posttoday

รุมทึ้ง พม่า-ลาว แหล่งสำรองพลังงานภูมิภาค

20 มีนาคม 2554

นายทวีวงศ์ ศรีบุรี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แนวโน้มจะมีการขยายการก่อสร้างเขื่อน หรือพลังงานน้ำเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในประเทศพม่าและลาว ทดแทนพลังงานนิวเคลียร์ที่อาจจะไม่สามารถแจ้งเกิดในไทยได้ เพราะความหวาดกลัวสารกัมมันตรังสี

นายทวีวงศ์ ศรีบุรี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แนวโน้มจะมีการขยายการก่อสร้างเขื่อน หรือพลังงานน้ำเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในประเทศพม่าและลาว ทดแทนพลังงานนิวเคลียร์ที่อาจจะไม่สามารถแจ้งเกิดในไทยได้ เพราะความหวาดกลัวสารกัมมันตรังสี

โดย...ปริญญา ชูเลขา

 

รุมทึ้ง พม่า-ลาว แหล่งสำรองพลังงานภูมิภาค

นายทวีวงศ์ ศรีบุรี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แนวโน้มจะมีการขยายการก่อสร้างเขื่อน หรือพลังงานน้ำเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในประเทศพม่าและลาว ทดแทนพลังงานนิวเคลียร์ที่อาจจะไม่สามารถแจ้งเกิดในไทยได้ เพราะความหวาดกลัวสารกัมมันตรังสี

อย่างไรก็ดี การเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านนั้น พม่าถือว่าเป็นเป้าหมายใหญ่ของหลายประเทศรวมถึงไทยด้วย แต่นโยบายรัฐบาลทหารพม่าจะเน้นเปิดให้ต่างชาติเข้าไปสัมปทานเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ หรือพลังงานน้ำก่อน ส่วนพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป เช่น แร่ หรือป่าไม้ ยังคงสงวนไว้ ยอมแค่ให้ทุกชาติเข้าไปสำรวจ

พื้นที่ที่มีศักยภาพน่าลงทุนสร้างเขื่อน คือ ลำน้ำสาละวิน ซึ่งไทย โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ชิโนไฮโดร รัฐวิสาหกิจจากจีน กำลังเข้าไปสำรวจพื้นที่เพื่อลงทุนสร้างเขื่อนฮัจจี

ปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่เข้าไปลงทุนในพม่ามากที่สุด โดยก่อสร้างเขื่อนเพื่อส่งไฟฟ้ากลับไปใช้ที่จีนเช่นเดียวกับอินเดีย ตามด้วยเกาหลีใต้ ที่เน้นลงทุนผูกขาดการจำหน่ายสายส่งทั้งหมด กระทั่งญี่ปุ่นก็สนใจ แต่ติดปัญหาที่ไปร่วมวงกับสหรัฐต่อต้านพม่า

อีกประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นกลุ่มเป้าหมายการเข้าไปลงทุนด้านพลังงาน คือ ลาว กำลังมีการศึกษาโครงการการผลิตไฟฟ้า 282 เมกะวัตต์ ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเงี๊ยบ เป็นการวางเขื่อนสองเขื่อนกั้นลำน้ำเงี๊ยบ เขื่อนแรกขนาดความสูง 163 เมตร จะถูกติดตั้งเครื่องปั่นไฟฟ้า 2 ชุด เพื่อผลิตไฟฟ้า 262 เมกะวัตต์ ไฟฟ้าที่ได้ กฟผ.ได้ทำสัญญาระยะยาวรับซื้อมาทั้งหมด

เขื่อนถัดมาอีกหนึ่งเขื่อนอยู่ด้านใต้ เป็นเขื่อนควบคุมน้ำขนาดเล็กความสูงเพียง 20 เมตร จะติดตั้งชุดปั่นไฟฟ้าขนาด 20 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าส่งให้แก่การไฟฟ้าแห่งประเทศลาวนำไปใช้ในท้องถิ่น ตามแผนการดำเนินการ โรงไฟฟ้าจะเดินเครื่องในเดือน ม.ค. 2557

“การซื้อขายไฟฟ้าระหว่างไทยกับลาวไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเริ่มทำกันมาตั้งแต่ปี 2515 เพราะการแสวงหาแหล่งไฟฟ้าจากต่างประเทศเป็นภารกิจสำคัญของ กฟผ. เพื่อเพิ่มทางเลือกในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย นอกเหนือจากการใช้ถ่านหิน น้ำมัน หรือก๊าซ”

ขณะเดียวกันการเปิดรับทุนนอกของลาวก็หวังผลที่จะใช้การพัฒนาในอุตสาหกรรมพลังงาน เป็นพลังขับเคลื่อนในการยกระดับรายได้มวลรวมของประเทศ และช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความยากจนของประชากร เพื่อความก้าวหน้าและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาวต่อไปด้วย เพราะเกือบหนึ่งในสามของรายได้มวลรวมประชาชาติของลาวนั้น มาจากอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าจำหน่ายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งศักยภาพของลาวได้มีการประเมินว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ถึง 2.3 หมื่นเมกะวัตต์

ประมวลจากภาพรวมทั้งหมดที่ว่ามานี้ จึงไม่แปลกที่นานาประเทศจะยกให้พม่าและลาวเป็น “แบตเตอรี่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

รุมทึ้ง พม่า-ลาว แหล่งสำรองพลังงานภูมิภาค


 

 

ข่าวล่าสุด

"อัครา" ชู “พะเยา…ฮีลใจ : Hidden Story – ฟังเสียงหัวใจ @ปางปูเลาะ” หนุนเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง