ศึกเก้าอี้สีกากี ชิงผบ.ตร.คนที่ 16 หลังบิ๊กต่ายเกษียณปี69
การแต่งตั้งตำรวจปี 2568 กว่า 400 ตำแหน่ง จับตาเก้าอี้ “ผบ.ตร. คนที่ 16” หลังบิ๊กต่ายเกษียณ 2569 ตัวเต็งหลายขั้ว ชี้อนาคตอำนาจการเมือง-ตำรวจ
KEY
POINTS
- แต่งตั้งตำรวจปี 2568 ครอบคลุมกว่า 400 เก้าอี้ ตั้งแต่รอง ผบ.ตร. ถึง ผบก.
- เก้าอี้ ผบ.ตร. คนที่ 16 มีตัวเต็ง 4 ขั้ว แข่งกันทั้งสายอำนาจและเครือข่ายรุ่น
- สมการการแต่งตั้งสะท้อนเกมการเมือง รัฐบาลใดคุม ผบ.ตร. ได้ ย่อมกำหนดอนาคตตำรวจไทยอีกทศวรรษ
การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจประจำปี 2568 กลายเป็นศึกใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี เนื่องจากครอบคลุมตำแหน่งระดับสูงกว่า 400 เก้าอี้ ตั้งแต่ส่วนกลางถึงภูมิภาค โดยเฉพาะการปูทางสู่เก้าอี้ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” (ผบ.ตร.) คนที่ 16 ที่จะมารับไม้ต่อจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ซึ่งจะเกษียณในปี 2569
ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 การแต่งตั้งนายพลตำรวจต้องเสร็จภายใน 31 ส.ค. โดย 17 ส.ค. ที่ผ่านมา บอร์ดกลั่นกรองได้ตรวจสอบบัญชีรายชื่อ และ 22 ส.ค. คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะเคาะบัญชีแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
ตำแหน่งที่ถูกจับตา ได้แก่ รอง ผบ.ตร. 2 เก้าอี้ใหม่ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการไต่เต้าสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร. ขณะเดียวกัน 7 เก้าอี้ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ 18 เก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจ (ผบช.) ก็กลายเป็นสนามแข่งขันดุเดือด มีการขับเคี่ยวระหว่างนายพลหลายสาย
สำหรับตัวเต็งเก้าอี้ ผบ.ตร. คนที่ 16 มีทั้ง พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ โดยวงในประเมินสมการความเป็นไปได้ไว้ 4 กรณี ตั้งแต่การนั่งระยะสั้น 1 ปีเพื่อเปิดทางรุ่นต่อไป จนถึงการครองเก้าอี้ยาว 6–7 ปี ซึ่งจะกำหนดตัวเล่นหลักในอีกทศวรรษข้างหน้า
เบื้องหลังการแต่งตั้งไม่ได้ขึ้นกับอาวุโสหรือผลงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนสมดุลอำนาจทางการเมือง รัฐบาลที่สามารถกำหนดตัว ผบ.ตร. ได้สำเร็จย่อมมีอิทธิพลต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติในระยะยาว การแต่งตั้งครั้งนี้จึงถูกจับตาว่า ขั้วอำนาจการเมืองใดจะครองอิทธิพลในยุทธจักรสีกากี


