ที่แรก! Flexi Mega Space Bangna คอนโดกรีนยุคใหม่-รักษ์โลกที่อยู่ได้จริง
SENA สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการอสังหาฯ ด้วย "Flexi Mega Space Bangna" แนวคิด Solar Everywhere – EV Shuttle – Rent to Own พิสูจน์ว่าคอนโดรักษ์โลกไม่ต้องแพง และทุกคนมีส่วนร่วมได้ง่าย
KEY
POINTS
- SENA สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการอสังหาฯ ด้วย "Flexi Mega Space Bangna"
- ด้วยแนวคิด Solar Everywhere – EV Shuttle – Rent to Own
- พิสูจน์ว่าคอนโดรักษ์โลกไม่ต้องแพง และทุกคนมีส่วนร่วมได้ง่าย
โครงการ Flexi Mega Space Bangna ของ "บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA" ขับเคลื่อนด้วยปรัชญาอันเป็นจุดยืนขององค์กร นั่นคือการสร้าง "Affordable Green" หรือ ที่อยู่อาศัยสีเขียวที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้
โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงอาคารพักอาศัย แต่เป็นความมุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถช่วยลดโลกร้อนได้ในชีวิตประจำวัน โดยที่คุณภาพชีวิตและค่าใช้จ่ายไม่เพิ่มขึ้น
จุดยืน "Low Carbon Living" ที่เป็นรูปธรรม
Flexi Mega Space Bangna โดดเด่นด้วยการเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการลดคาร์บอนที่เกิดจากการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างจริงจัง "ดร.ยุ้ย" ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เชื่อว่าผู้บริโภคทุกคนเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในการรักษ์โลก หากไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อนหรือมีต้นทุนสูงเกินไป
การออกแบบทั้งหมดมุ่งเป้าไปที่การลดของเสีย (Waste) ทั้งด้านพลังงาน ทรัพยากร และเวลา ซึ่งการลดของเสียเหล่านี้คือการเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- Solar Everywhere (พลังงานแสงอาทิตย์ทุกจุด): เสนาฯไม่ได้ติดตั้งโซลาร์เซลล์แค่บนหลังคาเท่านั้น ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการใช้งานทั้งตึกเนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่ แต่ใช้แนวคิด "Solar Everywhere" โดยติดตั้งโซลาร์ในจุดที่เกิดการใช้ไฟ เพื่อลดการใช้พลังงาน ณ จุดนั้นโดยตรง เช่น โคมไฟ ฯลฯ
- VEMOVE (Smart Mobility): มีบริการรถรับส่ง EV Shuttle Car ที่ใช้พลังงานสะอาด 100% รถเหล่านี้จะถูกชาร์จเฉพาะในช่วงกลางวันเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าใช้พลังงานจากโซลาร์ นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชันจัดการตารางการเดินรถเพื่อให้แต่ละรอบมีผู้โดยสารสูงสุดเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองทรัพยากร
- การคำนวณคาร์บอนที่ชัดเจน : โครงการคอนโดแรกในประเทศไทยที่คำนวณปริมาณคาร์บอนที่ลดได้ต่อห้องอย่างชัดเจนให้กับลูกบ้าน ณ วันที่ซื้อ เช่น ห้องสตูดิโอสามารถช่วยลดคาร์บอนได้ 1,144 ตัน CO2 ต่อปี เพื่อตอกย้ำให้ลูกค้ารับรู้ว่าการใช้ชีวิตของพวกเขากำลังช่วยลดคาร์บอน
- Smart Parking : มีระบบบอกจำนวนที่จอดรถว่าง เพื่อลดเวลาที่ผู้อยู่อาศัยต้องวนหาที่จอด ซึ่งเป็นการลดการใช้น้ำมันและลดการผลิตคาร์บอนทางอ้อม
- การคัดเลือกต้นไม้ : มีการคัดเลือกและใช้พันธุ์ไม้ที่คำนวณแล้วว่าสามารถดูดซับคาร์บอนได้มากกว่าต้นไม้อื่น โดยปริมาณคาร์บอนที่ลดได้จากโครงการเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้เพิ่ม 128,000 ต้นต่อปี
