posttoday

จากอดีตภารโรง สู่เศรษฐีพันล้าน ‘อี ซูจิน’ กับธุรกิจแอปฯท่องเที่ยว Yanolja

24 มิถุนายน 2565

ฝันที่ไม่กล้าฝัน! ใครจะเชื่อว่าจากเด็กกำพร้า ที่เริ่ม first job จากการเป็นภารโรงใน ‘เลิฟ โฮเทล’ จะพลิกผันชะตาชีวิตให้ขึ้นแท่นสู่ระดับมหาเศรษฐีของเกาหลีใต้ได้

          แม้โรคระบาดใหญ่อย่างโควิด-19จะยังอยู่กับเรา แต่ก็ต้องยอมรับว่าในทุกวันนี้สถานการณ์ทั่วโลกถือว่าดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก จนทำให้อุตสาหกรรมต่างๆเริ่มกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว โรงแรมและการบิน ล่าสุดทางด้านสตาร์ทอัพเพื่อการท่องเที่ยวจากแดนโสมอย่าง ‘Yanolja’ ได้ออกมาเปิดเผยยอดขายในไตรมาสแรก ซึ่งทำให้เจ้าของแบรนด์อย่าง ‘อี ซูจิน’ ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน จากจุดแรกเริ่มที่เขาเคยเป็นแค่ภารโรงเท่านั้น

จากอดีตภารโรง สู่เศรษฐีพันล้าน ‘อี ซูจิน’ กับธุรกิจแอปฯท่องเที่ยว Yanolja

‘Yanolja’ สตาร์ทอัพจองโรงแรม ยูนิคอร์นแห่งแดนกิมจิ

          ‘Yanolja’ ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 ซึ่งมีความหมายว่า “Hey, let’s play หรือ มาเล่นกันเถอะ” ในภาษาเกาหลี แรกเริ่มเดิมทีคุณอีตั้งใจออกแบบมาเพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มจองห้องพักออนไลน์ระยะสั้นเท่านั้น ก่อนจะค่อยๆขยายสู่การให้บริการระบบบริหารโรงแรม ช่วยพัฒนาระบบ IT ให้บริการช่วยทำการตลาด ขยายต่อสู่อีคอมเมิร์ซสำหรับการท่องเที่ยว

           

          นอกจากนี้ Yanolja ยังได้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์บนคลาวด์เพื่อช่วยกระบวนการทางธุรกิจของโรงแรมและบริษัทท่องเที่ยวให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เช่นการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าที่สามารถคาดเดาพฤติกรรมลูกค้าได้ โดยรายได้จากธุรกิจคลาวด์มีส่วนเพิ่มให้กับยอดขายทั้งหมดของ Yanolja ถึง 20.5% ในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8.5% จากปี 2021

 

          บริษัทชี้แจงในรายงานไตรมาสแรกว่านับตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโควิด-19 บริการทางดิจิทัลแบบไม่ต้องพบเห็นลูกค้าต่อหน้า (Non Face-to-Face) เริ่มเป็นที่นิยมและแพร่หลายไปสู่อุตสาหกรรมเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ (leisure industry) นอกจากนี้โรงแรมหลายแห่งเริ่มมีการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงของการระบาดใหญ่

 

 

เมษายนที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นยังรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ Yanolja มีแผนที่จะจดทะเบียนกับ Nasdaq  ตลาดหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ ขณะที่ในปัจจุบันนอกจากบริษัทจะได้รับการสนับสนุนจากเจ้าบุญทุ่มอย่าง SoftBank แล้ว ยังมีกองทุนความมั่งคั่งแห่งสิงคโปร์ GIC, Booking บริษัทด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ และบริษัทไพรเวทอิควิตี้ SkyLake Investment ของ Chin Dae-je อดีตผู้บริหาร Samsung Electronics คอยหนุนหลังอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน

