดับโลกและคาเฟ่ริมคลองจำลอง พร้อมบริการนั่งเรือกอนโดลาโดยฝีพายร้องเพลงสด
ศูนย์การประชุม Sands Expo & Convention Center ขนาดกว่า 2.25 ล้านตารางฟุต รองรับงานประชุม นิทรรศการ และงานอีเวนต์ระดับโลก เช่น CES และ G2E
ร้านอาหารระดับโลก เช่น CUT by Wolfgang Puck, Bouchon by Thomas Keller และร้านอาหารอิตาเลียนแท้หลากหลาย
สถานบันเทิง เช่น TAO Nightclub, The Venetian Theatre และ Atomic Saloon Show
3. โรงแรมเวอร์จิ้น ลาสเวกัส (Virgin Hotel Las Vegas)
หนึ่งในตัวอย่างของการรีแบรนด์สถานบันเทิงแบบครบวงจรที่ประสบความสำเร็จ Virgin Hotel Las Vegas เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2021 โดยพัฒนาบนพื้นที่เดิมของโรงแรม Hard Rock Hotel ซึ่งมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ก่อนจะได้รับการปรับปรุงและออกแบบใหม่โดยกลุ่ม Virgin Hotels ร่วมกับ Curio Collection by Hilton
Virgin Hotel Las Vegas มุ่งเน้นการผสานระหว่างความหรูหรา ความทันสมัย และการเข้าถึงได้ง่าย มีจุดเด่นหลักๆ คือ
ห้องพักและรีสอร์ตหรู มากกว่า 1,500 ห้อง ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด “Chambers” และ “Suites” โดยเน้นความเป็นส่วนตัวและการใช้งานที่ยืดหยุ่น
กาสิโนขนาดใหญ่ บริหารโดย Mohegan Gaming & Entertainment ซึ่งเป็นเผ่าอินเดียนพื้นเมืองกลุ่มแรกที่ได้สิทธิ์ดำเนินการกาสิโนในลาสเวกัส มีเกมหลากหลายทั้งสล็อต โต๊ะเกม และโซน VIP
The Theater at Virgin Hotels โรงละครขนาด 4,600 ที่นั่ง ที่สามารถรองรับทั้งคอนเสิร์ตระดับโลก การแสดงพิเศษ และงานกิจกรรมต่างๆ
Event Lawn & Elia Beach Club ลานกิจกรรมกลางแจ้งกว่า 13,000 ตารางฟุต และคลับชายหาดสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและผู้จัดงานปาร์ตี้
ร้านอาหารและบาร์ นานาชาติกว่า 15 แห่ง รวมถึงแบรนด์ดังอย่าง Nobu, Casa Calavera, One Steakhouse และ The Shag Room ที่ออกแบบให้มีบรรยากาศเฉพาะตัว
ศูนย์จัดประชุมขนาดใหญ่ ที่รองรับทั้งงานภาครัฐ ภาคเอกชน และการจัดนิทรรศการธุรกิจ
การบริหารจัดการที่เข้มงวด = กุญแจแห่งความสำเร็จ
หัวใจของความสำเร็จอยู่ที่การกำกับดูแลอย่างเป็นระบบโดย Nevada Gaming Commission (NGC) ซึ่งมีภารกิจหลัก ได้แก่:
- ตรวจสอบเกมพนันทุกประเภทในกาสิโน
- ออกใบอนุญาตและคัดกรองผู้ประกอบการ
- ป้องกันเยาวชนเข้าสู่พื้นที่เสี่ยง
- ให้ความรู้และเตือนความเสี่ยงการพนัน
- ปราบปรามอาชญากรรม เช่น การฟอกเงิน
รายได้ทะลุ 1 ล้านล้านบาท และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และรายงานล่าสุดในปี 2024 ลาสเวกัสสามารถสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมบันเทิงสูงถึง 55.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจาก:
- กาสิโน
- การท่องเที่ยวเชิงบันเทิง
- การจัดงานประชุม/นิทรรศการระดับโลก
รายได้เหล่านี้ถูกจัดสรรคืนสู่เมืองผ่านระบบภาษีและกองทุนพัฒนา เช่น การสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ระบบขนส่งมวลชน สวนสาธารณะ และโดยเฉพาะ งบการศึกษาสาธารณะ ของรัฐเนวาดาที่ได้รับประโยชน์โดยตรง
บทเรียนสำคัญสำหรับไทย
การศึกษาโมเดลลาสเวกัสทำให้เห็นว่า “สถานบันเทิงครบวงจร” ไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงจุดเสี่ยงของอาชญากรรมหรืออบายมุข หากแต่สามารถเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หากมี “กรอบกำกับดูแลที่เข้มงวด โปร่งใส และใช้รายได้พัฒนาเมืองและประชาชนได้จริง”
Fact:
ลาสเวกัส (Las Vegas) ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งความบันเทิงของโลก” ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากเมืองกลางทะเลทรายสู่ศูนย์กลางสถานบันเทิงครบวงจรที่มีรายได้มหาศาล แม้ในปี 2024 จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่เมืองนี้ยังคงสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและความบันเทิงในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
รายได้และเศรษฐกิจของลาสเวกัสในปี 2024
รายได้จากการท่องเที่ยว: ในปี 2024 ลาสเวกัสสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 55.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2023 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นปีที่สามติดต่อกัน แม้ว่ารายได้จากการพนันจะลดลงก็ตาม (yogonet.com)
รายได้จากการพนัน: แม้ว่ารายได้จากการพนันทั่วรัฐเนวาดาจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 15.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024 แต่รายได้สุทธิของคาสิโนในลาสเวกัสกลับลดลงถึง 40.4% เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่รุนแรง (cdcgaming.com)
จำนวนนักท่องเที่ยว: ลาสเวกัสดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 41.7 ล้านคน ในปี 2024 เพิ่มขึ้น 2.1% จากปี 2023 โดยมีผู้เข้าร่วมงานประชุมและนิทรรศการจำนวน 6 ล้านคน (Travel Weekly)
การเปลี่ยนแปลงและการกระจายรายได้
ลาสเวกัสได้ปรับตัวโดยการกระจายแหล่งรายได้จากการพนันไปสู่กิจกรรมอื่นๆ เช่น การจัดงานประชุม การแสดงสด และกีฬาอาชีพ ตัวอย่างเช่น การจัดงาน Formula 1 Grand Prix ในปี 2024 สร้างรายได้ให้กับเมืองถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลอ้างอิง
รายงานสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา: ญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
Las Vegas Convention and Visitors Authority (LVCVA)
Yogonet
CDC Gaming Reports
TalkSport F1


