posttoday

ขอเกิดใหม่เป็นต้นไม้: จากไปอย่างเรียบง่าย แบบไม่ทิ้งภาระให้กับโลก

12 ตุลาคม 2565

แนวคิด ‘การจัดการศพแบบยั่งยืน’ เริ่มเข้ามามีบทบาทในยุคนี้มากขึ้น ‘Transcend’ สตาร์ทอัพจากสหรัฐฯจึงบรรเจิดไอเดีย ‘คืนผืนป่าให้กับโลก ด้วยการจากไปแบบไร้พิธี ฝังกลบอย่างไรไม่ให้ทำร้ายสิ่งแวดล้อม’

          ชีวิตหลังความตาย คงเป็นหนึ่งในท็อปปิคใหญ่ที่โดนถามเมื่อไหร่คำตอบที่ได้ก็เป็นอันต้องอ้ำๆอึ้งๆ แม้เราจะไม่รู้ว่าชีวิตหลังความตายมีจริงไหม แต่หนึ่งในสิ่งสำคัญคือการพิจารณาว่าหลังจากเราสิ้นลมหายใจไปแล้ว จะเกิดอะไรกับร่างกายเราบ้าง? และขั้นตอนในการทำศพสร้างผลดีหรือร้ายกับคนที่ยังอยู่มากกว่ากัน?

          แม้เราจะจากโลกนี้ไปแล้วแต่ปริมาณ carbon footprint ไม่ได้มลายจางหายตามไปด้วย การจัดการศพไม่ว่าจะทั้งการเผา ฝัง เก็บในห้องหรือโลงจนกว่าจะย่อยสลายไปเอง ทุกวิธีล้วนกินพลังงานและพื้นที่ แถมยังส่งมลภาวะที่เป็นพิษต่อสภาพอากาศ

ขอเกิดใหม่เป็นต้นไม้: จากไปอย่างเรียบง่าย แบบไม่ทิ้งภาระให้กับโลก

จัดการศพแบบวิถีใหม่ ตอบโจทย์ความยั่งยืน

          ข้อมูลจาก Northwoods Casket Company ประมาณไว้ว่าทรัพยากรที่ใช้ในการฝังโลงศพของสหรัฐฯ ในแต่ละปี จำเป็นต้องใช้พื้นที่และทรัพยากรจำนวนมากในการฝัง เช่น เหล็กเกือบ 100,000 ตัน คอนกรีต 1.5 ล้านตัน และต้นไม้เกือบ 77,000 ตัน แต่ผลท้ายสุดซากต่างๆกลับไม่ย่อยสลาย นอกจากนี้การใช้ฟอร์มาลีนดองศพไม่ให้เน่าเสียยังส่งผลร้ายกลายเป็นพิษในอากาศเมื่อสารดังกล่าวค่อยๆแตกสลายตัวตามกาลเวลา

          อีกทางเลือกในการจัดการศพที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก และใช้พื้นที่น้อยกว่าคือ การเผา  แต่ข้อมูลจาก Natural Death Centre ชี้ว่าการเผาแต่ละครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าและก๊าซพอๆกับการขับรถยนต์ราว 800 กิโลเมตร แถมการเผาศพ 1 แต่ละราย ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 113 กิโลกรัม

          แนวคิด ‘การจัดการศพแบบยั่งยืน’ จึงเข้ามามีบทบาทในจุดนี้ ‘Transcend’ สตาร์ทอัพจากสหรัฐฯจึงบรรเจิดไอเดีย ‘คืนผืนป่าให้กับโลก ด้วยการจากไปแบบไร้พิธี’

ขอเกิดใหม่เป็นต้นไม้: จากไปอย่างเรียบง่าย แบบไม่ทิ้งภาระให้กับโลก

เกิดใหม่เป็นต้นไม้ ไอเดียการฝังแบบไม่ทำลายดิน

          วิธีจัดการความตายฉบับเรียบง่ายที่บริษัท Transcend คิดขึ้นมาคือการจัดการแบบ ‘tree burials’ หรือฝังร่างใต้ต้นไม้ แต่วิธีการฝังจะแตกต่างจากธรรมเนียมที่เคยทำทั่วๆไป เพราะอย่าลืมว่าจุดประสงค์หลักคือต้องให้ทุกขั้นตอนมีความ  ‘eco-friendly หรือ ดีต่อสิ่งแวดล้อม’ ลำดับแรกร่างจะถูกห่อด้วยผ้าลินินที่เป็น organic แท้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ จากนั้นจะถูกวางในหลุมศพที่ทำมาจากเศษไม้หรือหญ้าแห้งเพื่อช่วยรักษาระดับออกซิเจนในดินให้เหมาะสม ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับการย่อยสลายตามธรรมชาติ

