posttoday

จุรินทร์ ลุยหาเสียงสุราษฎร์ฯ มั่นใจ ประชาธิปัตย์ กวาดยกจังหวัด

15 เมษายน 2566

จุรินทร์ นำทีม ลงพื้นที่หาเสียงจังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดทัพดาวกระจาย 3 ทัพหลัก อ้อนคนไทยเลือก ประชาธิปัตย์ ทั้งพรรคทั้งคน ไม่เกี่ยงสีบัตรเลือกตั้ง เชื่อคนจำได้ “ประชาธิปัตย์ เบอร์ 26”

หลังจากที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางถึงสนามบินจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีกำหนดการปราศรัยในช่วงเย็นวันนี้ ใน 2 อำเภอ คือ อ.บ้านนาเดิม และ อ.เวียงสระ พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และมี 7 ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสุราษฎร์ธานี รอต้อนรับ ประกอบด้วย เขต 1 นายภาณุ ศรีบุศยกาญจน์ เบอร์ 10 เขต 2 นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี เบอร์ 2 เขต 3 นายปิยะรัฐ  จิรรัตน์ฐิกุล  เบอร์ 5 เขต 4 นายสมชาติ ประดิษฐพร เบอร์ 1 เขต 5 นายสินิตย์ เลิศไกร เบอร์ 6 เขต 6 นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ  เบอร์ 2 และ เขต 7 นางสาวตวงทอง ประดิษฐพร เบอร์ 9 

 

นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ทัพหัวหน้าพรรค จะไปปราศรัยที่อำเภอบ้านนาเดิม และอำเภอเวียงสระ ส่วนวันพรุ่งนี้(16เม.ย.) จะไปทำกิจกรรมที่อำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี จากนั้นก็จะไปจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม และเพชรบุรี สำหรับทัพเลขาธิการพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ขณะนี้ล่องใต้ในหลายจังหวัด เมื่อคืนอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี ส่วนทัพอดีตหัวหน้าพรรค วานนี้ ท่านชวน อยู่ที่จังหวัดกระบี่ พังงา และระนอง ส่วนท่านบัญญัติ ขณะนี้อยู่ที่สุราษฎร์ธานี และจะได้ขึ้นเวทีปราศรัยด้วยกัน ถัดจากนี้ท่านจะนำทัพไปจังหวัดอุบลราชธานี และตระเวนในภาคอีสานต่อไป ส่วนท่านอภิสิทธิ์ จะได้ลงพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร 

 

“เที่ยวนี้ประชาธิปัตย์จัดทัพดาวกระจายไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดย 3 ทัพหลัก สะท้อนให้เห็นความเป็นเอกภาพของพรรคประชาธิปัตย์ และสะท้อนถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพรรค ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกพรรค และแฟนประชาธิปัตย์ทั่วประเทศว่า เที่ยวนี้ประชาธิปัตย์เอาจริง และเดินหน้าหาเสียงจริง ทุกคนลงมาช่วยกันจริงๆ” นายจุรินทร์กล่าว

 

นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า เป็นจังหวัดที่เรายกทีมจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ดังนั้น จึงถือว่าเป็นจังหวัดสำคัญที่เป็นหัวใจของประชาธิปัตย์ในภาคใต้จังหวัดหนึ่ง และการเลือกตั้งครั้งนี้ได้เพิ่มเป็น 7 เขต ซึ่งพวกเรามีความมั่นใจทุกคนว่า เที่ยวนี้ก็จะยกทีม ได้ทั้ง 7 เขต ซึ่งผู้สมัครของเรามีความพร้อม มีทั้ง รมช.พาณิชย์ นายสินิตย์ เลิศไกร มีอดีต ส.ส. 5 คน และมีคนรุ่นใหม่ 2 คน ที่มีประสบการณ์การเมืองท้องถิ่น คือ นางสาวตวงทอง ประดิษฐพร อดีต สจ. และ นายปิยะรัฐ  จิรรัตน์ฐิกุล ซึ่งเป็นรองนายกเทศมนตรี เทศบาล ต.เวียงสระ ทำให้การเลือกตั้งเที่ยวนี้เรามีความมั่นใจว่าสามารถยกทีมได้ทั้ง 7 ที่นั่งในสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะมาเป็นแต้มต่อให้ประชาธิปัตย์ในภาคใต้ 

 

“ขอให้พี่น้องช่วยเป็นกำลังใจให้กับพวกเรา และช่วยสนับสนุนพวกเรา ทั้งพี่น้องคนไทยทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่คราวที่แล้วเลือกเราก็ขอให้มั่นคงอยู่กับประชาธิปัตย์ และบางท่านที่เคยเป็นสมาชิกพรรค เลือกเรามาหลายยุคหลายสมัย ยกเว้นคราวที่แล้วจากเหตุการณ์ไม่ปกติทางการเมือง ก็ขอเรียกร้องทุกคนให้ช่วยกันกลับมาเลือกประชาธิปัตย์ กลับบ้านเรา มาช่วยกันจับมือกับประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว 
 

 

สำหรับการที่ กกต. มีการกำหนดบัตรเลือกตั้งออกมา 2 สี ที่ดูคล้ายคลึง และจะสร้างความสับสนให้ประชาชนหรือไม่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับประชาธิปัตย์นั้นไม่เกี่ยงเลย จะใช้สีอะไรก็ได้ เพราะมันอยู่ที่ผลงานของเรา อยู่ที่อุดมการณ์ของเรา และอยู่ที่ความผูกพันที่เรามีกับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศมาต่อเนื่องยาวนาน มันอยู่ที่สิ่งเหล่านี้มากกว่าที่จะอยู่ที่บัตรสีอะไร 

 

“ความจริงเขียว กับม่วง สีก็ต่างกัน มันไม่ได้ดูคล้ายกันแบบ เขียวอ่อน กับเขียวแก่ หรืออะไรอย่างนั้น ผมคิดว่าเราไม่เกี่ยงหรอก สีอะไรก็ได้ แล้วก็เชื่อว่าพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศจำได้ว่า ประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ส่วนเบอร์ของผู้สมัครเขตก็เป็นไปตามข้อเท็จจริงของแต่ละเขต ผมเชื่อว่าพี่น้องคนไทยเข้าใจได้” นายจุรินทร์กล่าว

 

ขณะเดียวกันยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนอุดมการณ์ ที่ยึดมั่นประชาธิปไตยสุจริต ไม่โกง เพราะจะทำให้บ้านเมืองเติบโตได้อย่างยั่งยืน เห็นได้จากการยึดอำนาจในแต่ละครั้ง มักให้เหตุผลว่าเกิดจาก การทุจริตคอรัปชั่น 

 

นายจุรินทร์ กล่าวว่าตนเองเป็นคนสอบถามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่างบประมาณของประเทศสำหรับปีหน้าเหลืออยู่เท่าไหร่ได้รับคำตอบว่า เหลือประมาณ 200,000 ล้านบาทดังนั้นหากรัฐบาลชุดต่อไปกำหนดนโยบาย แจกเงินให้กับประชาชน 10,000 จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง เกือบ 500,000 ล้านบาท แล้วจะเอาเงินมาจากไหน หากไม่เก็บภาษีจากประชาชนเพิ่ม ก็ต้องกู้เพิ่ม สุดท้ายก็เป็นภาระประชาชน แต่นโยบายประชาธิปัตย์ยั่งยืนและสามารถทำได้จริง เช่นการประกันรายได้เกษตรกร