posttoday

ธุรกิจโรงแรมไทยปี 2568 ฟื้น เข้าพักพุ่ง ราคาขยับรับนักท่องเที่ยว

22 กรกฎาคม 2568

ธุรกิจโรงแรม ปี 68 ไทยโตต่อเนื่อง อัตราเข้าพักแตะ 75% ราคาห้องขยับ 5% รับนโยบายรัฐ-นักท่องเที่ยวศักยภาพสูง ดันโอกาสลงทุน-เทรนด์ใหม่โตแรง

ธุรกิจโรงแรมไทยปี 2568 คึกคัก! อัตราเข้าพักพุ่ง-ราคาขยับ รับนักท่องเที่ยว

ธุรกิจโรงแรมไทยกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สดใส โดย SCB EIC Industry insight ชี้ว่าในปี 2568 ธุรกิจโรงแรมของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักเฉลี่ย ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีความท้าทายที่ต้องจับตา แต่ภาคอสังหาริมทรัพย์และบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ธุรกิจโรงแรมไทยปี 2568 ฟื้น เข้าพักพุ่ง ราคาขยับรับนักท่องเที่ยว

สัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน: อัตราเข้าพักและราคาห้องพักปรับขึ้น
SCB EIC Industry insight คาดการณ์ว่าในปี 2568 อัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 75% การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เริ่มกลับมาใกล้เคียงภาวะปกติ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพสูงที่เติบโตแบบก้าวกระโดด เช่น นักท่องเที่ยวรัสเซีย ที่มีแนวโน้มเดินทางมาไทยมากขึ้นและพำนักนานขึ้นตามนโยบายขยายระยะเวลาการพำนักในไทยเป็น 90 วัน

ในส่วนของราคาห้องพักเฉลี่ย คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการที่ผู้ประกอบการโรงแรม โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป ได้ปรับราคาห้องพักภายหลังการปรับปรุงและยกระดับการให้บริการให้สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวปัจจุบัน นอกจากนี้ โปรโมชันต่อเนื่องและยอดจองที่เพิ่มขึ้นก็มีส่วนช่วยหนุนให้ราคาห้องพักปรับสูงขึ้นเช่นกัน
ธุรกิจโรงแรมไทยปี 2568 ฟื้น เข้าพักพุ่ง ราคาขยับรับนักท่องเที่ยว

ผู้เชี่ยวชาญร่วมยืนยัน: อุปสงค์แข็งแกร่ง หนุนตลาดโรงแรมเติบโต
นางสาวโชติกา ทั้งศิริทรัพย์ หัวหน้าแผนกวิจัยและให้คำปรึกษา ซีบีอาร์อี (CBRE) เปิดเผยว่า ในปี 2568 คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 40 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 35.5 ล้านคน โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักจะยังคงเป็น จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และไต้หวัน ส่วนด้านอุปทานนั้น คาดว่าโรงแรมจะมีซัพพลายรวม 80,000 คีย์ เพิ่มขึ้น 7% และซัพพลายกลุ่มใหม่ที่เข้ามาคือโรงแรมระดับลักชัวรี ซึ่งจะส่งผลให้ราคาห้องพักปรับเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 4,000 บาทต่อคืน

โอกาสการลงทุนและเทรนด์ท่องเที่ยวใหม่
เจแอลแอล (JLL) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ว่ามูลค่าการซื้อขายโรงแรมในไทยปี 2568 อาจสูงเกิน 1.3 หมื่นล้านบาท โดยกรุงเทพฯ ยังคงเป็นทำเลที่น่าสนใจสูงสุด เจแอลแอลยังชี้ว่ากลุ่มโรงแรมระดับไฮเอนด์จะมีผลประกอบการที่คงที่ ขณะที่กลุ่มราคาประหยัดและระดับกลางจะยังคงปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่แตกต่างกันของนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวในยุคใหม่มีความพร้อมที่จะจ่ายมากขึ้นเพื่อบริการระดับพรีเมียมและประสบการณ์ที่แปลกใหม่ รวมถึงเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness tourism) และการทำงานจากที่ใดก็ได้ (Workation) ที่กำลังเป็นที่นิยม

ธุรกิจโรงแรมไทยปี 2568 ฟื้น เข้าพักพุ่ง ราคาขยับรับนักท่องเที่ยว

ครึ่งปีหลังสดใส: นโยบายรัฐหนุนการท่องเที่ยว
ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 เมืองท่องเที่ยวหลายแห่งเตรียมรับแรงหนุนเพิ่มเติมจากโครงการ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" เฟสใหม่ ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม - 31 ตุลาคม 2568 รวมถึงมาตรการยกเว้นวีซ่าที่บังคับใช้มาตั้งแต่กลางปี 2567 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเดินทางและเพิ่มระยะเวลาการพำนักของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพสูงอย่างรัสเซีย ที่ได้รับสิทธิ์พำนักในไทยนานขึ้นถึง 90 วัน

ความท้าทายและการปรับตัวของผู้ประกอบการ
แม้จะมีแนวโน้มที่ดี แต่การปรับตัวของผู้ประกอบการยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการนำเสนอนวัตกรรม การยกระดับมาตรฐานบริการ และการให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความยั่งยืน ซึ่งกำลังเป็นแรงผลักดันให้โรงแรมไทยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดใหม่ของสหภาพยุโรปภายในปี 2569 เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและคว้าโอกาสในตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป

ธุรกิจโรงแรมไทยในปี 2568 กำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง พร้อมโอกาสมากมายที่รออยู่ข้างหน้า แต่ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับการปรับตัวและวิสัยทัศน์ของผู้ประกอบการในการตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปและข้อกำหนดใหม่ๆ ของตลาดโลก

ข่าวล่าสุด

ประกาศ! ปิดกั้นอ่าวไทย 'สกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย' เข้ากัมพูชา