“เศรษฐา” เตรียมยกหูหาผู้นำอิสราเอลรักษาผลประโยชน์แรงงานไทย
นายกฯ ย้ำยังพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล หวังตัวประกันไทยได้รับการปล่อยตัว - เผยบ่ายนี้ เตรียมต่อสายหารือ "นายกฯ อิสราเอล" รักษาผลประโยชน์แรงงานไทย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการอพยพคนไทยในอิสราเอล หลังสถานเอกอัครราชทูตได้ประกาศให้คนไทยในอิสราเอล ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศให้ไปรวมตัวที่ศูนย์พักพิงภายในวันนี้ (1 พ.ย.) เวลา 17.00 น. เป็นวันสุดท้าย ตามเวลาท้องถิ่นว่า แม้สถานทูตประมีประกาศดังกล่าว แต่หากมีพลเมืองไทยในอิสราเอลแสดงเจตจำนงมา รัฐบาล ก็จะต้องจัดการดูแลเที่ยวบินให้เหมาะสม ซึ่งสถานการณ์ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง พร้อมยังคงวินวอนให้คนไทยในอิสราเอลรีบอพยพกลับประเทศ เพราะสถานการณ์ ยังสามารถบริหารจัดการได้ แต่จำนวนผู้ลงทะเบียนแสดงวามประสงค์กลับมานั้น ยังคงน้อยอยู่ และหวังว่า การอพยพในอนาคต จะยังสามารถเช่าเหมาลำเครื่องบินได้ เพราะหากสามารถเช่าเหมาลำเครื่องบินได้ ก็จะมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยกว่า แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนผู้อพยพด้วย เพราะหากมีจำนวนน้อย ก็ต้องใช้เวลารอจนกว่าจะมีผู้อพยพเต็มลำ หรือหากมีจำนวนน้อยก็อาจจะต้องให้ไปซื้อตั๋วเดินทางเอง และนำมาเบิกกับภาครัฐภายหลัง
ส่วนการให้ความช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสคุมตัวไปนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาล ยังคงมีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายปานปรีย์ พหิธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานความคืบหน้ามาว่า การเจรจาเป็นไปในทิศทางบวก แต่ยังไม่อยากให้ความคาดหวังมากเกินไป เพราะต้องการเห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมมากกว่า และยังหวังว่า ในการช่วยเจรจาของคณะทำงาน ของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะได้รับข่าวดี ที่คนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จะได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (1 พ.ย.) ตนเองมีนัดหารือกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีประเทศอิสราเอล ทางโทรศัพท์ โดยจะมีการยกระดับการเจรจาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหารือถึงการชดเชยผลประโยชน์ และการให้ความเป็นธรรมกับแรงงานไทยที่นายจ้างไม่ให้ความเป็นธรรม รวมถึงการเน้นย้ำให้ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกกับคนไทย และแรงงานไทยที่ต้องการเดินทางอพยพกลับประเทศ