“เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” ไทย ยึดโมเดลสิงคโปร์ -ไม่ใช่กาสิโน
พายุ-ณรงค์ชัย ถก เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เปิดประตูลงทุน–ดึงเงินนอก ดีกว่าปล่อยพนันใต้ดินไร้ควบคุม แนะควรยึดโมเดลสิงคโปร์ ไม่ใช่ลาสเวกัส ย้ำกาสิโนแค่ กิมมิก
รายการ NBT มีทางออก วันนี้ (6 พ.ค2578) เปิดเวทีแลกเปลี่ยนหัวข้อ “เทียบเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไทย–เพื่อนบ้าน” นำโดย นายณรงค์ชัย ใหญ่สว่าง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพอินเตอร์ โดยระบุว่า ประเทศไทยต้องกล้าคิดใหม่ ทำให้สิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาอยู่ในระบบ จะควบคุมได้ดีกว่า เงินไม่ไหลออกนอกประเทศ
เขายังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันกว่า 75% ของประเทศทั่วโลกมีกาสิโนถูกกฎหมายภายใต้กฎหมายและการควบคุม เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และอังกฤษ โดยใช้ระบบ Know Your Customer (KYC) ตรวจสอบผู้ใช้บริการ พร้อมระบบติดตามธุรกรรมการเงินเพื่อป้องกันฟอกเงินและควบคุมผู้ติดการพนัน
ดังนั้นประเทศไทยต้องกล้าคิดใหม่ ทำให้สิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาอยู่ในระบบ จะควบคุมได้ดีกว่า เงินไม่ไหลออกนอกประเทศ และยังใช้ประโยชน์จากรายได้ที่เกิดขึ้นไปสร้างระบบบำบัดหรือช่วยเหลือผู้เปราะบางในสังคมได้ด้วย
ขณะที่นายพายุ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่ได้เดินหน้าเปิดกาสิโนทันที แต่กำลังเตรียมวางกรอบและกฎหมายอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการจำกัดพื้นที่ (โซนนิ่ง) การร่วมทุนระหว่างเอกชนไทย–ต่างชาติ การกำหนดแรงงานไทยขั้นต่ำ และการกำกับกิจการด้วยกฎหมายเฉพาะ
หลายคนมองว่ามันคือ ‘พรบ.กาสิโน’ ทั้งที่จริงแล้วมีกาสิโนแค่ 10% ของโครงการ อีก 90% คือสวนสนุก ศูนย์ประชุม สนามกีฬา คอนเสิร์ตฮอลล์ และกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ ที่ช่วยสร้างงานและรายได้มหาศาล
การที่ประชาชนบางส่วนยังไม่เชื่อมั่น เป็นเพราะระบบรัฐไทยยังขาดความโปร่งใส
ดังนั้นจึงต้องสร้างความเชื่อมั่นก่อน อย่าให้กรณีแบบตึก สตง. ที่ถล่มซ้ำเติมความศรัทธาในกลไกรัฐ
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คน เห็นพ้องว่า โมเดลที่เหมาะกับไทยคือสิงคโปร์ ไม่ใช่ลาสเวกัส โดยกาสิโนเป็นเพียง “กิมมิก” ดึงนักท่องเที่ยว กระตุ้นทราฟฟิก ใช้จ่าย และขยายช่วงเวลาพำนัก เท่านั้น


