posttoday

กมธ.เศรษฐกิจจี้รัฐบาลเยียวยาประขาชนรับกระทบแผ่นดินไหวทั่วถึง

24 เมษายน 2568

ส่องมาตรการเยียวยาผู้รับผลกระทบเหตุแผ่นดิวไหว หลังกรรมาธิการเศรษฐกิจ แสดงความกังวลการให้ความช่วยเหลือไม่ทั่วถึงประชาชนทุกกลุ่ม

คณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ประชุมเรื่องเงินเยียวยาแผ่นดินไหว โดยนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ แถลงผลการประชุม กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ กรณีปัญหาการยื่นขอรับเงินเยียวยาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เนื่องจากกลัวว่าประชาชนจะเข้าไม่ถึงสิทธิ์ 

ขณะที่รัฐบาล ภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมประกาศมาตรการเยียวยาครอบคลุมทุกด้าน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แผนการเยียวยาเดินหน้าไปหลายมติได้แก่

ซ่อมแซมและจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่: สำหรับผู้ที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายรุนแรง รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าวัสดุซ่อมแซมสูงสุดไม่เกิน 49,500 บาท หรือจัดหาที่พักชั่วคราวพร้อมค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท นาน 2 เดือน

เยียวยาด้านสุขภาพและชีวิต: ให้เงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ค่าจัดการศพ 29,700 บาท รวมถึงเงินช่วยเหลือกรณีบาดเจ็บสาหัส หรือพิการถาวร

ฟื้นฟูเศรษฐกิจและอาชีพ: สนับสนุนเงินทุนประกอบอาชีพรายละไม่เกิน 11,400 บาท พร้อมทั้งเตรียมมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และผ่อนปรนหนี้สินสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ช่วยเหลือเกษตรกร: พิจารณาเงินชดเชยผลผลิตและทรัพย์สินที่เสียหาย พร้อมสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อให้กลับมาดำเนินอาชีพได้โดยเร็ว

ซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน: เร่งฟื้นฟูถนน ไฟฟ้า ประปา และระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ประสบภัย

ที่ผ่านมานางสาวแพทองธาร ระบุว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะเร่งเยียวยาให้ถึงมือประชาชนทุกคนอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนสามารถกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งโดยเร็วที่สุด

ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการวิสามัญพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการเยียวยา โดยมีหน่วยงานสำคัญร่วมชี้แจงแนวทางดำเนินงาน ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นายศุภณัฐ เปิดเผยว่า สมาชิกหลายคนแสดงความกังวลต่อขั้นตอนการยื่นขอรับเงินเยียวยาที่ซับซ้อน รวมถึงความล่าช้าในการจ่ายเงิน ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ห่างไกลเข้าไม่ถึงสิทธิ์

“กมธ.เสนอให้ลดขั้นตอนการดำเนินการ พร้อมเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ชัดเจนทั่วถึง โดยเน้นให้ประชาชนรู้สิทธิ์ รู้ขั้นตอน และเข้าถึงการช่วยเหลือได้ง่าย” นายศุภณัฐกล่าว

ทั้งนี้ กมธ.มีแผนจะลงพื้นที่ตรวจสอบการเยียวยาจริงในพื้นที่ประสบภัย เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชน พร้อมรวบรวมข้อมูลเสนอรัฐบาลต่อไป

ข้อมูลล่าสุดการยื่นขอเงินเยียวยาในพื้นที่ กทม.

ข้อมูล ณ วันที่ 24 เมษายน 2568 ระบุว่า มีประชาชนยื่นขอรับเงินเยียวยาแล้วกว่า 32,000 ราย และยังมีข้อร้องเรียนในบางกรณีที่ได้รับเงินเพียงหลักสิบบาท ซึ่ง กมธ.เสนอให้เปิดช่องทางอุทธรณ์เพิ่มเติม

ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ครบภายใน 60 วัน นับจากวันเกิดเหตุ พร้อมย้ำจะเร่งให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ภายในกรอบ 30 วันหากเป็นไปได้


การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นไปตามการประเมินความเสียหายของคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่ 

หลักเกณฑ์และวงเงินช่วยเหลือเบื้องต้นดังนี้:

ค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจำ: จ่ายตามจริงหลังละไม่เกิน 49,500 บาท (สำหรับบ้าน/ห้องที่อยู่อาศัยหลักเท่านั้น ทั้งเจ้าของและผู้เช่า)

ค่าที่พักอาศัยชั่วคราว หรือ ค่าเช่าบ้าน: จ่ายเฉพาะอาคารที่กรุงเทพมหานครประกาศระงับการใช้ และไม่ได้เข้าอยู่ใน

ศูนย์พักพิงที่ กทม. จัดสรร เป็นเงินค่าเช่าบ้านเดือนละ 3,000 บาท ไม่เกิน 2 เดือน รวมไม่เกิน 6,000 บาทต่อครอบครัว

ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต: รายละ 29,700 บาท และกรณีผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัว หรือผู้หารายได้หลักของครอบครัว ได้เพิ่มอีกไม่เกิน 29,700 บาทต่อครอบครัว

ค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ (ตามใบรับรองแพทย์):

บาดเจ็บสาหัส: ช่วยเหลือเบื้องต้น 4,000 บาท
บาดเจ็บถึงขั้นพิการ: ช่วยเหลือเบื้องต้น 13,300 บาท
ผู้ป่วยนอก: จ่ายตามจริงไม่เกิน 2,000 บาท
ผู้ป่วยใน: 4,000 บาท

เงินปลอบขวัญ (ตามใบรับรองแพทย์): กรณีได้รับบาดเจ็บจากเหตุสาธารณภัย รายละ 2,300 บาท
เงินทุนประกอบอาชีพ: ครอบครัวละไม่เกิน 11,400 บาท (สำหรับผู้ประกอบอาชีพหลักที่ได้รับความเสียหาย)

นอกจากเงินช่วยเหลือโดยตรงรัฐบาลยังเตรียมมาตรการด้านอื่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อาทิ

การช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย: สำหรับผู้ที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนักจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ รัฐบาลจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือในการสร้างบ้านใหม่ หรือสนับสนุนค่าเช่าที่พักชั่วคราวในระหว่างการก่อสร้าง

การช่วยเหลือด้านการเงินและสินเชื่อ: ธนาคารของรัฐจะมีการออกมาตรการผ่อนปรนหนี้สิน และอาจมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถนำไปฟื้นฟูชีวิตและประกอบอาชีพได้อีกครั้ง

การช่วยเหลือด้านการเกษตร: สำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลจะมีการพิจารณาเงินชดเชยความเสียหายของผลผลิตและทรัพย์สินทางการเกษตร รวมถึงอาจมีการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อเริ่มต้นใหม่

การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน: รัฐบาลให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหาย เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว

 

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2