กทม. สั่งหยุดเตาเผาขยะติดเชื้ออ่อนนุช เร่งแก้ควันดำ
หลังถูกร้องเรียนควันดำ กทม. สั่งหยุดเตาเผาขยะติดเชื้ออ่อนนุชทันที พร้อมเดินหน้าซ่อมแซมเตาที่เสื่อมสภาพจากวิกฤตโควิด หวังแก้ปัญหาโดยเร็ว ลดผลกระทบต่อประชาชน
จากกรณีที่มีคนร้องเรียนผ่านโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับเตาเผาขยะติดเชื้อที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชปล่อยควันดำเมื่อสัปดาห์ก่อน นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ซึ่งรับผิดชอบจัดการขยะติดเชื้อให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) อธิบายว่า บริษัทดูแลโรงงานเผาขยะติดเชื้อ 3 แห่งในพื้นที่อ่อนนุช ดังนี้
- โรงงานที่ 1 เผาขยะได้ 24 ตันต่อวัน
- โรงงานที่ 2 เผาขยะได้ 16 ตันต่อวัน
- โรงงานที่ 3 เผาขยะได้ 24 ตันต่อวัน
รวมแล้วทั้ง 3 โรงงานเผาขยะได้สูงสุด 64 ตันต่อวัน แต่ปัจจุบันมีขยะติดเชื้อถึง 52-55 ตันต่อวัน ซึ่งใกล้เคียงกับขีดความสามารถสูงสุดของโรงงาน
ปัญหาที่โรงงานที่ 1
โรงงานที่ 1 ซึ่งเป็นโรงงานที่มีปัญหาควันดำ มีเตาเผา 2 เตา ใช้งานมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี 2531 โดยบริษัทเข้ามาบริหารต่อในปี 2541 ปกติเตาเผานี้ทำงานได้ดี แต่ช่วงโควิด-19 (ปี 2563-2565) ปริมาณขยะติดเชื้อพุ่งสูงถึง 126 ตันต่อวัน จากเดิม 45 ตันต่อวัน ทำให้เตาต้องทำงานหนักตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีโอกาสหยุดซ่อมบำรุง ส่งผลให้เตาเสื่อมสภาพและทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
การแก้ไขทันที
หลังมีร้องเรียน กทม. โดยสำนักสิ่งแวดล้อม สั่งให้บริษัทหยุดใช้เตาเผาที่มีปัญหาทันทีตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 และให้ตรวจสอบเพื่อหาทางแก้ไข โดยจะไม่เปิดใช้งานเตาจนกว่าปัญหาจะคลี่คลาย
แผนปรับปรุงเตาเผา
นายธรัฐพร ระบุว่า การซ่อมเตาเผาที่โรงงานที่ 1 ซึ่งใช้เทคโนโลยีเก่าต่างจากโรงงานอื่น ต้องมีการออกแบบและปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ ต้องใช้เงินลงทุนสูง แต่ระยะเวลาสัญญาที่บริษัทมีกับ กทม. เหลือไม่มาก จึงต้องคุยกับ กทม. เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมต่อไป
กทม. ไม่นิ่งนอนใจ
ด้านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และรองผู้ว่าฯ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ติดตามการแก้ปัญหามาโดยตลอด ปัจจุบันสำนักสิ่งแวดล้อมกำลังขอเงินงบประมาณกลางเพื่อเร่งซ่อมแซมเตาเผาให้กลับมาใช้งานได้ดีดังเดิม
กทม. และบริษัทที่เกี่ยวข้องกำลังร่วมมือกันแก้ปัญหา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้เร็วที่สุด


