‘นายกฯอิ๊งค์’ ลั่น เจ้าหน้าที่ เอี่ยว ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ รับโทษแน่
‘นายกฯอิ๊งค์’ ลั่น เจ้าหน้าที่ เอี่ยว ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ รับโทษแน่ ยัน! ฟรีวีซ่าจีน ดัน GDP ของประเทศขยับขึ้น SME ได้ประโยชน์
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีความคืบหน้านโยบายปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบุว่า หลังตัดไฟ อินเตอร์เน็ต น้ำมัน ไปแล้วตอนนี้เท่าที่ดูในเรื่องของไฟนั้น สามารถลดลงไปประมาณ 40-50 % แต่ตอนนี้ยังไม่ถึง 1 สัปดาห์ นายประเสริฐ จันทรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะมีการ ประเมินอีก 2 สัปดาห์ จะได้ตัวเลขที่ชัดเจนกว่านี้ และจะเก็บตัวเลขจากการที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามาหลอกลวงคนไทยลดน้อยลงอย่างไรบ้าง
นอกจากนี้ จะมีการทำตัวเลขรายงานอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ คาดว่าจะเสนอได้ภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จะต้องมีการดำเนินการอย่างแน่นอน คนที่ทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามนั้น
ส่วนกรณีที่มีการมองว่าฟรีวีซ่าเป็นช่องทางที่ทำให้จีนสีเทา เข้ามาในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้มองเป็นคนละส่วนกัน เราไม่ทราบได้ว่า ใครเข้ามาเพื่อจุดประสงค์อะไรบ้าง แต่นี่คือผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
เพราะถ้าหากจะบอกว่าต่อไปนี้ไม่มีมาตรการฟรีวีซ่าแล้ว ก็เป็นคนละส่วนกัน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือตัวเลขปีก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศ 27 ล้านคน และปีที่แล้ว 35 ล้านคน อีกทั้งส่งผลให้ GDP ของประเทศขยับขึ้น สถานประกอบการ ผู้ประกอบการ SME ได้ประโยชน์
พร้อมย้ำว่าตรงนี้เป็นคนละส่วนกัน เพราะฉะนั้นหากจะแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้วยการยกเลิกเรื่องฟรีวีซ่ามันเป็นคนละส่วนกัน การท่องเที่ยวเสียแน่นอน เพราะการท่องเที่ยวดีขึ้นมากๆเพราะมาตรการฟรีวีซ่า
ส่วนกรณีความคืบหน้าในการพูดคุยระหว่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง เรื่องคนไทยและชาวต่างชาติที่ถูกบังคับให้ไปทำงานในแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ในกัมพูชาและเมียนมา น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง การทำงานแบบ Working group เพื่อความรวดเร็วในการจัดการปัญหา ซึ่งปัญหาการถูกหลอก ก็ตั้งทีมหลอกกันไปมา โดยจะใช้การประสานงานตรงนี้ทำงานระหว่างประเทศร่วมกันได้ ซึ่งตอนนี้ได้ประสานงานผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ช่วยดูในเรื่องนี้


