ศาลฎีกาพิพากษายืนโทษบัสบาส จำคุก 46 ปี คดีโพสต์เข้าข่ายมาตรา112
ศาลฎีกาพิพากษายืนโทษจำคุก “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร 46 ปี จากคดีโพสต์เฟซบุ๊ก 27 ข้อความ เข้าข่ายผิด ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ ไม่รอลงอาญา คดีถึงที่สุด
KEY
POINTS
- ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก "บัสบาส" หรือ มงคล ถิระโคตร เป็นเวลา 46 ปี โดยไม่รอลงอาญา
- ความผิดเกิดจากการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 27 ข้อความ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
- คำพิพากษานี้ถือเป็นหนึ่งในคดีมาตรา 112 ที่มีโทษสูงที่สุดนับตั้งแต่การเคลื่อนไหวทางการเมืองปี 2563
ศาลฎีกาพิพากษายืนโทษจำคุก มงคล ถิระโคตร หรือ “บัสบาส” รวม 46 ปี ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการโพสต์เฟซบุ๊ก 27 ข้อความ โดยไม่รอลงอาญา ทำให้คดีสิ้นสุดลงทันที ขณะเจ้าตัวถูกคุมขังต่อเนื่องแล้ว 694 วัน โดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัวในทุกชั้นศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาอ่านที่ ศาลจังหวัดเชียงราย ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันในห้องพิจารณาคดี โดยศาลมีคำพิพากษาแก้จากชั้นอุทธรณ์ภาค 5 ที่เคยลงโทษรวมกว่า 54 ปี เหลือจำคุก 46 ปี ถือเป็นหนึ่งในคดีที่มีโทษสูงที่สุดภายหลังการเคลื่อนไหวทางการเมืองปี 2563
เส้นทางคดีของมงคลเริ่มจากการโพสต์เฟซบุ๊กในช่วงปี 2564–2565 ซึ่งถูกแจ้งข้อหาหลายครั้ง ก่อนถูกส่งฟ้องรวมหลายสำนวนในศาลจังหวัดเชียงราย
ศาลชั้นต้นชี้ว่ามี 14 โพสต์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ลงโทษกระทงละ 3 ปี และลดเหลือกระทงละ 2 ปีจากการให้การเป็นประโยชน์ ส่วนอีก 13 ข้อความยกฟ้อง แต่ชั้นอุทธรณ์กลับเพิ่มโทษเมื่อรวมทุกสำนวน ก่อนฎีกาปรับลงเหลือ 46 ปีในวันนี้
ในเรือนจำกลางเชียงราย มงคลใช้ชีวิตร่วมกับผู้ต้องขังกว่า 200 คนในพื้นที่เดียวกัน สภาพแออัดและข้อจำกัดด้านความเป็นอยู่ทำให้ต้องปรับตัว ทั้งการใช้ผ้าห่มเพียงไม่กี่ผืนในฤดูหนาว การอ่านหนังสือและเขียนจดหมายเพื่อประคองสภาพจิตใจ ขณะครอบครัวที่อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ต้องเผชิญภาระเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนของอนาคต
ด้านมงคลเคยเขียนจดหมายจากเรือนจำสะท้อนความหวังว่า แม้โทษยาวนานถึง 50 ปี “ก็แค่ยักไหล่แล้วไปต่อ” พร้อมเรียกร้องให้มีการทบทวนกฎหมาย ม.112 และผลักดันแนวคิดนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง


