posttoday

สยามพิวรรธน์ ประกาศ 4 กลยุทธ์ใหม่ ทุ่มงบพันล้าน กระตุ้นท่องเที่ยวไทย ไตรมาส 4

30 สิงหาคม 2566

เปิด 4 กลยุทธ์ “สยามพิวรรธน์” เร่งแผนขับเคลื่อนธุรกิจ ขานรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลเศรษฐา ทุ่ม 1,000 ล้าน ดันนักท่องเที่ยวเข้าไทยทะลุ 30 ล้านคน พร้อมปั้น Soft Power ไทยสู่เวทีโลก พร้อมขยายการลงทุนต่อเนื่องในปี 67

          อีกหนึ่งในเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติ ในการมากรุงเทพฯ คือ การท่องเที่ยว และ Shopping  กรุงเทพคือเมืองท่องเที่ยวที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก การได้มา Shopping ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อย่างสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมียม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ซึ่งทั้งหมดบริหารงานโดยบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของ และผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก

          นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ ได้ประกาศยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนธุรกิจขานรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ผ่าน 4 Strategic Pillars ย้ำจุดแข็งในการเป็นผู้สร้าง Global Destinations อันดับหนึ่งของประเทศไทย ดังนี้

1 ผู้นำสร้างประสบการณ์ Shopping

          ยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมาย เสริมแกร่งผู้นำในตลาด Luxury retail และผนึกกำลังกับ Luxury brand  ร้านค้าผู้เช่า และพันธมิตรธุรกิจ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเตรียมเปิดร้าน Luxury brands ใหม่เพิ่มเติมอีก 20 ร้านค้า ในไตรมาส 4/2566

สยามพิวรรธน์  ประกาศ 4 กลยุทธ์ใหม่ ทุ่มงบพันล้าน กระตุ้นท่องเที่ยวไทย ไตรมาส 4

          ซึ่งมีหลายแบรนด์ที่เปิดเป็นสาขาแรกในประเทศไทย อีกทั้งมีคิวจัด Pop-up store และงานอีเวนต์ระดับโลก ร่วมกับแบรนด์ต่างๆ อีกกว่า 40 แบรนด์ ไปจนถึงสิ้นปี 2567 รวมทั้งอีกหลาย Luxury brands ทุกค่าย เตรียมขยายพื้นที่กว่าเท่าตัว ให้เป็น Iconic store ที่ใหญ่ที่สุดในสยามพารากอนและไอคอนสยาม ในปี 2567 อีกด้วย

2 ผู้นำการจัด World Class Event และการประชุมนานาชาติ

          ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ฯลฯ จัด World Class Event และการประชุมนานาชาติ เพื่อดึงดูดนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ที่มีกำลังซื้อสูงจากทั่วโลก รวมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรใน Global Ecosystem ทั้งสายการบิน ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว ภัตตาคาร เพื่อรองรับการจัดงานหลากหลายรูปแบบ ส่งเสริมธุรกิจ MICE และสนับสนุนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการจัดประชุมนานาชาติของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการอีเวนต์รายใหญ่ของโลกในการร่วมลงทุนกันสร้างศูนย์ประชุมและการแสดงเพิ่มเติม โดยในไตรมาส 4 นี้จะลงทุนจัดกิจกรรมระดับชาติครั้งยิ่งใหญ่ในทุกศูนย์การค้ารวมกันถึง 40 กิจกรรม ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท อาทิ ไอคอนสยามเคาท์ดาวน์ 2024 เป็นต้น

3 ผู้นำในการส่งเสริมศิลปะไทย ยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางศิลปะระดับโลก

          เตรียมแผนเสนอรัฐบาลเพื่อส่งให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของ S/E Asia ที่จะจัดงานศิลปะระดับโลกให้เกิดขึ้นเพื่อดึงดูดบุคคลในวงการศิลปะเข้ามาในประเทศไทย อาทิ งาน Art Basel และ Frieze เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ศิลปินไทยได้มีโอกาสแสดงผลงานร่วมกับศิลปินระดับโลกด้วย โดยจะร่วมทำงานกับภาครัฐในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

