เปิดใจ "สมโภชน์" วอนรัฐฯช่วยหนุน EV ภาคคมนาคม-ขนส่งมากขึ้น
สมโภชน์ อาหุนัย ซีอีโอ "พลังงานบริสุทธิ์(EA)" เปิดใจถึงธุรกิจรถพลังงานไฟฟ้า ชี้อยากให้ภาครัฐฯมีมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรม EV เชิงพาณิชย์ เชื่อหากอยากกระตุ้นภาคอุตสาหกรรม เสริมให้มีพลังงานสะอาด และซัพพลายเชนรถ EV มากขึ้น ต้องใช้ยากระตุ้นที่แรงกว่ามาตรการ EV 3.5
สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดใจถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรม EV เชิงพาณิชย์และการขนส่งว่า อยากให้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือมายังผู้ประกอบการในอุตสหกรรมนี้บ้าง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลช่วยเหลือแต่รถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น
"เราไม่ได้มีทรัพยากรเหลือเฟือมากเหมือนสมัยก่อน เพราะฉะนั้นทางที่เราจะเดิน มันต้องมียุทธศาสตร์ที่ดี เราจะต้องมีผู้นำ หรือรัฐบาลเป็นคนไปทะลวงสิ่งเหล่านี้ ซึ่งผมเชื่อว่ารัฐบาลก็กำลังที่จะทำอยู่"
"สิ่งเหล่านี้ถ้าเรารู้จักวิเคราะห์สถานการณ์โลก เศรษฐกิจโลกก็ดี หรือ Geopolitics ( ภูมิรัฐศาสตร์) มันมีทิศทางเป็นอย่างไร อันนี้เราต้องยอมรับว่าไทยไม่ใช่ประเทศที่ใหญ่ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น เราเล็กนิดเดียว เพราะฉะนั้นหากเราจะไปเป็นผู้นำในเรื่องอะไรก็แล้วแต่เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือเราต้องจับกระแสโลกตอนนี้มันเป็นอย่างไร ใครได้เปรียบ เสียเปรียบ ประเทศไทยอยู่จุดนี้ เราจะช่วงชิงโอกาส หรือเข้าไปเสริมสิ่งเหล่านี้ ผมเชื่อว่าทั้งวิกฤติและโอกาส มันมีโอกาสอยู่แล้ว เพียงแต่เรามองมันเห็นไหม และใช้มันยังไง เอกชนก็มองอย่างนี้อยู่แล้ว แต่ถ้ารัฐบาลเข้ามาเสริมด้วยมันก็จะเป็นเรื่องดี" สมโภชน์ เผยกับโพสต์ ทูเดย์
ชี้รัฐบาลต้องใช้ยาแรงช่วยเสริม อุตสาหกรรม EV เชิงพาณิชย์
ต่อข้อถามเรื่องนโยบายสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการรถ EV จากรัฐบาล ตรงนี้ "สมโภชน์" เสริมว่า
"ยังยืนยันนะครับว่ารัฐบาลควรที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรม EV เชิงพาณิชย์ เพราะมันเป็น all in one เพราะหากคุณส่งเสริม อุตสาหกรรม EV เชิงพาณิชย์ มันจะสร้าง ซัพพลาย เชน (ห่วงโซ่อุปทาน) ของอุตสาหกรรม EV ในประเทศให้แข็งแกร่ง แล้วมันก็จะไปช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ส่วนบุคคลให้มันแข็งแกร่งตามไปด้วย เพราะ ซัพพลาย เชน (ห่วงโซ่อุปทาน) อันเดียวกัน การไปสนับสนุนอุตสาหกรรม EV เชิงพาณิชย์ เราจะได้ในเรื่องสิ่งแวดล้อม ลด PM 2.5 ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ ตรงนี้เองจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของเราดีขึ้น"