          ความพิเศษคือเทคโนโลยีที่บริษัทได้คิดค้นขึ้นโดยการใช้เชื้อราไมคอร์ไรซา (mycorrhizal fungi) ผสมผสานกับดินและเศษไม้ต่างๆ ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าต้นไม้ที่อยู่เหนือขึ้นไปจะได้รับสารอาหารจากร่างกายเราอย่างเต็มที่ และเติบโตขึ้นอย่างงดงาม การจัดการศพด้วยวิธีนี้บริษัทออกมาเผยว่าสามารถกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าการเผาศพถึง 6 เท่า

ขอเกิดใหม่เป็นต้นไม้: จากไปอย่างเรียบง่าย แบบไม่ทิ้งภาระให้กับโลก

 

          ไม่เพียงแค่ร่างกายมนุษย์เท่านั้น ทางบริษัทยังจัดจำหน่ายชุด kit สำหรับใช้ฝังร่างสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราที่เหล่าน้องกลับไปวิ่งเล่นยังดาวบ้านเกิด ซึ่งเจ้าของไม่ต้องเดินทางไปไกลเพื่อจัดการร่างน้อง แต่สามารถฝังที่สวนหลังบ้านเองได้เลย โดยในชุดจะมาพร้อมคู่มือการใช้งาน ผ้าลินินแบบ organic ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพดังที่เรากล่าวไปข้างต้น และดินที่ผสมเชื้อราไมคอร์ไรซาที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้นมา

          Matthew Kochmann CEO ของบริษัทนี้กล่าวว่า “ถ้า 1 ใน 7 คน เลือกที่จะจัดการศพด้วยวิธีนี้ เราจะสามารถเพิ่มจำนวนต้นไม้ได้มากถึง 1.2 ล้านล้านต้นทั่วโลก ซึ่งเป็นจำนวนที่นักวิทยาศาสตร์คาดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศหรือ Climate change ได้ แม้ว่าจะมีวิธีอื่นที่สามารถจัดการชีวิตหลังความตายได้แบบไม่ทำร้ายโลก แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าถึงได้ หรือเป็นที่แพร่หลาย การเผาและฝังกลบแบบธรรมดาจึงกลายเป็นวิธีที่คนนิยมมากที่สุด ในอนาคตผู้คนควรมีสิทธิ์ที่จะเลือกชีวิตหลังความตายแบบที่คงไว้ซึ่งความภาคภูมิใจว่าอย่างน้อยครั้งสุดท้ายในชีวิต พวกเขายังสามารถรักษาความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ได้ การพัฒนาแนวทางที่ตอบโจทย์กับสิ่งแวดล้อมถือเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมต่างๆควรเร่งลงมือทำ”

          Transcend คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2023 ส่วนราคาในการจัดการศพยังไม่เปิดเผยออกมาอย่างแน่ชัด ถึงแม้ว่าตัวเลือกในการจัดการศพในลักษณะนี้จะมีความยั่งยืนและดีกับสิ่งแวดล้อม แต่เราก็ต้องตระหนักในความต่างของแต่ละวัฒนธรรมที่มีความละเอียดอ่อนด้วย การจัดการศพจึงเป็นสิทธิที่ไม่ควรมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่เกินจะรับไหว และควรเคารพกับทางเลือกของครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน เทคโนโลยีต่างๆที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใช้ยังต้องดำเนินไปให้พร้อมกับกฎหมายของแต่ละประเทศด้วย

 

ข้อมูลอ้างอิง:

  • https://www.fastcompany.com/90793902/at-these-new-green-cemeteries-your-body-will-turn-into-a-tree
  • https://www.greenmatters.com/living/tree-burial
  • https://www.wellandgood.com/transcend-tree-burial/

ข่าวล่าสุด

ไทยรั้งอันดับ 2 โลก ธุรกิจเผชิญวิกฤตข้อมูลบิดเบือนคุกคามความมั่นคง