พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ชี้หากทักษิณกลับไทยตม.คุมตัวส่งศาลทันที
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ชี้หากทักษิณกลับไทย ตม.คุมตัวส่งศาลทันที เพราะเป็นผู้ต้องหามีหมายจับ ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นหน้าที่นครบาลและการข่าวจนถึงขณะนี้ไม่พบความเคลื่อนไหวกลุ่มต่อต้านสร้างสถานการณ์
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยว่า กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางกลับไทยวันที่ 10สิงหาคม 2566 ว่า เมื่อนายทักษิณ เดินทางถึงไทยกรณีเป็นผู้ที่มีหมายจับและคดียังอยู่ในอายุความ ตามหลักการแล้วหมายจับจะแสดงในระบบฐานข้อมูลของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนาม ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหน้าด่านตรวจก็จะทราบทันที
ดังนั้น หน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คือ จะต้องแจ้งให้บุคคลนั้นทราบ และควบคุมตัวต้องหาส่งให้กับศาลตามหมายจับ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนั้นขึ้นอยู่กับศาลว่ามีคำสั่งดำเนินการอย่างไร ขณะเดียวกัน กรณีเดินทางเข้าเมืองโดยเครื่องบินส่วนตัวแล้วลงจอดในสนามบินอื่น เช่น บน.6 ของกองทัพอากาศ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสนามบินดอนเมือง ก็จะต้องผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง เช่นเดียวกับการทางเข้าเมืองผ่านสนามบินทั่วไป
ส่วนด้านการข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มใดและยังไม่พบการข่าวที่น่ากังวล แต่เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังไปจนถึงช่วงเวลาที่นายทักษิณจะเดินทางกลับ ตลอดจนช่วงเวลาหลังเดินทางกลับไทยแล้ว
ด้านพล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) เปิดเผยถึง มาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัย ในห้วงเวลาสถานการณ์นี้ว่า ได้เตรียมการมาแล้วตั้งแต่ช่วงแรกที่มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณจะกลับประเทศไทย ซึ่งยังคงเป็นไปตามมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย อีกทั้งมีการเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวมาโดยตลอดว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมาจริงหรือไม่
สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัย มีความเป็นไปได้ว่า จะเป็นไปตามขั้นตอนที่ระบุตามเอกสารลับของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ, การรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางทั้งหลักและรองจากท่าอากาศยาน ศาลฎีกา กองบัญชาการตำรวจปรายปรามยาเสพติด และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ


