ยืนยันตัวตน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ผ่านตู้ ATM ไม่ได้
ก.คลัง ชี้แจง ไม่สามารถยืนยันตัวตน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รอบใหม่ ผ่านตู้ ATM ได้ ชี้เงื่อนไขโครงการ ระบุชัดเจน ให้ยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร เท่านั้น แนะยื่นอุทธรณ์/แก้ไขข้อมูล ได้ถึง1 พ.ค.นี้
หลังจากที่กระทรวงการคลัง เปิดให้ผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนในรอบแรก จำนวน 14.59 ล้านราย จากผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 22 ล้านคน หลายคนมีความสงสัยว่า ผู้ผ่านคุณสมบัติแล้ว สามารถยืนยันตัว ผ่านตู้ ATM ได้หรือไม่นั้น ล่าสุดกระทรวงการคลัง ได้ระบุว่า ไม่สามารถตรวสอบผ่านตู้ ATM ได้ เนื่องจากตามเงื่อนไขโครง ระบุชัดเจนว่า ให้ยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเท่านั้น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง เปิดให้ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบสิทธิผ่าน- ไม่ผ่าน ดูสถานะลงทะเบียนดังนี้
1. ตรวจสอบสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่าน-ไม่ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
2.ตรวจสอบสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับหน่วยงานที่รับลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้แก่
-ธนาคารกรุงไทย
-ธนาคารออมสิน
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
-สำนักงานคลังจังหวัด
-ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ
-สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
-ศาลาว่าการเมืองพัทยา
3.ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติ โดยสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม กระทรวงการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง,สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถสอบถามได้ตั้งแต่ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลาอ 08.30 - 17.30 น. เว้นวันหยุดราชการ
เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติผ่านแล้ว ผู้ลงทะเบียนสามารถยืนยันตัวตนผ่าน 3 ช่องทางดังนี้
-ธนาคารกรุงไทย ให้บริการยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 ยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดให้บริการ
-ธนาคารออมสิน
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.
ให้บริการยืนยันตัวตนเป็นเวลา 180 วัน นับจากวันที่ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566
ล่าสุดกระทรวงการคลังรายงานว่า มีผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตรวจสอบสิทธิยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว 1.74 ล้านราย ไม่ได้รับสิทธิขอยื่นอุทธรณ์ จำนวน 4.97 แสนคน
ส่วน ผู้ที่ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ
1 ยื่นอุทธรณ์
2 ติดต่อหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ผ่านเพื่อตรวจสอบ/ขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
หลังยื่นอุทธณ์แล้ว ผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติต้องติดต่อหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ผ่านเพื่อตรวจสอบ/ขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องให้แล้วเสร็จภายใน 1 พ.ค.2566