"เราโดนต่างชาติกีดกันเรื่องการปล่อยคาร์บอน ถ้าเราทำตรงนี้ได้เราก็จะโดนกีดกันน้อยลง และที่สำคัญกว่านั้น รถเชิงพาณิชย์หากมีการส่งเสริมอย่างจริงจังมันจะมีการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมากมายมหาศาล เพราะการใช้พลังงานไฟฟ้าเยอะๆ ส่งให้ค่าไฟในประเทศถูกลง ทำให้มีช่องว่างที่สามารถเพิ่มโรงไฟฟ้าใหม่ที่เป็นโรงไฟฟ้าสะอาดมากขึ้น มัจะทำให้ประเทศไทยมีไฟฟ้าสะอาดราคาถูก และทำให้การลงทุนในไทยที่ต่างชาติติดเรื่องคาร์บอนแล้วมาไม่ได้เพราะเราไม่มีไฟฟ้าสะอาด และไฟฟ้าราคาถูกก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย"
"คือเรื่องนี้รัฐบาลได้ทำแล้ว คือการลดภาษี 2 เท่า แต่ผมว่ายามันยังแรงไม่พอ ลองไปดูทุกประเทศได้เลยครับ หากเขาส่งเสริมเรื่องพลังงานสะอาด เขาจะสนับสนุนช่วยภาคขนส่งก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าเรามาทางรถเล็ก(รถนั่งส่วนบุคคล) มันจะผิดนะ คือเราทำรถเล็กมันก็ทำให้เกิดอุปสงค์ และมีโรงงานเข้ามาตั้งเต็มไปหมด แต่เราก็ต้องทำซัพพลายด้วย เพราะหากซัพพลายของเราไม่แข็งแรง มันก็จะกลายเป็นทัวร์ศูนย์เหรียญไปนะครับ เขาก็จะเอาชิ้นส่วนทุกอย่างเข้ามา แล้วให้เราประกอบ เราก็จะได้แค่ค่าแรงไม่กี่พันบาท ผมเลยบอกไงครับว่าเราต้องทำทั้ง อุปสงค์และอุปทาน วันนี้เราทำสำเร็จไปแล้วครึ่งนึงคือดีมานด์ด้านรถเล็ก เราต้องสร้างซัพพลายให้แข็งแรง และไปแก้ปัญหาหลายๆข้อที่เป็นอยู่"
"ผมว่าแก้ข้อนี้ได้ เราแก้ได้อีกหลายสิบข้อไปได้พร้อมๆกันเลย อย่าง PM 2.5 ที่เราพยายามแก้กันอยู่ ทุกคนตอนนี้กำลังโทษกันไปมา ฝ่ายหนึ่งก็โทษเผาป่า อีกฝ่ายก็บอกมาจากรถยนต์สันดาป โทษกันไปมาเราก็ยังอยู่กับ PM 2.5 แต่ผมอยากย้ำว่า ช่วงที่มีโควิดก็เผากัน แต่ไม่มีรถและกรุงเทพก็ใสสะอาดไร้ปัญหา PM 2.5 ผมไม่รู้หรอกว่ามันเกิดจากอะไร แต่หากเราไม่ปล่อยควันรถยนต์ออกมา ถึงจะมีการเผาป่าเผาไร่ อากาศมันก็ไม่แย่แบบที่เห็นนี้แน่นอน"
อยากให้รัฐบาลสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมขนส่งเหมือนดิจิทัล วอลเล็ท