จากอดีตภารโรง สู่เศรษฐีพันล้าน ‘อี ซูจิน’ กับธุรกิจแอปฯท่องเที่ยว Yanolja

จากอดีตภารโรง สู่เศรษฐีพันล้าน

          ‘อี ซูจิน’ CEO วัย 44 ปีจากประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของ Yanolja รองจากอภิมหากองทุน Vision Fund ในเครือของ Softbank โดยเปอร์เซ็นการถือครองหุ้นใน Yanolja ประธานอีมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 16.54% ในขณะที่ภรรยาและลูกสาวของเขาแต่ละคนถือหุ้นในสัดส่วน 5.18% ส่วน Vision Fund ถือครองที่ 25.23% ด้วยมูลค่าการวางเงินสูงถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์เมื่อกรกฎาคมของปีที่แล้ว ทำให้ในตอนนี้มูลค่าของแพลตฟอร์มเพื่อการท่องเที่ยว Yanolja พุ่งทะยานสูงถึง 6.7 พันล้านดอลลาร์ โดยทาง Forbes ประเมินว่าประธานอีและครอบครัวของเขาจะมีมูลค่าสินทรัพย์ (Net Worth) มากถึง 2 พันล้านดอลลาร์

 

          ชีวิตในวัยเด็ก ด้วยความที่เป็นกำพร้า ‘ซูจิน’ ต้องตระเวนไปอยู่ตามบ้านญาติจนกระทั่งเขาเริ่มเติบโตขึ้น ในวัย 23 ปี เขาเริ่มทำงานให้กับ ‘เลิฟ โฮเทล’ แห่งหนึ่งในตำแหน่งภารโรง ด้วยความี่ทำงานคลุกคลีในแวดวงนี้มานาน ประสบการณ์และความเข้าใจต่างๆก็เริ่มช่ำชองขึ้น

 

          สำหรับธุรกิจ เลิฟ โฮเทล ในเกาหลีนั้นหากจะพูดให้เข้าใจง่ายคงไม่ต่างอะไรจาก ‘ม่านรูด’ ในบ้านเรานัก ซึ่งธุรกิจในรูปแบบนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทและเฟื่องฟูในเกาหลีใต้มากขึ้นตั้งแต่ปลายยุค 80 แต่หลังจากนั้นไม่กี่สิบปีธุรกิจนี้ก็ต้องเผชิญกับช่วงขาลงอยู่แทบจะตลอดเวลาเพราะมักมีส่วนพัวพันกับธุรกิจสีเทา และการคบชู้

 

          ดังนั้น เลิฟ โฮเทล จึงเผชิญกับชื่อเสียงที่ติดลบมาโดยตลอด กระทั่งต่อมาในปี 2004 ประเทศเกาหลีใต้ เริ่มออกกฎหมายห้ามการค้าประเวณี บวกกับปัจจัยด้านการเมืองที่ขัดแย้งกับจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้ง 2 ปัจจัยจึงมีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวลดลง และอนาคตของ เลิฟ โฮเทล ยิ่งระส่ำระส่ายมากขึ้น

 

          แต่สำหรับ ‘ซูจิน’ เขามองว่าวิกฤตครั้งนี้คือโอกาส! เขาเริ่มสร้างเครือข่ายชุมชนบนพื้นที่ออนไลน์ เชื่อมโยงระหว่างซัพพลายเออร์กระดาษชำระ ผ้าเช็ดตัว และเจ้าของโรงแรม ให้เข้าถึงกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งต่อมาในปี 2005 จึงเริ่มปรับเปลี่ยนมาเป็นระบบจองห้องพักผ่านเว็บไซต์ ซูจินยังได้โน้มน้าวใจเจ้าของเลิฟ โฮเทลทั้งหลาย ให้เปลี่ยนมาโฟกัสกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวจะดีกว่าการมุ่งเน้นแต่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้ห้องพักเพื่อจุดประสงค์ทางเพศเท่านั้น การรอคอยลูกค้ากลุ่มเดิมๆก็เท่ากับการรอวันล่มสลายของธุรกิจ

จากอดีตภารโรง สู่เศรษฐีพันล้าน ‘อี ซูจิน’ กับธุรกิจแอปฯท่องเที่ยว Yanolja

          นอกจากนี้เขายังส่งเสริมให้เจ้าของโรงแรมโพสต์รูปห้องพักในระบบจอง ซึ่งถือเป็นสิ่งแปลกใหม่มากในขณะนั้น เพราะตามธรรมเนียมแล้วโรงแรมม่านรูดไม่เคยทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนี้มาก่อน!

