posttoday

เอกชนมั่นใจลุยเปิดตัวโครงการและจัดแคมเปญการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าต่อเนื่อง

18 เมษายน 2566

แสนสิริ ชี้ไตรมาส 2 เศรษฐกิจยังขยายตัวต่อเนื่อง หนุนอสังหาริมทรัพย์โตต่อ สบช่องลุยเปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท พร้อมโชว์ผลงานยอดขายไตรมาสแรก 12,000 ล้านบาท โตเกือบ 70%

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2 โดยมองว่ามีแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ รวมทั้งความคึกคักของตลาดการท่องเที่ยว ที่ส่งผลต่อเนื่องถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ภาคเอกชนรายใหญ่ต่างเริ่มมีความมั่นใจในการช่วยกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่และมอบแคมเปญการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี

สำหรับแผนธุรกิจในไตรมาส 2 บริษัทได้รุกเดินหน้าต่อ ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ 8 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบที่ครอบคลุมทุกระดับราคา ทั้งทาวน์โฮมแบรนด์ สิริ เพลส ที่เตรียมเปิดตัว สิริ เพลส ลาดพร้าว 101 ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัว อณาสิริ มิกซ์โปรดักส์ บ้านและทาวน์โฮมในโครงการเดียว ภายใต้แนวคิดการอยู่อาศัย Feel Just Right 3 โครงการใหม่ และบ้านเดี่ยวแบรนด์ฮาบิเทีย ไพร์ม 2 ติดถนนใหญ่ บนทำเลราชพฤกษ์ 

และแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี “เศรษฐสิริ” แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี ระดับราคา 12 – 40 ล้านบาทที่เจาะกลุ่ม Target อายุน้อยลง ประสบความสำเร็จเร็ว ด้วยการเปิดตัว New Design Series ภายใต้แนวคิด Portrait of Success กับ 4 ดีไซน์ใหม่ เปิดตัวด้วยโครงการแรก “เศรษฐสิริ ดอนเมือง” ราคาเริ่มต้น 20 - 40 ล้านบาท เตรียมเปิดขายในเดือนพฤษภาคมนี้ รวมถึการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาส 2 เตรียมเปิดตัว ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต เริ่มเพียง 1.3x ล้านบาท ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า เฉลี่ยสูงถึง 8-10% 

“โครงการ ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต จะได้รับการตอบรับที่ดี จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลังมีประกาศปิดตัววิทยาเขตกล้วยน้ำไท เตรียมย้ายมาที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ทำให้ดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยจะสูงขึ้น ส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ ในทำเลบริเวณโดยรอบส่อแววคึกคักและดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุ้มค่าแก่การครอบครองทั้งนักลงทุนปล่อยเช่าและผู้อยู่อาศัยจริง เตรียมเปิดขายเดือนมิถุนายนนี้”นายอุทัย กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 12,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นเกือบ 70% และคิดเป็นกว่า 22% จากเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 55,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 6,500 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 5,500 ล้านบาท ความสำเร็จจากความเชื่อมั่นในการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” ที่ลูกค้าให้การตอบรับสูง ทั้งการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสแรก 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,120 ล้านบาทและโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย