SET ไซด์เวย์ กรอบ 1,248-1,275 จุด ไร้ปัจจัยใหม่หนุน จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ
SET ไซด์เวย์/ชะลอตัว ในกรอบ 1,248-1,275 จุด ไร้ปัจจัยใหม่หนุน จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้ กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ BDMS และ AP
KEY
POINTS
- ดัชนี SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ (Sideway) ที่ 1,248-1,275 จุด
- ตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน ท่ามกลางความกังวลจากปัจจัยการเมืองในประเทศ
- ปัจจัยภายนอกที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด คือการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดไซด์เวย์/ชะลอตัว ตลาดไม่ตอบเชิงบวกต่อการลดดอกเบี้ยของ กนง.นัก ทำให้จิตวิทยาตลาดอยู่ในโหมดเฝ้าระวัง กรณีภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่ขู่ขึ้นยังเป็นปัจจัยที่เฝ้าจับตาไป พร้อมกับนโยบายพื้นฟูเศรษฐกิจของพรรคการเมืองหลัก ปัจจัยภายนอก คืนนี้ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ ขณะที่แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ ศุกร์นี้ยังกดดันสินทรัพย์เสี่ยง ทางเทคนิค ยังแกว่งตัวในกรอบรอเบรก แนวต้านสั้นที่ 1265/1275 ในขณะที่การลงต้องไม่หลุด 1248 มิฉะนั้นจะลงรอบใหม่
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway down จากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทย โดยมีแนวโน้มลงไปทดสอบฐานเดิมบริเวณ 1230 และมีกรอบบนจำกัดที่ 1285 โดยมีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ ได้แก่ BOJ (ตลาดคาดปรับขึ้น ดอกเบี้ย 25bps สู่ 0.75%), BoE (ตลาดคาดอกเบี้ยลง 25bps) และ BOE (ตลาดคาดจะยังคงดอกเบี้ยนโยบาย) ส่วน กนง. ได้ลดดอกเบี้ยนโยบาย ลง 25bps สู่ 1.25% และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ เงินเฟ้อ พ.ย., PCE ต.ค. และตัวเลขภาคแรงงาน พ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามรายชื่อผู้สมัครและนโยบายหลักแต่ละพรรค หลัง กกต. ประกาศวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 ก.พ.2569
ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 3 ธีมหลัก และ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก คาดไตรมาส 4/2568 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform แนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT
2.หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผล สำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ อีก 1 ครั้งในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ และปีหน้า 2 ครั้งในปี 2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สิน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ sentiment บวกระยะสั้นหาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสัปดาห์นี้ แนะนำ AP GULF GPSC MTC SAWAD 2) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT BJC) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ และ 3) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทําปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปี ราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2.2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BDMS มองเป็นหุ้น Defensive ที่กำไรไม่ผันผวนตามปัจจัยภายนอก โดยปี 2568 คาดกำไรปกติเติบโต 3%YoY และเติบโตต่อ 8%YoY ในปี 2569 อีกทั้งยังมีอัตราผลตอบแทนปันผลน่าสนใจซึ่งคาดช่วยลดความเสี่ยงขาลง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2569 ที่ 4.3% ถือว่าสูงสำหรับกลุ่ม รพ. ราคาเป้าหมายระยะสั้น 20.30 บาท
AP ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และไตรมาส 4/2568 คาดกำไรจะเป็นจุดสูงสุดปีนี้ โดยเติบโตทั้ง QoQ และ YoY แรงหนุนจาก Backlog แข็งแกร่งทั้งจากโครงการแนวราบและคอนโดใหม่ที่จะเริ่มโอนอย่าง Aspire Vibha- Victory อีกทั้งคาดให้ Div. Yield สูงปีละ 5.7% ราคาเป้าหมายระยะสั้น 8.80 บาท


