"พิเชษฐ์" ท้าชน "พรรคประชาชน" ปมงบลงเชียงราย 87% – ส่อขัด ม.144 รธน.
"พิเชษฐ์" ท้า "พรรคประชาชน" งัดหลักฐาน ปมโยกงบสภาลงเชียงราย 87% ส่อขัด ม.144 รธน. ด้าน "ปชน." ไม่เล่นด้วย เตรียมเดินหน้าฟ้องศาล รธน. และ ป.ป.ช. ปลุกปฏิรูประบบงบประมาณรัฐ
กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองอีกครั้ง เมื่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง
ออกมาท้าทายพรรคประชาชน (ปชน.) ให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบกรณีการจัดสรรงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎร
ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าโยกไปลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของนายพิเชษฐ์เองในสัดส่วนสูงถึง 87% ส่อเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 144
'พิเชษฐ์' ลั่นบริสุทธิ์ใจ ไม่หวั่นถูกตรวจสอบ
นายพิเชษฐ์ให้สัมภาษณ์ โดยยืนยันความบริสุทธิ์ใจและไม่รู้สึกหนักใจกับข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมท้าให้พรรคประชาชนดำเนินการตามกระบวนการอย่างเต็มที่
“ถ้าเขาจะยื่น ก็ยื่นไปเลยครับ ผมไม่ได้กลัวอะไร และไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน งบทุกก้อนผ่านการพิจารณาโดยเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ผมไปกำหนดเอง”
รองประธานสภาฯ ยังชี้แจงว่า การบริหารงบประมาณเป็นไปตามดุลพินิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตามความจำเป็นของพื้นที่
“ผมโยกงบไม่ได้อยู่แล้วครับ ถ้ามีอะไรก็ตรวจสอบกันไป เป็นสิทธิ์ของทุกฝ่ายในระบบประชาธิปไตย ผมพร้อมให้ตรวจสอบ”
'พรรคประชาชน' เดินหน้าฟ้องศาล รธน. – ป.ป.ช. ชี้เข้าข่ายจริยธรรม
ขณะที่ท่าทีของพรรคประชาชนยังคงแข็งกร้าว โดยนายภัณฑิล น่วมเจิม ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ได้ออกมาแถลงข่าวปฏิเสธคำเชิญของนายพิเชษฐ์ให้ร่วมเดินตรวจพื้นที่ในรัฐสภาเพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการงบประมาณ
โดยให้เหตุผลว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากพรรคอยู่ระหว่างเตรียมยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบประเด็นนี้
นายภัณฑิลตั้งข้อสังเกตอย่างเปิดเผยว่า งบประมาณจำนวนมหาศาลถึง 87% กระจุกตัวอยู่ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ของรองประธานสภาฯ
นอกจากนี้ น.ส.ภัสริน รามวงศ์ ส.ส.กทม. พรรคเดียวกัน ยังได้เปิดเผยถึงความผิดปกติที่พบในเอกสารโครงการด้านสตรี โดยระบุว่า
พบแบบฟอร์มที่คล้ายกัน ลายมือเดียวกัน และลงวันที่เดียวกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีจุดหมายปลายทางที่จังหวัดเชียงรายเกือบทั้งหมด
ทำให้ตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการจัดทำขึ้นจากแหล่งเดียวกัน เพื่อผลักดันงบประมาณเข้าสู่พื้นที่เฉพาะอย่างเจาะจง
พรรคประชาชนยังเน้นย้ำว่า การจัดงบประมาณในลักษณะซ้ำซ้อนเช่นนี้ในปีงบประมาณ 2569 อาจเป็นภาพสะท้อนถึงความพยายามของฝ่ายนิติบัญญัติในการแทรกแซงการใช้งบประมาณ
ซึ่งขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 144 ที่มีเจตนารมณ์ห้าม ส.ส. ใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ผ่านงบประมาณของรัฐ
นายภัณฑิลยังได้วิพากษ์วิจารณ์การอ้างเรื่อง “ศักดิ์ศรี” ของนายพิเชษฐ์แทนการชี้แจงข้อเท็จจริง ว่าเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น
พร้อมยืนยันว่าพรรคประชาชนจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
เพื่อตรวจสอบจริยธรรมของนายพิเชษฐ์อย่างแน่นอน โดยมองว่ากรณีนี้ควรเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูประบบงบประมาณให้โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ในอนาคต.


