ฝ่ายค้านซัด อนุทิน เดินเกมพลาด จนเกิดประเด็นสหรัฐเบรกเจรจาภาษี

 

ประเด็นทางการค้าและเวทีการเมืองระหว่างประเทศกำลังเป็นที่จับตาอย่างหนัก จากกรณี "ภาษีสหรัฐ" หลังฝ่ายค้านดาหน้าออกมาวิจารณ์การทำงานของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี 

 

โดยชี้ว่าเป็นการ "เดินเกมพลาด" และ "บริหารจัดการผิดพลาด" จนเกิดประเด็นสหรัฐอเมริกาประกาศระงับการเจรจาข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนกับไทยเป็นการชั่วคราว

 

ชนวนของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เมื่อ นิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยข้อมูลว่า รองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ได้แจ้งขอระงับการเจรจาฯ โดยมีเงื่อนไขให้ไทยต้องกลับไปปฏิบัติตาม "ปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา"

 

ท่าทีดังกล่าวของสหรัฐฯ สร้างความกังวลในวงกว้าง ทั้งภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และกลุ่มนักลงทุน แม้มีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยืนยันกับนายกฯ อนุทิน ว่า

 

ไม่ประสงค์แทรกแซงปัญหาทวิภาคี แต่การกระทำของ USTR กลับสะท้อนว่าประเด็นชายแดนถูกใช้เป็นเครื่องมือกดดันไทยอย่างชัดเจน

 

"ศิริกัญญา" ชี้ "อนุทิน" เดินเกมพลาด ทำเรื่องยืดเยื้อ

 

วันนี้ (17 พ.ย.) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน วิเคราะห์สถานการณ์นี้ว่า การที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจสั่งระงับปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา โดยไม่มีกำหนด ถือเป็นการเดินเกมที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง จนนำมาซึ่งท่าทีที่ไม่พอใจจากสหรัฐฯ และระงับการเจรจา

 

ศิริกัญญา ชี้ว่า แม้ขณะนี้อาจยังไม่กระทบตัวเลขภาษีที่กำหนดไว้แล้ว แต่เมื่อการเจรจาต้องยืดเยื้อออกไป จากเดิมที่เหลือเพียงการตกลงในรายละเอียด

 

ย่อมทำให้ไทยเสียโอกาสและผลประโยชน์ที่ควรจะได้รับกลับคืนมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการส่งออกและนักลงทุนในอนาคต

 

"นายกฯ ควรรีบอธิบายข้อเท็จที่เกิดขึ้นว่าไทยไม่ได้ตั้งใจดำเนินการอะไรที่ไม่ได้สัดส่วน แต่เป็นฝ่ายกัมพูชาที่เป็นผู้ยั่วยุและวางทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเร่งชี้เเจงให้หมดข้อสงสัย มิเช่นนั้นก็คงจะมีปัญหาต่อจากนี้ " น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

 

 

รองหัวหน้าพรรคประชาชนยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดกัมพูชาจึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย และตั้งคำถามว่าข้อมูลที่สหรัฐฯ มีนั้นถูกต้องหรือไม่

 

อย่างไรก็ตามการที่ไทยตัดสินใจรีบระงับ ปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา  ถือเป็นการดำเนินการที่ผิดและเราควรเร่งชี้แจงข้อเท็จจริงต่อนานาประเทศ

 

พร้อมแนะทางแก้เกมว่า ไทยควรกลับไปดำเนินการตามปฏิญญาสันติภาพฯ เพื่อเรียกร้องให้โลกหันมากดดันกัมพูชา ต่อการกระทำที่นำมาซึ่งการสูญเสียของทหารไทยโดยไม่จำเป็น และการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ที่กำลังสร้างผลกระทบไปทั่วโลก

 

ส่วนประเด็นที่นายกฯ เดินทางไปจีนในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ศิริกัญญา มองว่า อาจทำให้เกิดภาพที่คนคิดไปได้ว่าสหรัฐฯ ไม่พอใจ แต่ตนเชื่อว่าเหตุผลหลักของความไม่พอใจมาจากการระงับ "ปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา"  มากกว่า

 

พร้อมย้ำว่าไทยสามารถสร้างสมดุลกับประเทศมหาอำนาจได้โดยไม่กระทบต่อเนื่องมายังการค้าการลงทุน และไม่จำเป็นต้องเลือกข้าง 

"เพื่อไทย" ติง "สับสน-ไม่รัดกุม" จ่อซักฟอกรัฐบาล

 

ขณะที่ฟากพรรคเพื่อไทย ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย มองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ "การบริหารจัดการ" ที่ขาดประสิทธิภาพ

 

โฆษกพรรคเพื่อไทยมองว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ "ค่อนข้างสับสน" ไม่พยายามสร้างมิตรภาพกับประเทศมหาอำนาจหรือคู่ค้าของไทย 

 

จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่เริ่มตั้งคำถามต่อทิศทางการเจรจาของไทย

 

“ความรักชาติและปกป้องประเทศชาติ ทุกคนมีหมด แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องบริหารจัดการ และควรมีการบริหารจัดการให้ดีมากกว่านี้” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว

 

ศึกษิษฏ์ ย้ำว่า การเจรจาภาษีและการเมืองระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ผูกกันอยู่แล้ว แยกออกจากกันไม่ได้ รัฐบาลจึงต้องบริหารจัดการจุดนี้ให้มีประสิทธิภาพและรัดกุมมากกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อต้องสื่อสารกับประเทศมหาอำนาจ

 

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมนำประเด็น "ภาษีสหรัฐ" และการบริหารข้อพิพาทชายแดนที่ผิดพลาดจนส่งผลกระทบไปถึงเวทีโลก เข้าอภิปรายซักฟอกรัฐบาลอย่างแน่นอน

 

รัฐบาลยันเดินหน้าเจรจาทุกมิติ

 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากฝ่ายค้าน  แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ว่า  ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังคงเดินหน้าเจรจาการค้าอย่างเต็มที่ในทุกมิติ ไม่ใช่แค่เฉพาะกับสหรัฐฯ แต่รวมถึงประเทศอื่นๆ ด้วย