จับตา9อรหันต์ไฟเขียวขังนักโทษนอกเรือนจำ ตามระเบียบใหม่ราชทัณฑ์
ผ่าระเบียบใหม่ กรมราชทัณฑ์ ขังนักโทษนอกคุก หลังสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดยุติธรรม ลงนามประกาศใช้บังคับ และส่งบันทึกเวียนเป็นการภายใน จับตาคณะทำงานพิจารณาการคุมขังนอกเรือนจำ9คน ดึงบุคคลภายนอกร่วมพิจารณาคุณสมบัตินักโทษ
กรณีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ออก ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ซึ่งระเบียบนี้เป็นที่จับตามองว่าออกมาเพื่อเอื้อต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่ โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจและจะครบกำหนดเวลา 120 วัน วันที่ 22 ธ.ค.2566
สำหรับระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 มีผลใช้บังคับตั้งแต่เมื่อวันที่ 7ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา ลงนามประกาศโดย นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์
สาระสำคัญของระเบียบใหม่นี้เพื่อให้การบริหารงาน การปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานเรือนจำและเจ้าหน้าที่ การปฏิบัติตัวของผู้ต้องขังและการอื่นอันจำเป็นเกี่ยวกับสถานที่คุมขัง ตามมาตรา33 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เป็นไปในแนวทางและมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งระเบียบคำสั่งถูกแบ่งออกเป็น6หมวด ประกอบด้วย
หมวด1 สถานที่คุมขัง นอกเหนือจากสถานที่ราชการแล้ว สามารถคุมขังได้ภายนอกที่ไม่ใช่เรือนจำ ทั้งวัด มัสยิด สถานประกอบการเอกชน มูลนิธิ สถานสงเคราะห์
หมวด 2 กำหนดคุณสมบัติผู้ต้องขัง ที่ได้รับการพิจารณาให้ออกไปคุมขังนอกเรือนจำ เป็นผู้ต้องขังตามกฎหมายราชทัณฑ์ ผ่านการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังรายบุคคล โดยคณะทำงานพิจารณาการคุมขังนอกเรือนเพื่อจำแนกลักษณะของผู้ต้องขังประจำเรือนจำ ดำเนินการคัดกรองแล้วเสนอต่อผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา
ทั้งนี้ "คณะทำงาน"หมายความว่า คณะทำงานพิจารณาการคุมขังในสถานที่คุมขัง ประกอบด้วย รองอธิบดีที่กำกับดูแลกองทัณฑวิทยาเป็นประธาน ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา ผู้อำนวยการกองทัณฑปฏิบัติ ผู้อำนวยการกองพัฒนาพฤตินิสัย ผู้อำนวยการกองบริการทางการแพทย์ และผู้อำนวยการกองกฎหมายและบุคคลภายนอกซึ่งอธิบดีแต่งตั้งจากบุคคลผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข 1 คนและด้านสังคมสงเคราะห์หรืออุตสาหกรรม 2 คน โดยมีผู้อำนวยการกลุ่มงานมาตรการควบคุมผู้ต้องขัง สังกัดกองทัณฑวิทยา เป็นคณะทำงานและเลขานุการ และข้าราชการสังกัดกองทัณฑวิทยาที่ได้รับมอบหมายอีกไม่เกิน 2 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
หมวด 3 การพิจารณาให้ผู้ต้องขังออกไปคุมขังนอกเรือนจำ คณะทำงานฯ ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้แก่ ข้อมูลการถูกดำเนินคดีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลในคดีอื่น ประวัติและพฤติกรรมก่อนต้องโทษ ประวัติการใช้ความรุนแรงหรือการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว ประวัติการเกี่ยวช้องกับยาเสพติด ประวัติการกระทำผิด ความผิดเกี่ยวกับเพศ การเปลี่ยนหรือย้ายที่อยู่อาศัย พฤติกรรมขณะต้องโทษ และรายละเอียดอื่นเท่าที่จะรวบรวมและพิจารณาว่าผู้ต้องขังสมควรที่จะใช้วิธีการคุมขังในสถานที่คุมขัง
หมวด 4 ให้ผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้กำกับสถานที่คุมขัง ต้องอยู่ใกล้เรือนจำมากที่สุดและผู้ดูแลสถานที่คุมขังเป็นข้าราชการ พนักงานราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมถึงรายงานให้ผู้กำกับสถานที่คุมขังทราบอย่างน้อยสัปดาห์ละ1ครั้ง
หมวด 5 การเพิกถอนการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำ ให้ผู้กำกับสถานที่คุมขังนำนักโทษ กลับมาจำคุกที่เรือนจำทันทีโดยนับระยะเวลาคุมขังนอกเรือนจำเป็นระยะเวลาจำคุก
หมวด 6 เบ็ดเตล็ด กรณีมีเหตุร้ายแรงอันเกิดภยันตรายแก่นักโทษถูกคุมขังนอกเรือนจำให้นำตัวมาขังไว้ในเรือนจำจนกว่าเหตุดังกล่าวจะสิ้นสุดลงและไม่ให้ถือว่าเป็นการเพิกถอนการคุมขังนอกเรือนจำ การประกาศกำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ลักษณะต้องห้ามและวิธีการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำ ต้องเป็นไปตามที่ระเบียบกรมราชทัณฑ์กำหนด
https://image.posttoday.com/media/pdf/2023/a8DFmdmxwRJAZN5NxTk4.pdf


