REIC เผยดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน Q4 ปี 65 เท่ากับ 131.9 ปรับตัวลด -0.2%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 4 ปี 65 มีค่าดัชนีเท่ากับ 131.9 ปรับตัวลดลง -0.2% และเพิ่มขึ้น 5.6% โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นนั้นมาจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบที่เพิ่มขึ้น
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 4 ปี 2565 มีค่าดัชนีเท่ากับ 131.9 ปรับตัวลดลง -0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 และเพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นนั้นมาจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบที่เพิ่มขึ้นทุกรายการ โดยเพิ่มขึ้นมากที่สุดในหมวดงานวิศวกรรมโครงสร้าง 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
โดยหมวดราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นมี 6 รายการ ได้แก่ สุขภัณฑ์ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก วัสดุก่อสร้างอื่นๆ อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ผลิตภัณฑ์คอนกรีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาสุขภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นมากถึงประมาณ 13.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี โดยเป็นผลมาจากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการผลิตและภาคการขนส่งของวัสดุก่อสร้าง ทำให้เกิดการถ่ายโอนต้นทุนที่เพิ่มไปเป็นราคาของที่อยู่อาศัยที่ก่อสร้างใหม่ในช่วงเวลานี้ให้มีการปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาโดยภาพรวมจะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน เริ่มเข้าสู่ทิศทางการขยายตัวของดัชนีราคาที่ชะลอตัวลง ทั้งรายไตรมาส และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เช่น งานระบบสุขาภิบาลซึ่งมีอัตราค่าตอบแทนลดลง -0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง -1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565
นอกจากนี้ต้นทุนหมวดวัสดุก่อสร้างบางรายการมีการปรับตัวลดลง ประกอบด้วย กระเบื้อง ราคาลดลงร้อยละ -3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่หลายรายการราคาเริ่มปรับลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ลดลง -0.8% เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลง -3.1% อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ลดลง -0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 ขณะที่หมวดแรงงานยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
และเมื่อพิจารณาจำแนกต้นทุนของงานก่อสร้างในแต่ละหมวด พบว่า 1.หมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบงานวิศวกรรมโครงสร้าง มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง -0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 โดยมีสัดส่วน 28.6% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ แบ่งเป็น งานสถาปัตยกรรม มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 มีสัดส่วน 65% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ
ส่วนงานระบบสุขาภิบาล มีอัตราค่าตอบแทนลดลง -0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง -1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 โดยมีสัดส่วน 2.8% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ งานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 โดยมีสัดส่วน 3.6% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ
2.หมวดวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ราคาเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 โดยมีสัดส่วน 16.3% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ราคาเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง -0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 โดยมีสัดส่วน 4.3% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
ขณะที่เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ราคาเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนแต่ลดลง -3.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 โดยมีสัดส่วน 5.9% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง กระเบื้อง ราคาลดลง -3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ผู้ผลิตได้ราคาพิเศษจากโรงงาน จึงลดราคาเพื่อต้องการรักษาฐานลูกค้าไว้ และราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 โดยมีสัดส่วน 3.1% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง สุขภัณฑ์ ราคาเพิ่มขึ้น 13.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 โดยมีสัดส่วน 2% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
และ 3.หมวดแรงงาน ค่าแรงงานไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน