posttoday

เอกชนพร้อมลุยลงทุน รับอสังหาฯภูเก็ตส่งสัญญาณฟื้น

06 ธันวาคม 2559

ตราบใดที่ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญให้กับภูเก็ต อสังหาฯ ในภูเก็ตก็ยังมีโอกาสสำหรับการลงทุนอยู่เสมอ

โดย...วราพงษ์ ป่านแก้ว/โชคชัย สีนิลแท้

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน จ.ภูเก็ต ในช่วงที่ผ่านมา ตกอยู่ในสภาวะชะลอตัวจากการเปิดโครงการใหม่ๆ ที่รวดเร็วเกินกว่าความต้องการซื้อจะไล่ตามทัน ส่งผลให้บริษัทพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่หลายรายประกาศชะลอการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่หากมองถึงศักยภาพของภูเก็ตแล้ว จะพบว่าภูเก็ตยังคงเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาสที่ยังเป็นที่ปรารถนาของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ส่งผลต่อความต้องการอสังหาริมทรัพย์ทั้งจากคนในและคนนอกยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ในบางช่วงเวลาอาจจะสะดุดไปบ้าง

อุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ หนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าไปปักหลักลงทุนในภูเก็ตแล้ว 14 โครงการ มูลค่านับหมื่นล้านบาท กล่าวว่า ที่ผ่านมาซัพพลายที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมีประมาณ 2 หมื่นยูนิต ขายไปได้ 1.6 หมื่นยูนิต ยังเหลืออยู่ในตลาดประมาณ 4,000 ยุนิต เป็นคอนโดมิเนียมประมาณ 20% ที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว ซึ่งถือว่าตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

ทั้งนี้ แสนสิริ ได้ชะลอการลงทุนในภูเก็ตมาแล้ว 2 ปี จากที่มีจำนวนยูนิตในมือประมาณ 1,000 ยูนิต ปัจจุบันเหลืออยู่กว่า 300 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะระบายหมดภายในปี 2560 แต่สำหรับปีหน้าอาจจะยังไม่มีแผนการลงทุนโครงการใหม่ น่าจะข้ามไปในปี 2561 แสนสิริถึงจะมีการลงทุนโครงการใหม่ในภูเก็ตอีกครั้ง

สำหรับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในภูเก็ตยังจัดว่ามีผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเกือบ 11 ล้านคน ในปีล่าสุด ทำให้มีความต้องการเช่าห้องพักมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการสำรวจพบว่าผลตอบแทนอัตราเช่าห้องพักระยะยาวในภูเก็ต ประเมินจากการปล่อยเช่าเต็ม 12 เดือน จะมีผลตอบแทนอยู่ที่ 8.2% สำหรับห้องชุด 1 ห้องนอน 5.9% สำหรับห้องชุด 2 ห้องนอน และ 7.1% สำหรับห้องชุด 3 ห้องนอน  หากเทียบกับห้องชุดในย่านสาทร-สีลม สำหรับห้องชุด 1 ห้องนอน มีผลตอบแทนอยู่ที่ 4.9% ห้องชุด 2 ห้องนอน 3.5% และห้องชุด 3 ห้องนอน 3.8%

ขณะที่ผลตอบแทนจากการเช่าเฉพาะในช่วงไฮซีซั่น 8 เดือน จะพบว่าห้องชุด 1 ห้องนอน ภูเก็ตมีผลตอบแทน 5.5% สีลม-สาทร มีผลตอบแทน 4.9% ห้องชุด 2 ห้องนอน ภูเก็ตมีผลตอบแทน 3.9% สีลม-สาทร 3.5% และห้องชุด 3 ห้องนอน ภูเก็ตได้ผลตอบแทน 4.8% ขณะที่ สีลม-สาทร ได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.8% ส่วนราคาคอนโดรีเซลในภูเก็ต มีอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี โดยทำเลกระทู้มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด 12-13% ต่อปี แถลงราคาเพิ่ม 9.5% และในเขตเมือง 7% ต่อปี ขณะที่คอนโดรีเซลที่สีลม-สาทร มีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8%

