"อนุทิน" โยนสภาชี้ขาดแก้รัฐธรรมนูญ ไม่หวั่นรัฐบาลอายุสั้น

 

วันที่ 13 ตุลาคม 2568 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย - นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าและทิศทางในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

 

โยนสภาตัดสิน ยึดกลไกประชาธิปไตย

 

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอให้ใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยเป็นร่างหลักในการพิจารณาว่า เรื่องดังกล่าวต้องผ่านการหารือในที่ประชุมร่วมของรัฐสภา

 

ซึ่งมีกำหนดการในวันที่ 14-15 ตุลาคมนี้ โดยย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไกของรัฐสภา

 

"เรื่องนี้ต้องหารือกัน และในวันที่ 14-15 ต.ค. จะมีการประชุมร่วมของรัฐสภาแล้ว ทุกอย่างให้เป็นไปตามกลไกของรัฐสภา" นายอนุทินกล่าว

 

ส่วนกรณีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นายกรัฐมนตรีระบุว่ายังไม่ได้มีการตรวจสอบเสียงของฝั่ง สว. เนื่องจากต้องการให้กระบวนการทั้งหมดดำเนินไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย

 

ย้ำจุดยืน 'ภูมิใจไทย' ไม่แตะหมวด 1-2

 

นายอนุทินได้กล่าวถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้อย่างชัดเจนว่า พรรคภูมิใจไทยจะไม่แตะต้องเนื้อหาในหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ อย่างเด็ดขาด 

 

ส่วนมาตราอื่นๆ นั้นสามารถนำมาพิจารณาในรายละเอียดได้ในชั้นกรรมาธิการต่อไป โดยแสดงความคาดหวังว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถผ่านความเห็นชอบในวาระรับหลักการไปได้

 

ต่อข้อซักถามถึงกรอบเวลาการทำงาน 4 เดือนที่อาจไม่เพียงพอ หากรัฐบาลมีอันต้องสิ้นสุดลงก่อนกำหนด นายอนุทินกล่าวว่า การผลักดันเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง (MOA) ที่ได้ทำไว้กับพรรคประชาชน

 

ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติตาม แม้ท้ายที่สุดกระบวนการอาจไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่การได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาก็ถือว่าได้เริ่มต้นแล้ว

 

"ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราได้ประชุมร่วมกับอีกหลายพรรคการเมือง และเป็นส่วนหนึ่งใน MOA ที่เราให้ไว้กับพรรคประชาชน จึงต้องทำตามที่มีข้อตกลงกันไว้ อย่างน้อยก็ได้นำเข้าสภา ถือว่าได้เริ่มแล้ว" นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

นายอนุทินยังกล่าวทิ้งท้ายว่า การจะผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จลุล่วงไปจนถึงวาระที่ 3 เพื่อนำไปสู่การทำประชามติและการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้นั้น

 

ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย และเป็นส่วนหนึ่งที่พรรคประชาชนต้องการให้พรรคภูมิใจไทยเข้ามาเพื่อเข้ามาเริ่มกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