เทคโนโลยี Smart Security และ Application : ใช้ AI Camera ในระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ ทำให้ลดการใช้บุคลากรในการเฝ้าระวัง และมีการลงทุนในแอปพลิเคชันเพื่อจัดการการติดต่อประสานงานและการรับพัสดุ ซึ่งช่วยลด "Transaction Cost" และประหยัดเวลาของลูกบ้าน
จุดขาย "Flexibility" และ Affordable Green ที่อยู่ได้จริง
จุดขายที่แข็งแกร่งที่สุดของโครงการ คือ การมอบ Green Experience ให้ลูกค้า โดยที่ไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่าย
- Affordability : โครงการตั้งอยู่ในทำเลบางนาถนนใหญ่ ซึ่งพื้นที่ละแวกใกล้เคียงมีราคาสูง แต่ราคาขายยังคงอยู่ในระดับที่เอื้อมถึง อยู่ที่ 78,000 ถึง 85,000 บาทต่อตารางเมตร และราคาเริ่มต้นยูนิตอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท
- ค่าส่วนกลางต่ำมาก : ค่าส่วนกลางอยู่ที่เพียง 32 บาท ซึ่งถูกมากเมื่อเทียบกับราคาตลาดในละแวกเดียวกันที่เฉลี่ยประมาณ 45 บาท เสนาฯให้ความสำคัญอย่างยิ่งว่านวัตกรรมสีเขียวที่นำมาใช้จะต้องไม่เพิ่มภาระค่าส่วนกลาง เพราะหากค่าส่วนกลางแพง ลูกค้าจะไม่ใช้หรือไม่ดูแลรักษาในที่สุด ทำให้ความยั่งยืนนั้นไม่เกิดขึ้นจริง
กลยุทธ์การลงทุนและปรับตัวในตลาด
ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (loan rejection rate) สูงถึง 70% เสนาฯวางกลยุทธ์เพื่อรองรับความท้าทายนี้ และรักษาความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจสีเขียวที่ยั่งยืน
- ยืนหยัดใน Affordable Green : เสนาฯเชื่อว่าการทำธุรกิจต้องมีกำไร แต่ต้องทำในมิติที่ใหญ่กว่าแค่การทำกำไรปกติ นั่นคือการมองถึงความยั่งยืน (SDG) แม้การทำ Green จะเพิ่มต้นทุน แต่บริษัทเลือกที่จะทำ Green ในส่วนที่ Affordable โดยใช้การลดของเสีย (waste) ที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าจริง เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตควบคู่ความยั่งยืน
- โครงการเช่าออมบ้าน (Rent-to-Own) : นี่คือกลยุทธ์สำคัญในการแก้ปัญหาสินเชื่อ โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือ 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่มี Bad Income (รายได้ไม่ถึง), Bad Confidence (First Jobber ที่ไม่มั่นใจ) และ Bad Credit (ประวัติเครดิตไม่ดี)
"การเช่าออมบ้าน" ลูกค้าสามารถจ่ายค่าเช่ารายเดือน ส่วนหนึ่งจะถูกนำไปสะสมเป็นเงินต้นเพื่อซื้อบ้าน ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสในการเป็นเจ้าของทรัพย์สินมากขึ้น สอดคล้องกับ SDG ข้อ 11 โครงการนี้ดำเนินการโดยเสนาฯเอง และเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำอย่างจริงจัง เพราะมองว่าเป็นเทรนด์ที่ยั่งยืนในสังคมไทย
โครงการ Flexi Mega Space Bangna จึงเป็นมากกว่าคอนโดราคาเข้าถึงได้ แต่เป็นผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นทางธุรกิจที่ต้องการพิสูจน์ว่า การรักษ์โลกไม่ได้เป็นเพียงสิทธิพิเศษของคนรวยที่อยู่บนหอคอย แต่เป็นวิถีชีวิตที่ทุกคนสามารถเลือกได้โดยไม่ทำให้ชีวิตตนเองแย่ลง
ภารกิจของเสนา คือ การทำให้ลูกค้า "อิน" กับเรื่อง GREEN ไปเรื่อยๆตลอดอายุการใช้งานผ่านนวัตกรรมที่ช่วยให้ชีวิตโลว์คาร์บอนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย.


