posttoday

ถอดมุมคิด "ภูมิภักดิ์" แม่ทัพสายกลยุทธ์ "แสนสิริ" เวทีนี้ไม่มีคำว่าแพ้

28 มกราคม 2567

เกมธุรกิจจากนี้ไม่ยากแต่ไม่ง่าย "ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ" นำทัพกลยุทธ์ "แสนสิริ" ชูธง "รายได้โตต่อเนื่อง - บริหารพอร์ตสินค้าพร้อมขาย - รักษากระแสเงินสดและมีวินัยทางการเงิน" มั่นใจรับมือได้ทุกสถานการณ์ พร้อมครองแชมป์ผู้นำกลุ่มอสังหาฯ

     วงการอสังหาฯไม่มีใครไม่รู้จัก "ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ" ผู้ที่คร่ำหวอดด้านพร็อพเพอร์ตี้มานานกว่า 18 ปี และเป็นหัวเรือใหญ่สร้างตำนานและความต่างให้กับ "บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด" เติบโตอย่างมั่นคงจนทุกวันนี้ เรียกว่าอวดฝีไม้ลายมือแบบไม่เป็นสองรองใครในว่านเครือ "บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI" มาอย่างยาวนาน

     วันนี้ "คุณอาร์ม" มาพร้อมกับบทบาท "ประธานผู้บริหารสายงานกลยุทธ์ SIRI" ตำแหน่งใหม่ที่ผู้บริหารระดับสูงของ SIRI แต่งตั้งขึ้น เพื่อดูแลฝ่ายการเงินการบัญชี บริหารการขาย ทรัพยากรมนุษย์ และเทคโนโลยีและสารสนเทศ

     แน่นอนว่า การดึงนักปั้นอสังหามือทองมาแบบนี้ นั่นหมายความว่า "แสนสิริ" นับจากนี้ย่อมเหนือกว่าคู่แข่งในทุกมิติ ใช่หรือไม่ ? 

      หรือ อีกนัยยะหนึ่ง ก็คือ เพื่อมาคุมหลังบ้านไม่ให้ใช้จ่ายมือเติบ แต่ให้ใช้เงินอย่างคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ สู้ศึกปีมังกรที่ดูแล้วไม่น่าจะสู้ดี ใช่ หรือ ไม่ ?

     "ปี 2567 นี้เป็นปีที่แสนสิริก้าวสู่ปีที่ 40 ครองผุ้นำกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย แม้ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้มีหลายคนกังวลในหลายปัจจัย แต่เราคาดว่าเศรษฐกิจจะยังทรงตัวไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา โดยยังคงเผชิญปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจัยในประเทศที่มีความท้าทาย ก็คือเรื่อง "ดอกเบี้ย" ถือเป็นตัวแปรสำคัญ

     ส่วนปัจจัยที่ส่งเสริมธุรกิจอาจมาจากการฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นให้มีแรงซื้อจากชาวต่างชาติเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มคอนโดมีเนียมที่ขยายตัว"

ถอดมุมคิด \"ภูมิภักดิ์\" แม่ทัพสายกลยุทธ์ \"แสนสิริ\" เวทีนี้ไม่มีคำว่าแพ้

คำถาม คือ เศรษฐกิจทรงตัว แต่ทำไม "แสนสิริ" เติบโต ? 

     นั่นเพราะว่า "แสนสิริ" เดินตาม 3 กลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและทำให้แสนสิริประสบความสำเร็จในระยะยาว เริ่มจาก กลยุทธ์ข้อแรก คือ การวางแผนเติบโตสม่ำเสมอ แน่นอนว่าไม่เน้นสร้างยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่แสนสิริโฟกัสการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มสัดส่วนการเปิดตัวโครงการให้มากขึ้นโดยเฉพาะโครงการแนวราบ และการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่สูง

ถอดมุมคิด \"ภูมิภักดิ์\" แม่ทัพสายกลยุทธ์ \"แสนสิริ\" เวทีนี้ไม่มีคำว่าแพ้      โดยจะเห็นว่า ผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 4,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

     และเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มอสังหาฯ ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 40 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และมากกว่ากำไรสุทธิของทั้งปี 2565

     สะท้อนการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพของบริษัท เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต และนับเป็นผลการดำเนินงานที่เติบโตตาม Business Direction ที่วางไว้

     นอกจากนี้ แสนสิริยังมุ่งสร้างผลตอบแทนสูงสุดกับผู้ถือหุ้น จากผลกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง เพื่อให้นักลงทุนได้รับเงินปันผลที่สูงขึ้นในอนาคต จากสถิติการจ่ายปันผลที่มาพบว่า Dividend Yield ปีล่าสุด 2566 อยู่ที่ 12.4%

ถอดมุมคิด \"ภูมิภักดิ์\" แม่ทัพสายกลยุทธ์ \"แสนสิริ\" เวทีนี้ไม่มีคำว่าแพ้

     "เราอยากทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตต่อไปในระยะยาวได้ก็ต้องมีโครงการออกมาขายมากขึ้น หรือ ขายที่ระดับราคาสูงขึ้น จากที่ผ่านมาจะเห็นว่าช่วงโควิด-19 เรามีโครงการขายไม่ถึง 100 โครงการ และในปี 2567 นี้มีการพัฒนาพร้อมเปิดตัวโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 46 โครงการ มูลค่า 61,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 26 โครงการ มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 20 โครงการ มูลค่า 26,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขาย 52,000 ล้านบาท และเป้าหมายยอดโอนที่ 43,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 70% และอีก 30% คือคอนโดฯ 

