"ชัยธวัช" ยัน ก้าวไกลไร้งูเห่า แม้พรรคร่วมรัฐบาลติดต่อหวังซื้อตัวเพียบ
"ชัยธวัช" ยัน ก้าวไกลไร้งูเห่า แม้พรรคร่วมรัฐบาลพยายามติดต่อหวังดึงสส.ก้าวไกลเพียบ พร้อมย้ำไม่ด่วนพิจารณาทางเลือกในการหาพรรคใหม่ มั่นใจ 7 ส.ค. ชนะคดี
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวที่ สส.พรรคก้าวไกลจะโหวตให้พรรคพลังประชารัฐ 10 เสียงหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองว่า เรื่องนี้ก็พูดกันไปได้แต่ยังไม่เกิด ที่ผ่านมามีความพยายามจากพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่พยายามจะมาติดต่อกับสมาชิกของพรรคก้าวไกลเยอะมากเพื่อหวังจะดึงสส.ของพรรคก้าวไกลไป เหมือนที่เรียกกันว่า ซื้องูเห่า ดังนั้นจนถึงวันนี้ตนเองยังมีความมั่นใจใน สส.ของพรรคก้าวไกล ว่าจะเคารพความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้
ทั้งนี้ตนเองยังมั่นใจว่า วันที่ 7ส.ค.พรรคก้าวไกลจะชนะคดี
ส่วนจะต้องกำชับกับสส.เรื่องจะต้องไม่มีงูเห่าหรือไม่นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า คงไม่กำชับ เพราะตนเองได้สื่อสารในพรรคแล้วว่า ต้องให้เกียรติเพื่อร่วมงานทุกคน อย่าไปทำให้เกิดบรรยากาศการจับจ้อง จับผิด ว่าใครจะเป็นงูเห่า หรือย้ายพรรค ซึ่งจะทำให้เป็นบรรยากาศที่ไม่ดีในการทำงาน และเป็นการไม่เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน พร้อมยืนยันว่า สส.ไม่ได้อ่อนไหวกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีคนของพรรคก้าวไกลไปพูดคุยกับพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล นายชัยธวัช ระบุว่า ไม่มีความชัดเจนว่าใครเป็นคนไปคุย แต่แน่นอนว่าคนพยายามไปโฟกัสว่าหากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหากไม่เป็นผลดีกับพรรคก้าวไกล ซึ่งตามกฎหมาย สส.ก็ต้องไปหาพรรคสังกัดใหม่ คนก็เลยคิดข้ามไปล่วงหน้าแล้ว ทั้งแกนนำพรรครุ่นใหม่ พรรคใหม่จะเป็นอย่างไร
ตนเองจึงอยากย้ำอีกครั้งว่าให้มาโฟกัสเนื้อหาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรอยากให้ติดตามว่า เหตุและผลของหลักกฎหมายของศาลรัฐธรรมนูญนั้น จะสมเหตุสมผลหรือไม่อย่างไร เพราะจะไม่ได้ส่งผลกระทบแค่พรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่จะกระทบกับการเมืองไทยโดยรวมในอนาคตด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่พรรคใหญ่กว่า
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.ไม่ได้เป็นเรื่องอนาคตของพรรคก้าวไกลอย่างเดียว แต่จะเกี่ยวพันกับการใช้กฎหมาย การตีความกฎหมาย และการให้ความหมายของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรื่องนี้จึงสำคัญใหญ่กว่าแค่พรรคก้าวไกลหรือพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง
ดังนั้นนัยยะความสำคัญในวันที่ 7 ส.ค.เป็นเรื่องใหญ่มาก จึงยังไม่อยากให้มองไปที่พรรคก้าวไกลหรือมองข้ามช็อตว่าพรรคใหม่จะเป็นอย่างไร เพราะตนเองยังเชื่อว่าข้อต่อสู้ในทางข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของพรรคก้าวไกลจะมีน้ำหนักพอที่ศาลควรจะรับฟัง
ส่วนกรณีที่สวนดุสิตโพลเปิดเผยดัชนีชี้วัดทางการเมืองคะแนนผลงานพรรคฝ่ายค้านขึ้นอันดับ1 และเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว นายชัยธวัช ระบุว่า ขอบคุณประชาชนที่มองเห็นและสนับสนุนการทำงานของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งด้านหนึ่งเป็นผลมาจากการบริหารงานของรัฐบาลที่ประชาชนอาจจะมองว่า ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้ แต่สำหรับฝ่ายค้านก็ถือเป็นกำลังใจ ที่จะทำให้พวกเรามุ่งมั่นกับการทำงานอย่างเต็มที่มากขึ้น เพราะฝ่ายค้านในปัจจุบันไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะงานที่เป็นฝ่ายค้านแบบเดิมๆ แต่พยายามเป็นฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ ที่จะนำเสนอว่า รัฐบาล ฝ่ายบริหาร รวมถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ดีกว่านี้ควรเป็นอย่างไร
อย่างการจัดงานฝ่ายค้านพบปะประชาชนในวันนี้ ไม่ใช่เวทีที่จะวิพากษ์วิจารณ์การจัดงบประมาณของรัฐบาลเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่เป็นส่วนที่เราพยายามทำอย่างต่อเนื่อง ที่จะนำเสนอเนื้อหาว่า มันถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องยกเครื่อง ปฏิรูประบบงบประมาณอย่างจริงจัง เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งเท่านั้น


