“MJets” ลงทุน “WOA” รองรับตลาดเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเอเชียโตต่อเนื่อง
การลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ MJets สามารถขยายเครือข่ายการให้บริการไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศในเอเชียได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น สอดรับการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องบินส่วนตัวในภูมิภาคที่มีความต้องการสูง ตั้งเป้าเบอร์ 1 ในเอเชีย
“ประเทศไทยเป็นสำนักงานใหญ่ของ MJETS และหลังจากนี้มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มฝูงบินและศูนย์ซ่อมในประเทศไทย อย่างไรก็ตามการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ จะต้องมีการทำงานร่วมกันกับ ท่าอากาศยานต่าง ๆ ของประเทศไทย”
บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด (MJets) ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวและการบินส่วนบุคคลครบวงจรของประเทศไทย ประกาศเข้าลงทุนใน บริษัท วิงส์โอเวอร์เอเชีย จำกัด (WingsOverAsia) บริษัทผู้ให้บริการเครื่องบินส่วนตัวสัญชาติสิงคโปร์ โดยการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้เอ็มเจ็ทสามารถขยายเครือข่ายการให้บริการไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศในเอเชียได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น สอดรับปัจจัยบวกจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องบินส่วนตัวในภูมิภาคดังกล่าวที่พบว่ามีความต้องการสูงขึ้นต่อเนื่อง
เอ็มเจ็ท เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี พ.ศ 2550 ต่อมาในปีพ.ศ. 2553 บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพและช่องว่างการเติบโตของธุรกิจการบินส่วนบุคคลในประเทศไทย จึงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการสร้างศูนย์บริการอากาศยานส่วนบุคคลครบวงจร (FBO) แห่งแรกในประเทศไทยซึ่งได้รับการโหวตให้เป็น FBO ที่ดีที่สุดในเอเชียต่อเนื่องกันถึง 9 ปีโดย Aviation International News (AIN)
ปัจจุบันเอ็มเจ็ทให้บริการใน 7 กลุ่มธุรกิจหลักคือ
1. บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำ ได้แก่เครื่องบินรุ่น Cessna Citation Bravo จำนวน 2 ลำ Cessna Citation X 1 ลำ Gulfstream GV 1 ลำ และเครื่องบินลำล่าสุด Gulfstream G550 1 ลำ
2. บริการเครื่องบินพยาบาล
3. การบริหารเครื่องบิน
4. บริการอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคลพร้อมห้องรับรองพิเศษ
5. บริการซ่อมบำรุงเครื่องบิน
6. บริหารธุรกิจการบินส่วนบุคคลและการบริการภาคพื้นแบบครบวงจร
7. บริการให้คำปรึกษาและดำเนินการซื้อขายเครื่องบิน
โดย MJets เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังได้ขยายกิจการธุรกิจการบินส่วนบุคคลไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ทั้งประเทศอินเดีย เมียนมาร์ และกัมพูชา
ปัจจุบันรายได้หลักของ MJets มีสัดส่วนรายได้ 55% มาจาก บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำและบริการเครื่องบินพยาบาล นอกจากนั้นอีก 30% มาจาก การบริหารธุรกิจการบินส่วนบุคคลและการบริการภาคพื้นแบบครบวงจร โดยภายหลังความร่วมมือดังกล่าวจะส่งผลให้การบริการภาคพื้นจะขยายตัวขึ้น
จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเครื่องบินเจ็ทและการบินส่วนบุคคลในเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อ้างอิงจากการคาดการณ์ขององค์กรวิจัยการตลาด Mordor Intelligence ที่วิเคราะห์อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ของอุตสาหกรรมดังกล่าวที่ 14.36% ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นจาก 463.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2567 สู่ 906.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2572 จากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มของลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงและสูงพิเศษ (High & Ultra-High Net Worth Individuals) ที่แสวงหาประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ ตลอดจนการจัดกิจกรรมทางธุรกิจอย่างการประชุม มหกรรม หรือการพูดคุยระหว่างองค์กรในภูมิภาคดังกล่าวมากขึ้น ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ทำให้เอ็มเจ็ทตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนและขยายเครือข่ายการบินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
การจับมือร่วมกันในครั้งนี้ทาง MJets เข้าไปลงทุนให้แก่ WingsOverAsia เป็นมูลค่ากว่า 17 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ประมาณ 450 ล้านบาท) ในระยะยาว ซึ่งจะเป็นการขยายฐานลูกค้าระหว่าง MJets และ WingsOverAsia ในเอเชียให้กว้างขึ้น สอดรับกับการเติบโตของธุรกิจการบินส่วนบุคคลที่เติบโตขึ้นทุกปี ในปี 2024 ทาง MJets ตั้งเป้าการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทยที่ดำเนินงานร่วมกับภาครัฐต่อไป พร้อมตั้งเป้าการร่วมมือจะช่วยผลักดันองค์กรให้เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านเครื่องบินส่วนตัวครบวงจรระดับเวิลด์คลาสอันดับ 1 ของเอเชียได้สำเร็จ
วิงส์โอเวอร์เอเชีย ก่อตั้งขึ้นในพ.ศ. 2552 โดยพัฒนาจากการเป็นผู้บุกเบิกเครือข่ายการบินและบริการต้อนรับผู้โดยสารแห่งแรกของเอเชีย ไปสู่การออกแบบและสร้างศูนย์บริการเครื่องบินส่วนตัวครั้งแรกของภูมิภาค ณ สนามบินนานาชาติเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ มีการให้บริการต่าง ๆ ทั้งการขาย การบำรุงรักษา และการบริหารจัดการเครื่องบิน การฝึกอบรบการบิน การสนับสนุนการบิน บริการอาหารและเครื่องดื่ม ไปจนถึงกิจกรรมไลฟ์สไตล์
“ในอนาคต นอกจากการสนับสนุนเอ็มเจ็ทให้บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวและการบินส่วนบุคคลอันดับหนึ่งในเอเชียแล้ว วิงส์โอเวอร์เอเชียมีแผนที่จะพัฒนาการดำเนินงานและการบริการให้เข้าถึงลูกค้าทุกภาคส่วนในระดับสากล ตลอดจนขยายขอบเขตการดำเนินงานและพื้นที่ในการบริการให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการบินที่สามารถรองรับเครื่องบินส่วนตัวรุ่นใหม่และมาพร้อมการบริการแบบครบวงจร นอกจากนี้จะร่วมมือกับบริษัทการผลิต (Original Equipment Manufacturer) ที่มีเทคโนโลยีการบินขั้นสูง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ทันสมัย และหรูหรา ที่มาพร้อมความปลอดภัยสูงสุด สอดรับวิสัยทัศน์การพัฒนาบริการที่เหนือระดับสำหรับเจ้าของเครื่องบินส่วนตัว และผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องบินทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นายอึ้ง โหย่ว เหมง ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิงส์โอเวอร์เอเชีย จำกัด กล่าวทิ้งท้าย