     ข้อดีของการมีโครงการแนวราบ 70% เป็นยอดการรับรู้รายได้นั้น ปกติเวลาเราสร้างบ้านแนวราบ เงินลงทุนที่ใช้ตั้งแต่ตอกเสาเข็มจนถึงส่งมอบบ้าน ใช้เวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น ดังนั้นเงินที่จะหมุนกลับมาไปลงทุนต่อเนื่องค่อนข้างรวดเร็ว ซึ่งต่างจากการสร้างคอนโดฯที่จะใช้เวลาก่อสร้าง 1-4 ปี หรือเฉลี่ย 3ปี ดังนั้นมันเพิ่มความแข็งแกร่งให้ผลการดำเนินงาน"

ถอดมุมคิด \"ภูมิภักดิ์\" แม่ทัพสายกลยุทธ์ \"แสนสิริ\" เวทีนี้ไม่มีคำว่าแพ้

     กลยุทธ์ข้อที่สอง คือ บริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขาย ให้กระจายไปในหลากหลายทำเล เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากกว่า ผ่านการควบคุมระดับสินค้าเพื่อการขายในแต่ละระดับราคาให้อยู่ระดับที่เหมาะสม ก่อนพิจารณาเปิดโครงการใหม่ในแต่ละครั้ง เน้นเรื่องวินัยในการลงทุนมากกว่าคว้าทุกโอกาสที่เข้ามา และเมื่อรวมโครงการเปิดใหม่ในปีนี้ แสนสิริจะมียูนิตพร้อมขายทั่วประเทศ รวมมูลค่า 146,000 ล้านบาท ส่งผลให้มีรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องใน 3 ปีข้างหน้า

     ภายใต้กลยุทธ์นี้ แสนสิริพร้อมขยายโอกาสลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน ตลอดจนกลับไปรุก Strategic Location หัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีโรดแมปการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ชัดเจน และได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน

     โดยวางแผนจะเปิดตัวโครงการในต่างจังหวัดทั้งหมด 13 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท โตกว่าปีก่อนหน้าถึง 170%  สำหรับ Strategic Location อย่าง ภูเก็ต ได้มีการจัดทำแผนกลยุทธ์ 5 ปี ในการเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท รวมถึงวางแผนเปิดตัว Sansiri Hub หรือออฟฟิศของแสนสิริในจังหวัดภูเก็ตในปีนี้ รวมถึงหัวหินกับโครงการเดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเด้นซ์ หัวหิน ที่จะเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ถอดมุมคิด \"ภูมิภักดิ์\" แม่ทัพสายกลยุทธ์ \"แสนสิริ\" เวทีนี้ไม่มีคำว่าแพ้

     พร้อมสานต่อโมเดล Sansiri Community ในแต่ละทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนาโครงการ และยกระดับให้เป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบอีก 4 คอมมูนิตี้ ได้แก่ ศรีนครินทร์-แพรกษา, บางนา กม. 10, ศรีวารี และวงแหวน – ลำลูกกา จากที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว 8 คอมมูนิตี้ คือ กรุงเทพกรีฑา, บางนา-เลค 26, รังสิต-บางพูน, ราชพฤกษ์-346, กรุงเทพ-ปทุมธานี, เวสต์เกต, พระราม 2-วงแหวน และประชาอุทิศ 90

      "การแข่งขันในปีที่ผ่านมาถือว่าแข่งขันพอสมควร ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการแต่ละรายว่าจะมีกลยุทธ์อะไรบ้าง แต่ปีนี้อาจจะมีผู้ประกอบการบางรายที่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องอาจจะมีการลดราคาลงมาแข่งขัน แต่เราไม่ได้รับผลกระทบเพราะสถานที่ตั้งโครงการที่เราเลือกตามซัพพลายที่มีค่อนข้างมาก ดังนั้นเราไม่มีความจำเป็นที่จะลดราคาลงมาแข่งขัน แต่หากมองจากภาพใหญ่เราสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์สู้ได้"

     พร้อมส่งท้ายด้วย กลยุทธ์ข้อสุดท้าย คือ การยกระดับคุณภาพของสินค้า บริการ และความยั่งยืน ให้เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย สอดคล้องกับโครงการในระดับกลางและบนที่มีการเปิดตัวมากขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญด้านหนึ่งของแสนสิริเพื่อรักษามาตรฐานความเป็นหนึ่งของวงการอสังหาริมทรัพย์ในทุกมิติ

     และทุกโครงการของแสนสิริ ยังมั่นใจถึงคุณภาพในการบริหารจัดการที่อยู่อาศัยด้วยทีมงานมืออาชีพ ตอบโจทย์ทุกการดูแลจาก "บริษัท  พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด" พร้อมส่งมอบคุณภาพการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้าและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย(Stakeholder)ที่เกี่ยวข้อง

     "กลยุทธ์ทั้ง 3 ข้อนี้ หากจะให้ข้อสรุปก็คือ เราต้องบริหารจัดการในเรื่องของซัพพลาย ดูดีมานด์ให้ชัดเจน และมีวินัยทางการเงิน สำคัญมากตราบใดก็ตามที่เรามีวินัยทางการเงิน บางครั้งบางทีพอมีโอกาสเข้ามาเราจะได้ของในราคาที่ถูก และเงินไม่จม สภาพคล่องดี

     ดังนั้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจึงสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าทำไมรายได้ของแสนสิริจึงเติบโต กำไรเติบโต นั่นเพราะยึดตาม 3 กลยุทธ์นี้ถือว่าชัดเจน ดังนั้นเราไม่มีแผนเปลี่ยนจากนี้แน่นอน เพราะนี่คือการวางแผนระยะยาว 2-3 ปีในอนาคต"