การที่รัฐบาลทำโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ท ก็เพราะรัฐบาลต้องการให้เกิดการใช้จ่ายครั้งใหญ่ ต้องการให้เกิดการลงทุน ส่วนอุตสาหกรรมก็ไม่ต่างกัน อุตสาหกรรมไม่มีใครขยายโรงงานได้ ถ้าการซื้อมันซื้อกันคนละเล็กน้อย มันโตไม่ได้เพราะมันไม่มี "ดีมานด์" ที่ชัดเจน
แต่ถ้ารัฐบาลทำเป็น "Big Dream" โครงการใหญ่เหมือนดิจิตัล วอลเล็ท ผมเชื่อว่าต่างประเทศจะเห็นภาพว่าเมืองไทยมีความต้องการชัดเจนที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ การลุงทุนก็จะเกิด อันนี้ผมไม่ได้พูดแค่มุมที่บริษัทผมจะได้ประโยชน์นะครับ "สมโภชน์ " เสริม
สำหรับการสนับสนุนจากภาครัฐที่ชัดเจนนอกจากภาษี 2 เท่า "สมโภชน์" มองว่าส่วนใหญ่รัฐบาลประเทศอื่นเขาให้เงินมาสนับสนุนเลย
"อย่างรถเล็ก 1 คัน ขับได้วันละประมาณ ร้อยกิโลเมตร รัฐบาลยังช่วยได้คันละ 1-1.5 แสนบาท แต่รถใหญ่ไม่มีการสนับสนุนสักบาทเดียว ถามว่าคนจะซื้อรถเขาต้องลงทุนมากขึ้น คนที่มีเงินเขาก็ลงได้ ส่วนคนไม่รวยเขาก็ต้องชะลอไป เพราะไม่มีเงิน เพราะฉะนั้นเมื่อรถเล็กสนับสนุนได้ รถใหญ่ในภาคขนส่งก็ยิ่งต้องหนุนเพราะคนใช้เยอะกว่า"
"อย่ากลัวว่าจะไปตกกับผู้ผลิตเพียงไม่กี่เจ้าแล้วจะเกิดการผูกขาด ถ้ามองแบบนั้นค่ายรถญี่ปุ่นไม่กี่เจ้าที่อยู่ก่อนหน้านี้ก็ผูกขาดไหม ผมว่าประเทศไทยเราติดอยู่ข้อเดียวคือเราไม่ไปมองภาพใหญ่ แต่กลับมองแค่เรื่องเล็กๆ กลัวว่าคนนั้นคนนี้จะได้ประโยชน์ เราไม่มองภาพใหญ่ว่าถ้าคนนี้ได้ประโยชน์แล้ว ภาพใหญ่มันจะได้ประโยชน์มากกว่าไหม"
"สมมติ SAMSUNG เขาทำสำเร็จ ทุกคนในโลกใช้SAMSUNG คนเกาหลีเขาก็ใช้กันเกือบทั้งประเทศ เพราะประเทศเกาหลีเจริญ SAMSUNG เจริญ ประชาชนเขาภูมิใจในแบรนด์บ้านเกิดอย่าง SAMSUNG วันนี้ทำไมเราจะมี ปตท. มี SCG , E@ หรือ NEX ให้คนไทยภูมิใจ วันนี้มันไม่ได้ผิดตรงไหนเลย ผมว่าตลาดนี้มันก็ไม่ใช่ตลาดที่ไม่เสรี ถ้าเขาเห็นตลาดมันโต มันก็จะไม่มีแค่เจ้าเดียว แต่ก็จะมีรายที่ 2,3, เข้ามาแข่งอยู่แล้ว บางคนอาจจะบอกว่า ก็พวกคุณได้ลงก่อนไง ผมก็ขอถามกลับไปว่าคนที่เขาลงก่อนเขาเสี่ยงก่อนใช่ไหมครับ"
"แต่พอตลาดมันโตมันก็ไม่ใช่เหลือคนเดียว พอมีคนเข้ามาแข่งแล้ว หากรายหลังเก่งกว่า รายแรกก็ล้มหายไปได้นะ อย่างรัฐบาลจีนอุตสาหกรรมของเขา ช่วงเริ่มต้นรัฐบาลก็ช่วยหนุนเงินเต็มที่ จนแบรนด์รถ EV เกิดมาเป็นร้อยๆแบรนด์ เขาก็ปล่อยให้แข่งกัน จนสุดท้ายก็เหลือแบรนด์ใหญ่ๆที่แข็งแรง จนสามารถส่งออกได้"
"ผมถึงบอกว่าอย่าไปกลัวว่าใครจะได้ประโยชน์ การได้ประโยชน์ไม่มีใครได้ประโยชน์ไปตลอดครับ"


