posttoday

บ้านหรูพึ่งระบบสำเร็จรูป แก้แรงงานขาดแคลน

20 กรกฎาคม 2557

ปัญหาแรงงานขาดแคลนยังคงเป็นวิกฤต แม้แต่บ้านหรู ยังต้องหาทางออกพึ่งระบบสำเร็จรูปในรูปแบบที่ตลาดระดับบนยอมรับได้

ปัญหาแรงงานขาดแคลนยังคงเป็นวิกฤต แม้แต่บ้านหรู ยังต้องหาทางออกพึ่งระบบสำเร็จรูปในรูปแบบที่ตลาดระดับบนยอมรับได้

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

ตลาดที่อยู่อาศัยในยุคแรงงานขาดแคลน เลี่ยงไม่ได้แล้วที่จะต้องพึ่งพาระบบก่อสร้างแบบสำเร็จรูป โดยเฉพาะบ้านระดับราคาไม่เกิน 4-5 ล้านบาท ของผู้ประกอบการรายกลางและรายใหญ่ที่มียอดขายจำนวนมาก และต้องการควบคุมเวลาในการส่งมอบบ้านให้กับลูกค้า ส่วนบ้านระดับราคาที่สูงกว่านั้น แม้ปัจจุบันยังคงใช้ระบบก่อสร้างแบบ ดั้งเดิมที่เป็นแบบก่ออิฐฉาบปูนที่ต้องพึ่งพาแรงงานคนเป็นหลัก แต่มีแนวโน้มที่กลุ่มบ้านหรูราคาแพงจะต้องหาทางเลือกใหม่ๆ ในการก่อสร้างเพื่อลดการพึ่งพาแรงงานคนเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นบ้านระดับราคาใด ณ วันนี้ ล้วนต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตแรงงานขาดแคลนไม่ต่างกัน

 

บ้านหรูพึ่งระบบสำเร็จรูป แก้แรงงานขาดแคลน บรรยากาศภายในบ้านที่ใช้ระบบเอสซีจี ไฮม์ ภายหลังตกแต่งแล้ว

 

ในช่วงที่เอสซีจีเปิดตัว "บ้านเอสซีจี ไฮม์" (SCG HEIM) เมื่อประมาณปี 2552 ซึ่งเป็นนวัตกรรมระบบบ้านสำเร็จรูปจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีคุณสมบัติมากมายทั้งเป็นบ้านไร้ฝุ่น ประหยัดพลังงาน ป้องกันแผ่นดินไหว และยังใช้เวลาก่อสร้างที่รวดเร็วมาก จึงได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มบ้านหรูอยู่มาก โดยได้ประเดิมจับมือร่วมกับกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคในการนำระบบบ้านเอสซีจี ไฮม์ไปปรับใช้กับบ้านในโครงการจัดสรรด้วยกัน 4 ทำเล ได้แก่ ย่านพระราม 9 ย่านอ่อนนุช ย่านรังสิต และย่านรัตนาธิเบศร์

 

บ้านหรูพึ่งระบบสำเร็จรูป แก้แรงงานขาดแคลน ด้านหน้าตัวบ้านในช่วงระหว่างก่อสร้าง ซึ่งใช้เทคนิคคล้ายหน้ากากประกบติดกับระบบบ้านเอสซีจี ไฮม์

 

ในยุคแรกเริ่มดีไซน์บ้านของเอสซีจี ไฮม์จะไม่ได้ปรับจากต้นแบบของไฮม์ที่มาจากญี่ปุ่นมากนัก และราคาขายต่อยูนิตในช่วงแรกเริ่มจะมีเพียงทางเลือกเดียว คือ แบบอัลติเมต 4-4.5 หมื่นบาท/ตร.ม. ทำให้ราคาต่อหลังสูงมากเฉลี่ยแล้วไม่ต่ำกว่า 25 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต้นทุนสูงมาก จึงมีแต่ผู้ประกอบการที่มีที่ดินต้นทุนเก่าเท่านั้นที่จะซื้อระบบไฮม์ไปใช้ในโครงการจัดสรรได้ ขณะที่การตอบรับของผู้บริโภคยังไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะราคาที่จับต้องได้ยาก เอสซีจี ไฮม์ พยายามแก้โจทย์ตรงนี้

 

บ้านหรูพึ่งระบบสำเร็จรูป แก้แรงงานขาดแคลน โครงเหล็ก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบบ้านเอสซีจี ไฮม์

 

สำหรับความร่วมมือใหม่ๆ ทั้งบ้านล็อตใหม่กับพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคและผู้ประกอบการรายอื่นๆ สร้างทางเลือกทั้งแบบ และราคาที่หลากหลายให้กับผู้ประกอบการมากขึ้น โดยปัจจุบันบ้านเอสซีจี ไฮม์ เพิ่มจาก 1 รูปแบบเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ 1.แบบอัลติเมต (ผนังเซรามิก และหลังคาเซรามิก) ราคาขาย 4-4.5 หมื่นบาท/ตร.ม. 2.สมาร์ท ซีรีส์ (เปลี่ยนจากผนังเซรามิกเป็นสีฟูจิกุระที่มีความคงทน) ราคาขาย 3-3.5 หมื่นบาท/ตร.ม. 3.แคร์ ซีรีส์ ฟังก์ชั่นบ้านผู้สูงอายุ ราคาขาย 5 หมื่นบาท/ตร.ม. และ 4.ดีไซน์ ซีรีส์ หรือ โค-ดีไซน์ ที่ร่วมกับผู้ประกอบการ ราคาเฉลี่ย 3-4 หมื่นบาท/ตร.ม.

