ดร.ณัฏฐ์ ชี้แก้กฎหมายท้องถิ่นลดอายุ–ไม่จำกัดวาระ ผูกขาดอำนาจ
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน วิจารณ์ร่างแก้ไขกฎหมายท้องถิ่น “ลดอายุผู้บริหารเหลือ 25 ปี–ไม่จำกัดวาระ” สวนหลักประชาธิปไตย เปิดช่องผูกขาดอำนาจท้องถิ่น
KEY
POINTS
- ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม ชี้ว่าการแก้ไขกฎหมายท้องถิ่นเพื่อลดอายุผู้สมัครและยกเลิกการจำกัดวาระ เป็นกลไกที่เอื้อให้เกิดการผูกขาดและสืบทอดอำนาจในตระกูลการเมืองท้องถิ่น
- การยกเลิกการจำกัดวาระขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการป้องกันการสะสมอำนาจ และเป็นการปิดกั้นโอกาสของผู้นำรุ่นใหม่ในการเข้ามาบริหาร
- การลดอายุผู้บริหารท้องถิ่นเหลือ 25 ปี ถูกมองว่าอาจขาดวุฒิภาวะและประสบการณ์ที่จำเป็น เนื่องจากตำแหน่งนี้เปรียบเสมือน "นายกรัฐมนตรีขนาดย่อม"
ภายหลังสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่างแก้ไข พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 4 ฉบับ ซึ่งมีสาระสำคัญในการ ลดอายุขั้นต่ำของผู้บริหารและสมาชิกท้องถิ่นจาก 35 ปี เหลือ 25 ปี และยกเลิกการจำกัดวาระดำรงตำแหน่ง นั้น
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า การแก้ไขดังกล่าวแม้อ้างว่าเพื่อ “เปิดโอกาสและเพิ่มความหลากหลายทางการเมืองท้องถิ่น” แต่แท้จริงแล้วอาจกลายเป็น กลไกผูกขาดอำนาจและสืบทอดอำนาจในตระกูลการเมืองท้องถิ่น สะสมทุนและอิทธิพลจนกระทบต่อระบบประชาธิปไตยโดยรวม
ดร.ณัฏฐ์ ระบุว่า แนวทาง “ไม่จำกัดวาระ” ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ชัดเจนในมาตรา 158 วรรคสี่ ซึ่งใช้กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันการสะสมอำนาจเกินควร หลักการเดียวกันควรถูกนำมาใช้กับการเมืองท้องถิ่นเช่นกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำรุ่นใหม่เข้ามาบริหารและถ่วงดุลอำนาจอย่างเป็นระบบ
ขณะเดียวกัน การลดอายุผู้บริหารท้องถิ่นเหลือ 25 ปี ถูกมองว่า ไม่สอดคล้องกับมาตรา 160 (2) ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 35 ปี ดร.ณัฏฐ์อธิบายว่า “ผู้บริหารท้องถิ่นเปรียบเสมือนนายกรัฐมนตรีขนาดย่อม” จึงควรมีวุฒิภาวะและประสบการณ์เพียงพอ มิใช่เพียง “วัยรุ่นสร้างตัว” ที่อาจขาดความรอบคอบทางการบริหารและเสี่ยงต่อการทุจริต
การยกเลิกการจำกัดวาระจะส่งผลให้ระบบท้องถิ่นอ่อนแอ เกิดการผูกขาดทรัพยากรในพื้นที่และขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในหมวด 14 ที่ว่าด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมุ่งหมายให้เกิดการหมุนเวียนอำนาจและส่งเสริมความโปร่งใส
“หลักการจำกัดวาระถือเป็นหัวใจของประชาธิปไตย เพราะช่วยเปิดโอกาสให้เกิดผู้นำรุ่นใหม่ ความคิดใหม่ และนโยบายใหม่ การยกเลิกข้อจำกัดนี้เท่ากับการถอยหลังลงคลองทางการเมือง” ดร.ณัฏฐ์กล่าว
ข้อเสนอให้ “ลดอายุผู้บริหาร” และ “ไม่จำกัดวาระ” แม้ถูกเสนอในนามของการเพิ่มโอกาส แต่ในทางปฏิบัติกลับอาจนำไปสู่ การผูกขาดอำนาจทางการเมืองท้องถิ่นและการบิดเบือนหลักธรรมาภิบาล ดร.ณัฏฐ์จึงเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติทบทวน เพื่อรักษาเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญและเสริมสร้างระบบการเมืองท้องถิ่นที่โปร่งใสและยั่งยืน.


