posttoday

ธุรกิจรับเหมามั่นใจ ก่อสร้างปี61ฟื้นตัว

30 ธันวาคม 2560

แนวโน้มงานก่อสร้างภาครัฐในช่วงปี 2561-2562 จะขยายตัวตามความคืบหน้าของโครงการเมกะโปรเจกต์

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

อุตสาหกรรมก่อสร้างถือเป็นอีกหนึ่งหัวจักรที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ด้วยสัดส่วนเฉลี่ย 8.5%ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี มีผลต่อการจ้างงานและมีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

สำหรับในปี 2561 จะเป็นอีกปีที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่ามูลค่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐจะสูงที่สุดจากการผลักดันโครงการต่างๆ หลังจากที่มีความล่าช้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐที่มีมากกว่า 50 โครงการ ภายในปี 2567 ขณะที่โครงการภาคเอกชนทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป

ทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง ประเมินภาพรวมของอุตสาหกรรมก่อสร้างปีหน้าว่ายังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายของภาครัฐที่จะขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานออกมาเร็วที่สุด เพื่อผลักดันตัวเลขจีดีพีทางเศรษฐกิจ แม้ในช่วงที่ผ่านมาโครงการใหญ่จะมีความล่าช้าไปบ้าง อย่างไรก็ตามนโยบายภาครัฐคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงและการดำเนินงานคงต้องอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ บริษัทยังได้รับอานิสงส์จากธุรกิจภาคการส่งออกที่โต ทำให้มีผู้ประกอบการลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเข้าปรับปรุงระบบดับเพลิงในโรงงานมากขึ้น ประกอบกับบริษัทยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคารโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความเข้มงวดในมาตรฐานของระบบดับเพลิงให้มีความปลอดภัยมากขึ้นซึ่งจะทำให้บริษัทเติบโตได้ 20%

อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี เปิดเผยว่า ปี 2561 อุตสาหกรรมก่อสร้างในภาคตะวันออกจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากที่ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาชะลอตัวจากความล่าช้าของโครงการภาครัฐ ซึ่งการลงทุนภาครัฐจะมีความชัดเจนมากขึ้น มีโครงการต่างๆ ที่เริ่มดำเนินงานก่อสร้าง ซึ่งจะส่งผลดีต่อปริมาณใช้งานวัสดุก่อสร้างที่ขณะนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อทยอยเข้ามาแล้ว ด้านการลงทุนภาคเอกชนได้รับอานิสงส์จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เห็นถึงโอกาสในระยะยาวและเริ่มมีการลงทุนมากขึ้น ขณะที่การลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมยังไม่คึกคักมากนั

“การแข่งขันในเรื่องของราคาวัสดุก่อสร้างจะลดความร้อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาคอนกรีตผสมเสร็จที่ถูกกดดันราคาในช่วงที่ผ่านมาจะเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติได้ในช่วงไตรมาส 3/2561 ด้านสินค้าพรีคาสต์ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่โครงการภาครัฐ-เอกชนขนาดใหญ่ก็ยังเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานอย่างต่อเนื่อง” อาทิตย์ กล่าว

พงศ์ธร ธาราไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาให้บริการ ทางด้านบริหารและควบคุมการก่อสร้าง เปิดเผยว่า โครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐอาจจะยังมีความล่าช้าต่อเนื่องในปี 2561 ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงของบริษัทด้วยเช่นกันจากปัจจัย เช่น การประกาศ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่

ขณะเดียวกันบริษัทมองว่าการลงทุนภาคเอกชนมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและโรงงานต่างๆ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลรับงานวิศวกรที่ปรึกษาอย่างต่อเนื่อง ด้านธุรกิจใหม่ของบริษัทย่อย บริษัท สะพัฒน์ โปรเจค ประกอบธุรกิจด้านการบริหารจัดการอาคารและอสังหาริมทรัพย์ให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนและเริ่มดำเนินงานรับรู้รายได้ภายในช่วงต้นปีหน้า

ทางด้านศูนย์วิจัยกรุงศรี ระบุว่า แนวโน้มงานก่อสร้างภาครัฐในช่วงปี 2561-2562 จะขยายตัวตามความคืบหน้าของโครงการเมกะโปรเจกต์ โดยคาดว่ามูลค่าก่อสร้างภาครัฐจะเติบโตราว 13-16% ต่อปี มีมูลค่าก่อสร้างรวม 2 ปี ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท ทำให้กลุ่มผู้รับเหมารายใหญ่สามารถสะสมแบ็กล็อก หรือยอดรับรู้รายได้ได้ต่อเนื่อง และผู้รับเหมารายย่อยจะได้อานิสงส์จากการรับเหมาช่วงต่อจากรายใหญ่  ส่วนงานก่อสร้างคาดว่าจะขยายตัวราว 2-4% ต่อปี นับจากปี 2561 เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นปีที่อุตสาหกรรมก่อสร้างยังสามารถฟื้นตัวได้ดี