posttoday

Future Fashion – Zero Waste เสื้อผ้าดิจิทัล แฟชั่นยุคใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

16 พฤษภาคม 2565

เมื่อโลกยุคใหม่ต้องตามให้ทันทุกกระแส เสื้อผ้าแฟชั่นจึงถูกใช้งานเพียงไม่กี่ครั้งและกลายเป็นขยะที่สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมแฟชั่นจะมีวิธีรับมืออย่างไร ในเมื่อความต้องการซื้อของผู้บริโภคยังสูง แต่ต้องตอบโจทย์ ‘ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม’

          ‘แฟชั่น’ หนึ่งในการแสดงออกทางศิลปะ และยังสามารถนำเสนอวัฒนธรรม ความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ‘แฟชั่น’ มีอัตราการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างก้าวกระโดด อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายจึงผุดขึ้นมากมายราวกับดอกเห็ดเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภค แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้นคือขยะจำนวนมหาศาลจากเสื้อผ้าเหลือใช้ รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติยังถูกผลาญไปมากจนแทบกู้คืนความเสียหายไม่ได้ Future Fashion – Zero Waste เสื้อผ้าดิจิทัล แฟชั่นยุคใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

Fast Fashion กับปัญหาสิ่งแวดล้อม

          ฟาสต์แฟชั่น (Fast Fashion) ถือเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมความสวยความงามที่มาพร้อมกับภัยกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งด้วยพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ เราไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่าใครๆต่างก็อยากแต่งตัวให้สวย หล่อ ดูดี ยิ่งในโลกที่เทคโนโลยีเติบโตไปไกลการได้อวดโฉมเสื้อผ้าชุดใหม่สุดทันสมัย ถือเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนก่อให้เกิดอาชีพใหม่ๆอย่าง Influencer (กลุ่มคนที่มีอิทธิพลทางความคิดจนสามารถสร้างผลกระทบด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจได้) แต่รู้หรือไม่ว่าเสื้อผ้าที่เราใส่ถ่ายรูปอวดสังคมให้ยลโฉมไม่กี่ครั้งนั้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล 

          การผลิตเสื้อผ้าออกสู่ท้องตลาดในแต่ละครั้งต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เช่น ‘ฝ้าย’ เส้นใยที่เรานำมาใช้เพื่อถักทอเสื้อผ้า ฝ้ายเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ซึ่งจากข้อมูลของ กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wildlife Fund) ชี้ว่า ผ้าฝ้ายที่ผลิตเสื้อ 1 ตัวต้องใช้น้ำเพื่อปลูกถึง 2,700 ลิตร หรือเท่ากับปริมาณน้ำที่เรากินได้ถึง 3 ปี  ถ้าใช้ฝ้ายผลิตกางเกงยีนส์ 1 ตัวต้องใช้น้ำ 7,500 ลิตร หรือเท่ากับปริมาณน้ำที่เรากินได้ถึง 7 ปี และในแต่ละปีอุตสาหกรรมเสื้อผ้า Fast Fashion ต้องใช้น้ำเพื่อผลิตสินค้ามากถึง 9 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร

 

          ยังไม่หมดแค่นี้ในปี 2019 รายงานของสหประชาติระบุว่า วงการ Fast Fashion ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยน้ำเสียกว่าร้อยละ 20 ของปริมาณน้ำเสียทั้งโลก ซึ่งปะปนไปด้วยปริมาณสารพิษนับพันชนิดที่ไม่ได้รับการบำบัดอย่างถูกต้อง และยังเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 10 เปอร์เซ็นของปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก เห็นได้ชัดว่ากว่าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มแต่ละชนิดจะถูกผลิตออกมาได้นั้น เราต้องผลาญทรัพยากรธรรมชาติไปมากแค่ไหน แต่พวกมันกลับถูกใช้งานอย่างไม่คุ้มคุณค่าเสียเลย ส่วนใหญ่ก็ถูกใช้งานเพียงไม่กี่ครั้ง เพราะตลาดโลกและกระแสแฟชั่นที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว กระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่เรื่อยๆ เพื่อเกาะกระแสให้ทันกับสังคม