          ขณะเดียวกัน ภายในปี 2569  สยามพิวรรธน์มีนโยบายจะเปิดศูนย์ศิลปะริเวอร์มิวเซียม ชั้น 8 ไอคอนสยามด้วยพื้นที่ 8,000 ตารางเมตร งบประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นมิวเซียมมาตรฐานโลกแห่งแรกของประเทศไทยที่รองรับงานศิลปะ master piece ระดับโลกได้ทัดเทียมกับมิวเซียมชั้นนำในประเทศต่างๆ นี่คืออีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะดึงดูดบุคคลสำคัญในวงการศิลปะและนักสะสมงานศิลปะจากทั่วโลกเข้ามาในประเทศไทย ที่จะต่อยอดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีในระยะยาว

4 ผู้นำในการปั้น Soft power ของไทย ด้วยความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดสู่เวทีโลก

          Soft power จากมือคนไทย  มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น ดีไซเนอร์ และอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จจากการสร้างเมืองสุขสยาม ซึ่งเป็นการนำผู้ประกอบการ SMEs และพ่อค้าแม่ค้าจาก 77 จังหวัด กว่า 6,000 ราย มารวมตัวกันนำเสนออัตลักษณ์ไทยรูปแบบต่างๆ

          ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมไม่ตํ่ากว่าวันละ 7 หมื่นคน นอกจากนี้ยังมีการสร้างแบรนด์สินค้าของคนไทยผ่านธุรกิจรีเทลของสยามพิวรรธน์ ได้แก่ ICONCRAFT, ODS และ ECOTOPIA ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจเข้ามาซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดให้บริการในต่างประเทศทั้งที่ญี่ปุ่นและมาเลเซีย

          ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 มีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์มีถึง 14 ล้านคน ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้น 46% จากปี 2565 ส่วนยอดการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยที่ 8,500 บาท/คน/วัน เพิ่มขึ้นจาก 5,500 บาท/คน/วัน ในปี2565 เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวคุณภาพจากตะวันออกกลางเข้ามาจำนวนมาก

          นางชฎาทิพ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลมีนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างเต็มที่แล้ว เชื่อมั่นว่าภายในสิ้นปี 2566 ประเทศไทยจะมียอดนักท่องเที่ยวถึง 30 ล้านคน ตามเป้าหมายที่วางไว้

          “สยามพิวรรธน์จะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง โดยเตรียมอัดงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในไตรมาส 4/2566 และเตรียมจัดงบประมาณเพิ่มอีกเท่าตัวในปี 2567 เพื่อเดินเครื่องหนุนการท่องเที่ยวของไทยตามนโยบายของรัฐบาล โดยมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมสร้างปรากฏการณ์ ปักหมุดให้ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางแรกที่ต้องมาเยือนสำหรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางจากทั่วโลก” นางชฎาทิพ กล่าว

          ขณะเดียวกันสยามพิวรรธน์ได้ทุ่มงบจัดกิจกรรมในไตรมาส 4/2566 ทุกศูนย์การค้าด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อดึงดูดให้ผู้คนทั่วโลกอยากมาเยี่ยมชม คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ภายในสิ้นปี 2566 จะอยู่ที่ ประมาณ 20-22 ล้านคน หนุนให้มีรายได้ในไตรมาส 4/2566 เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาส 3/2566

          ซึ่งสยามพิวรรธน์พร้อมที่จะผสานพลังทุกภาคส่วน สนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ทำให้ประเทศไทยครองแชมป์จุดหมายปลายทางของโลก ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพื่อช่วยกระตุ้นกิจกรรมเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และก่อให้เกิดการจ้างงานกับประชาชนจำนวนมาก

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