posttoday

แนะลงทุนคอนโดให้เช่ากระจายเสี่ยงแถมผลตอบแทนดี

24 พฤษภาคม 2560

แนะคนคิดสร้างอพาร์ตเมนต์เปลี่ยนแนวหันมาลงทุนคอนโดในหลายทำเลกระจายเสี่ยงแถมผลตอบแทนยังดีกว่า

แนะคนคิดสร้างอพาร์ตเมนต์เปลี่ยนแนวหันมาลงทุนคอนโดในหลายทำเลกระจายเสี่ยงแถมผลตอบแทนยังดีกว่า

นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี กรรมการบริหาร บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า อยากแนะนำให้คนที่คิดจะลงทุนสร้างอพาร์ตเมนต์เองเปลี่ยนวิธีการมาเป็นนำเงินไปซื้อคอนโดมิเนียมกระจายหลายๆ ทำเลแทน เพราะจะเปลี่ยนมือง่ายกว่า ต้นทุนต่ำกว่า และสามารถเลือกทำเลได้ดีกว่าด้วย โดยภาพรวมตลาดการลงทุนคอนโดมิเนียม เพื่อปล่อยเช่าจะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 5-8% ต่อปี และในอนาคตหากจะขายก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนจากราคาที่ดินที่ปรับขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ย 20% ต่อปีด้วย

“ถ้าสร้างอพาร์ตเมนต์ 1 แห่ง เวลาที่ดีก็ไม่มีใครอยากขาย แต่เวลาไหนไม่ดีขึ้นอยากขายก็ต้องขายทีเดียวทั้งตึกไม่สามารถแบ่งขายเป็นห้องๆ ได้ ต่างจากการลงทุนคอนโดมิเนียมที่สามารถเลือกลงทุนจำนวนห้องเท่ากันแต่กระจายลงในหลายทำเลได้ โดยกลุ่มที่เหมาะกับการลงทุนคอนโดมิเนียมปล่อยเช่าลักษณะนี้ก็ต้องเป็นคนที่มีเงินในธนาคารมากๆ อาจจะอายุ 50-60 ปีแล้ว มีสภาพคล่องสูงๆ ต้องการจะได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก” นายวิวัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การลงทุนคอนโดมิเนียมก็เหมือนการลงทุนประเภทอื่นๆ ที่มีความเสี่ยง และต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เช่น ต้องพิจารณาเลือกทำเลให้ดี

นายวัชระ เชาว์ปฏิภาณ ผู้ดำเนินธุรกิจส่วนตัวที่มีประสบการณ์ลงทุนคอนโดมิเนียมมา 7 ปี กล่าวว่า เงินลงทุนส่วนตัวที่มีจะนำมาลงทุนในคอนโดมิเนียม 50% ของเงินทั้งหมดที่แบ่งไว้เพื่อลงทุน โดยมองว่า การลงทุนคอนโดมิเนียมยังเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าอยู่แม้แนวโน้มผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนจะลดลงเมื่อเทียบกับในอดีต โดยปัจจุบันอยู่ที่ 5-8% ขณะที่อดีตเคยสูงถึง 7-15% ต่อปี

ทั้งนี้ การลงทุนคอนโดมิเนียมแบบให้เช่ามีหลักการสำคัญพิจารณา 3 ข้อ โดยข้อแรกสำคัญที่สุดคือ การเลือกทำเล ควรเน้นใกล้สถานศึกษา ซึ่งถือเป็นทำเลที่จะมีการหมุนเวียนของผู้เช่าได้เรื่อยๆ รองลงมาคือ แหล่งงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาลใหญ่ รวมถึงพื้นที่ที่มีโครงการลงทุนของภาครัฐที่มีแผนงานชัดเจน ข้อต่อมาคือ ควรเลือกคอนโดมิเนียมที่มีจำนวนยูนิตไม่มากเกินไป คือ 200-400 ยูนิต เป็นระดับที่กำลังดี เพราะยิ่งจำนวนยูนิตมากๆ ก็จะมีคู่แข่งมาก และสุดท้ายคือ ควรพิจารณาซื้อโครงการที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เป็นสำคัญ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มนี้จะมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าในด้านการจัดการระยะยาวในโครงการ เพื่อรักษาชื่อเสียงขององค์กร

“หลังจากคอนโดมิเนียมโอนไปแล้ว ก็จะต้องมีการตั้งกองทุนที่ลูกบ้านต้องจ่ายค่าส่วนกลางเพื่อมาบริหารส่วนต่างๆ ในโครงการ ซึ่งรายใหญ่มักจะคำนวณจัดการเรื่องเหล่านี้ได้มืออาชีพมากกว่า ส่วนสำคัญเพราะต้องรักษาชื่อเสียงที่มีไม่ให้ต้องเสียไป ขณะที่หากเลือกโครงการที่มีปัญหาด้านการบริหารจัดการส่วนกลางในอนาคต จนเกิดการขาดสภาพคล่องในการบริหารส่วนกลางก็จะมีผลกระทบต่อมูลค่าโครงการนั้นในอนาคตด้วย สิ่งเหล่านี้ผู้ลงทุนจะมองไม่เห็นในช่วงแรกที่ลงทุนไป เพราะเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นใน 3 ปีหลังลงทุนไปแล้ว” นายวัชระ กล่าว

นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้ลงทุนคอนโดมิเนียมต้องคำนึงถึงคืออย่าลงทุนเกินตัว เพราะปัจจุบันการลงทุนปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมไม่ได้เป็นขาขึ้นแรงมากๆ เหมือนในอดีต ควรวางแผนรองรับระยะ 5 ปี และเตรียมแผนออกจากการลงทุนสำรองไว้เสมอ

ข่าวล่าสุด

ครม. ทบทวน EV3 เพิ่มความยืดหยุ่น หนุนไทยสู่ฐานผลิต EV โลก