จากผลตอบแทนการลงทุนที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้แสนสิรินำมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการขายคอนโดที่มีอยู่ในมือ โดยการการันตีผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อ โดยที่แสนสิริจะเป็นผู้บริหารการเช่าให้ในระยะเวลาที่กำหนด เช่น โครงการเดอะ เดค ป่าตอง การันตีผลตอบแทน 7% เป็นเวลา 5 ปี เป็นต้น  ทำให้แสนสิริมียอดขายจากแคมเปญดังกล่าวกว่า 200 ยูนิต และจากสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่มีแนวโน้มที่ดีและเป็นช่วงไฮซีซั่น บริษัทจึงจัดแคมเปญ Holiday Home Story นำโครงการบ้านตากอากาศพร้อมอยู่ 11 โครงการ ใน 5 จังหวัดท่องเที่ยว มาลดราคาสูงสุดถึง 2 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี

ด้าน ริชาร์ด  หยู  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและหัวหน้าฝ่ายลงทุน กองทุนอาร์ช แคปปิตอล จากฮ่องกง กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเริ่มกลับมาคึกคัก เห็นได้จากมีนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนสนใจซื้ออสังหาฯ มากกว่าที่ฮ่องกง ซึ่งตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ระดับไฮเอนด์นั้นเติบโตตามไปด้วย เนื่องจากมีซัพพลายนั้นจำกัด โดยเฉพาะในทำเลตะวันตกของภูเก็ตบริเวณป่าตอง กมลา กะตะ สุรินทร์ เป็นต้น ต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท/ยูนิต นั้นยังคงล้นตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองหรือทำเลตะวันออก

ทั้งนี้ อาร์ช แคปปิตอล ได้เข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัท นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกันมานานกว่า 10 ปี โดยได้เริ่มพัฒนาโครงการมองท์เอซัวร์ ภูเก็ต ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2558 บนเนื้อที่ 450 ไร่ พัฒนา 7 โครงการมูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการทวินปาล์มส์ เรสสิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 75 ยูนิต ขนาด 70-400 ตารางเมตร ราคาขาย 8-93 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 41 ยูนิต  โดยยอดขาย 40% เป็นคนไทย อีก 60% เป็นชาวต่างชาติ โครงการในส่วนนี้จะก่อสร้างเสร็จปี 2561  2.โครงการวิลล่า ซึ่งอยู่ริมเขาเนื้อที่ 75 ไร่ จำนวน 13 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 350-700 ล้านบาท จะเปิดขายอย่างเป็นทางการเดือน ม.ค. 2560

3.โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กว่า 200 ห้องพัก ที่พัฒนาโดยบริษัท พราวเรียลเอสเตท 4.คลับ 3 แห่ง ได้แก่ HQ บริหารโดยทวินปาล์ม ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม มองท์เอซัวร์ คลับ บริษัทจะเป็นผู้ลงทุน และคาเฟ่ เดลมาร์ คลับจากสเปน ที่อยู่ระหว่างหาผู้ร่วมทุนคนไทย  5.ธุรกิจค้าปลีกประเภทไลฟ์สไตล์มอลล์ที่อยู่ระหว่างเจรจาหาผู้ร่วมทุน 6.บ้านพักสำหรับผู้สูงอายุ และ 7.เวลเนสเซ็นเตอร์ ที่บริหารงานโดยโรงพยาบาลกรุงเทพฯ ปัจจุบันกลุ่มอาร์ช แคปปิตอล ได้ร่วมลงทุนกับนารายณ์ คิดเป็นมูลค่าการลงทุุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2560 ยังมองโอกาสลงทุนในจีน ไทย และฟิลิปปินส์ เนื่องจากลักษณะของประชากรวัยระดับกลางที่มีพฤติกรรมการบริโภคระดับสูง และทั้ง 3 ประเทศนั้นมีการเมืองที่มั่นคงและมีแนวโน้มที่จะพัฒนาสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น

ตราบใดที่ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญให้กับภูเก็ต อสังหาฯ ในภูเก็ตก็ยังมีโอกาสสำหรับการลงทุนอยู่เสมอ