Future Fashion – Zero Waste เสื้อผ้าดิจิทัล แฟชั่นยุคใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

เสื้อผ้าดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่

          หนึ่งในวิวัฒนาการด้านแฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้คงหนีไม่พ้นคอนเซป Sustainability Fashion หรือ แฟชั่นเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับการต่อยอดและทำให้สังคมเกิดความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากหลังจากโลกเผชิญกับวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยแนวคิดเรื่องความยั่งยืนนี้จะไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์หากขาดการผสมผสานจากเทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุงและพัฒนาอยู่อย่างเสมอจนทำให้เราเกิดวัสดุและผลิตภัณฑ์ทางเลือกมากมายในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงในวงการแฟชั่นด้วยเช่นกัน

          เมื่อผู้คนเริ่มตระหนักถึงปัญหาสภาพแวดล้อมมากขึ้น อุตสาหกรรมเสื้อผ้าเพื่อความยั่งยืนจึงเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีรายงานการคาดการณ์ตัวเลขของอุตสาหกรรมดังกล่าวว่าจะสามารถโตได้ถึง 8.25 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2023

Future Fashion – Zero Waste เสื้อผ้าดิจิทัล แฟชั่นยุคใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

 

          หนึ่งในแนวคิดที่ได้รับเสียงฮือฮาและการตอบรับเป็นอย่างดีคือการมาของ ‘เสื้อผ้าแฟชั่นดิจิทัล’ ชุดที่เราสามารถเลือกใส่ได้โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติ หรือทรัพยากรใดๆก็ตามในโลกแห่งความเป็นจริง แนวคิดนี้เริ่มเติบโตและแพร่สะพัดในช่วงล็อคดาวน์ที่ผู้คนในสังคมสามารถพบปะกันได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้นเสื้อผ้าดิจิทัลจึงเปรียบเสมือนแฟชั่นที่นำเสนอความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ได้แบบแหวกแนวโดยไม่ต้องกังวลว่าแฟชั่นที่เราสวมใส่จะทำลายสิ่งแวดล้อมหรือไม่

          ปัจจุบันในต่างประเทศมีแบรนด์เสื้อผ้าดิจิทัลมากมายไม่ว่าจะ DRESSX, The Fabricant, Republiqeเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่มีความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อผ่าน pop-up store ที่เมื่อลูกค้าส่องกระจกภายในร้าน เสื้อผ้าดิจิทัลก็จะปรากฏทาบไว้ราวกับมีเวทมนต์ หรือจะเลือกซื้อผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยลูกค้าต้องทำการส่งรูปถ่ายของตัวเองไปให้ทางแบรนด์ก่อน จากนั้นทางแบรนด์จะนำเข้าสู่กระบวนการตัดต่อแล้วส่งกลับมาให้ รูปภาพที่ลูกค้าได้กลับมาก็จะสามารถนำไปใช้ในแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อนำเสนอความเก๋ได้แบบเสมือนจริง

Future Fashion – Zero Waste เสื้อผ้าดิจิทัล แฟชั่นยุคใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

          การมาของเสื้อผ้าดิจิทัลกำลังถูกเป็นที่พูดถึงว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหา Fast Fashion ที่สร้างความเสียหายกับสภาพแวดล้อมได้ ในอนาคตเสื้อผ้าดิจิทัลอาจเพิ่มอุปทานของผู้ซื้อที่อยากใส่เสื้อผ้าแบบใช้งานน้อย ต้องการนำเสนอความเป็นตัวตนบนโซเชี่ยลมีเดียผ่านมุมมองของแฟชั่น ดังนั้นเสื้อผ้าในลักษณะนี้จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนสมัยใหม่มากกว่า เพราะนอกจากจะไปไกลกว่าเทรนด์ในตลาดแล้ว ยังไม่ทิ้งรอยความเสียหายให้กับทรัพยากรธรรมชาติบนโลกใบนี้อีกด้วย  

 

ข้อมูลอ้างอิง

ข่าวล่าสุด

"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ยังระบาดหนัก!