 

          ไอเดียนี้ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีลูกค้าแห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นและเยี่ยมชมเว็บไซต์กันระดับที่เรียกว่าหัวกระไดไม่แห้งเลยทีเดียว โดยราคาของห้องพักต่อคืน จะเริ่มตั้งแต่ระดับราคาประหยัดที่ 50,000 วอนหรือราวๆ 1,300 บาท ไปจนถึงระดับโรงแรม 5 ดาวในราคา 200,000 วอน หรือราว 5,000 บาท 

         

          Yanolja ยังเปิดบริการให้คำปรึกษากับ เลิฟ โฮเทล ต่างๆ ในเรื่องของการตกแต่งว่าควรทำอย่างไรถึงจะเรียกลูกค้าได้มากกว่านี้ เปิดอบรมวิธีดูแลความปลอดภัยไม่ให้เกิดการแอบติดกล้อง webcam ในห้องพัก ทั้งยังนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า เช่นสามารถ Check-in, Check-out ได้ด้วยตนเอง หรือใช้หุ่นยนต์แทนการส่งของในแต่ละห้อง

 

          โดยหลังจากเปิดบริการการจองห้องพักออนไลน์แบบเต็มตัว ถัดจากนั้นไม่กี่ปี Yanolja ก็ได้เริ่มพัฒนาต่อยอดไปสู่การพัฒนาเว็บไซต์ให้กลายเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายบนมือถือ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจเพราะมียอดดาวน์โหลดครบ 10 ล้านครั้งไปแล้วเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา

จากอดีตภารโรง สู่เศรษฐีพันล้าน ‘อี ซูจิน’ กับธุรกิจแอปฯท่องเที่ยว Yanolja

           ถึงแม้จะมีคู่แข่งอย่างแอปพลิเคชัน ‘Airbnb’ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก เพราะส่วนใหญ่แล้วชาวเกาหลี มักไม่สะดวกใจที่จะเปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาพักในบ้านของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ Yanolja จึงตอบโจทย์มากกว่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีงบแบบอู้ฟู่

 

          Yanolja ถือได้ว่าเป็นแอปพลิเคชันที่เข้ามาปฎิวัติวงการ เลิฟ โฮเทล ทั้งการเปลี่ยนภาพลักษณ์ กลุ่มลูกค้าและผู้ใช้บริการ ระบบภายในต่างๆให้กลายเป็นโรงแรมราคามิตรภาพแต่ยังแฝงไปด้วยความทันสมัย ซึ่งในขณะนี้ Yanolja ถือว่าขยับขยายไปไกลถึงขั้นมีโรงแรมห้าดาวมาร่วมจอย และเป็นแพลตฟอร์มที่มีโรงแรมเข้าร่วมมากที่สุดในเกาหลีใต้ เท่านั้นยังไม่พอ ท่าน CEO อี ยังเดินหน้าเร่งขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็น budget hotel franchise พร้อมกับการขายระบบ smart hotel management อีกด้วย

 

          ‘อี ซูจิน’ ถือเป็น self-made billionaire คนล่าสุดของประเทศเกาหลีใต้ ถัดจาก ‘คิม บอมซู’ ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชันแชทฟรีสุดฮิตในเกาหลี ‘Kakao’ ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของทั้งคู่คงพูดได้เต็มปากว่าถอดแบบมาจากสำนวน “จากยาจกกลายเป็นเศรษฐี” เป๊ะๆ

 

ข้อมูลอ้างอิง