posttoday

สอศ.จับมือ แบงค์ชาติ และตลท.พัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาด้านการเงิน ตลาดทุน และความยั่งยืนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

11 พฤษภาคม 2565

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้ลงนามความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาด้านความรู้ทางการเงิน ตลาดทุน และความยั่งยืนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ณ ห้องประชุมป๋วย อึ๊งภากรณ์ อาคาร ๑ ชั้น ๔ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นางสาววชิรา อารมย์ดี รองผู้ว่าด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย และ นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร และสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมเป็นประธานลงนาม

ดร.สุเทพ  แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า การลงนามครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้ทางการเงินในการขยายความร่วมมือต่อเนื่อง โครงการ Fin . ดี We can do!!! Season 4 การประกวดผลงานด้านความรู้ทางด้านการเงิน เพื่อให้ครูพัฒนา “นวัตกรรมการสอน” และให้นักศึกษาคิดและทำโครงการที่นำความรู้ด้านการเงินมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และต่อยอดไปสู่การพัฒนาธุรกิจ โดยในครั้งนี้ได้พันธมิตรต่อยอดความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้โครงการเสริมสร้างความรู้พื้นฐานด้านการลงทุนและการประกอบธุรกิจสำหรับบุคลากรอาชีวศึกษา เพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ทางการเงินพื้นฐานที่จำเป็นรวมถึงแนวคิดการเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ โดยการจัดทำสื่อ e-Learning ส่งเสริมความรู้การเงินผ่านระบบ SET – e - Learning ในหลักสูตรด้านการเงินและหลักสูตรด้านผู้ประกอบการ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนนักศึกษาอาชีวศึกษาซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาทักษะทางการเงินที่ดี  และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน  ตลอดจนเพิ่มศักยภาพของเยาวชนไทยให้มีคุณภาพและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป

สอศ.จับมือ แบงค์ชาติ และตลท.พัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาด้านการเงิน  ตลาดทุน และความยั่งยืนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

ด้านดร.วชิรา  อารมย์ดี  รองผู้ว่าด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้แก่นักศึกษาอาชีวศึกษา ตลอดจนครูและบุคลากรอาชีวศึกษา ให้มีทักษะทางการเงินในการบริหารจัดการการเงินได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับช่วงวัย พร้อมรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ รู้เท่าทันภัยทางการเงินและการเงินในยุคดิจิทัลอันเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญ รวมถึงมีความรู้ด้านตลาดทุนและการเป็นผู้ประกอบการเพื่อเป็นบุคลากรคุณภาพที่พร้อมเข้าสู่วัยทำงาน เป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ  ซึ่งนอกจากพิธีลงนามความร่วมมือ 2 ฉบับดังกล่าวแล้ว ทั้ง 3 หน่วยงานได้เปิดตัว “หลักสูตร E-learning ความรู้ทางการเงินสำหรับนักศึกษาอาชีวศึกษา” เพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักศึกษาอาชีวศึกษา ครูและบุคลากรอาชีวศึกษาที่สนใจมาร่วมใช้งาน E-learning และธนาคารแห่งประเทศไทยได้เปิดตัว “โครงการ Fin. ดี We Can Do!!! Season 4”      ที่ดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักศึกษาอาชีวศึกษาทั่วประเทศ เข้าร่วมการประกวดผลงานส่งเสริมความรู้ทางการเงิน ชิงเงินรางวัล พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ และป้ายเชิดชูเกียรติสำหรับสถานศึกษา โดยมีกำหนดเปิดรับสมัครกลางเดือนพฤษภาคม 2565 นี้

สอศ.จับมือ แบงค์ชาติ และตลท.พัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาด้านการเงิน  ตลาดทุน และความยั่งยืนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

ด้านดร.ศรพล  ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร และสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า  ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน โดยภารกิจที่ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่องตลอด 20 กว่าปี คือการส่งเสริมความรู้ทักษะด้านการวางแผนการเงินเพื่อสร้างความมั่นคงแก่ชีวิต ความร่วมมือกับ สอศ. ในโครงการส่งเสริมความรู้พื้นฐานด้านการเงินและการประกอบธุรกิจสาหรับบุคลากรอาชีวศึกษาครั้งนี้ จะสนับสนุนให้เยาวชนไทย และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีวศึกษาได้รับความรู้ เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินของตนเอง เข้าใจเรื่องการลงทุนพื้นฐาน และการเป็นผู้ประกอบการ เกิดทักษะด้านการเงิน การลงทุน สามารถต่อยอดไปสู่การประกอบอาชีพ และทำธุรกิจได้ในอนาคต โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อมั่นว่า ด้วยชุดเรียนรู้ซี่งประกอบไปด้วยหลักสูตรด้านการเงิน การลงทุนและการเป็นผู้ประกอบการ กว่า 20 หลักสูตร ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดไว้แก่ นักศึกษาอาชีวศึกษา ครู รวมถึงบุคลากรอาชีวศึกษาที่เกี่ยวข้องในการเรียนการสอนวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ทั้งในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ผ่านการเรียนจากระบบ SET e-Learning แพลทฟอร์มการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ จะทำให้การส่งต่อความรู้ขยายไปให้ผู้เรียนและครูได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ นับเป็นอีกมิติหนึ่งของความร่วมมือระหว่างองค์กรที่จะช่วยสร้างบุคลากรคุณภาพเข้าสู่สังคม