 

บ้านหรูพึ่งระบบสำเร็จรูป แก้แรงงานขาดแคลน โครงเหล็กที่เรียกว่า "โมดูล" สามารถต่อโมดูลให้เป็นบ้านหลังใหญ่ขึ้นได้ตามต้องการ

 

รูปแบบดีไซน์ ซีรีส์ หรือโค-ดีไซน์ ประเดิมเริ่มกับโครงการโกลเด้น เลเจ้นด์ สาทร- กัลปพฤกษ์ของบริษัท โกลเด้นแลนด์ เรสซิเด้นซ์ ในเครือบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ โครงการดังกล่าวอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 10 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโครงการโกลเด้น เลเจ้นด์ของโกลเด้นแลนด์ยุคเดิม โดยเฟสใหม่มีทั้งหมด 17 ยูนิต มูลค่าโครงการ 375 ล้านบาท มีบ้าน 2 สไตล์ ได้แก่ สไตล์โคโลเนียล และสไตล์โมเดิร์น พื้นที่ใช้สอย 361-450 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือน ส.ค.นี้

 

บ้านหรูพึ่งระบบสำเร็จรูป แก้แรงงานขาดแคลน ภาพตัวอย่างการใช้โครงเหล็กโมดูล กับตัวบ้านที่ตกแต่งเรียบร้อยแล้ว

 

วิรัชต์ มั่นเจริญพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาโครงการบ้าน บริษัท โกลเด้นแลนด์ เรสซิเด้นซ์ กล่าวว่า บ้านเอสซีจี ไฮม์ เวอร์ชั่นโกลเด้น เลเจ้นด์ เป็นการพัฒนาแบบร่วมกัน เพื่อให้เป็นบ้านที่มีดีไซน์ที่มีมิติมากขึ้น และมีเอกลักษณ์ตามแบบบ้านหรูของโกลเด้นแลนด์ ซึ่งการนำระบบบ้านเอสซีจี ไฮม์เข้ามาทดลองใช้กับโครงการนี้ เพราะต้องการลดการใช้แรงงาน แก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง โดยใช้เวลาในการประกอบตัวบ้านเพียง 1-2 วัน และหากนับรวมเวลาตอกเสาเข็มและตกแต่งภายในแล้ว จะใช้เวลารวมทั้งหมดประมาณ 4 เดือนจากปกติบ้านขนาด 300-400 ตร.ม. ต้องใช้เวลานานถึง 6-8 เดือน

อย่างไรก็ตาม ระบบบ้านสำเร็จรูปยังมีข้อจำกัดหลายด้าน โดยเฉพาะการต่อเติมต่างๆ ที่ไม่เหมาะกับการต่อเติมบนโครงสร้างเดิม หรือยกตัวอย่างกรณีบ้านหรู เจ้าของบ้านจะนิยมสร้างเซฟเก็บของมีค่าขนาดใหญ่บนชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งการใช้ระบบบ้านสำเร็จรูปหากจะสร้างเซฟขนาดใหญ่ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า หากจะต่อเติมแม้จะทำได้แต่มีความยุ่งยากมากกว่า ซึ่งประเด็นหลายรายละเอียดต่างๆ เหล่านี้ ผู้ประกอบการในฐานะเจ้าของสัญญาขายกับผู้ซื้อต้องทำความเข้าใจกับลูกค้า

แม้ว่าการนำระบบสำเร็จรูปมาใช้เพื่อแก้โจทย์ในเรื่องแรงงานและคุณภาพ แต่ต้นทุนบ้านเอสซีจี ไฮม์ที่ค่อนข้างสูง อาจเป็นข้อจำกัดให้การขยายตลาดได้ยากขึ้น และจำเป็นที่จะต้องจำกัดตัวอยู่ในตลาดระดับบนเป็นหลัก และที่สำคัญข้อจำกัดต่างๆ ของระบบสำเร็จรูปซึ่งรวมถึงระบบไฮม์ จะเอาชนะใจกลุ่มลูกค้าบ้านหรูที่มีทางเลือกในการซื้อมากมายได้อย่างไร ทั้งหมดคือโจทย์ที่รอวันพิสูจน์ว่าระบบสำเร็จรูปอย่างเอสซีจี ไฮม์สำหรับตลาดบ้านระดับบน จะแจ้งเกิดได้เต็มตัวหรือไม่ 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา