posttoday

“จุรินทร์” เมินโพลคนสงขลาหนุน พล.อ.ประยุทธ์นั่งนายกฯ

05 มีนาคม 2566

“จุรินทร์” ควง “นิพนธ์-มาดามเดียร์” ไหว้ศาลหลักเมือง เปิดศูนย์ประสานงานเลือกตั้ง เขต 1 สงขลา ชี้เก้าอี้ ส.ส. ภาคใต้เพิ่ม เป็นผลดีกับพรรค เมินผลโพลหนุน พล.อ.ประยุทธ์ นั่งนายกฯ ยันไม่ใช่เลือกนายกโดยตรงเหมือนระบอบประธานาธิบดี

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นางสาวทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นายสรรเพรช บุญญามณี, ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร, นายสมยศ หลายดวง ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 เข้าสักการะศาลหลักเมือง จ.สงขลา โดยมีประชาชนและผู้สนับสนุนรอต้อนรับ ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ พร้อมเปิดศูนย์ประสานงานเลือกตั้ง เขต 1 และมีปราศรัยย่อยพบปะประชาชน โดยขอให้สนับสนุนนายสรรเพชร เป็นผู้แทนเขต 1 เพราะเป็นลูกชายนายนิพนธ์ ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์

“จุรินทร์” เมินโพลคนสงขลาหนุน พล.อ.ประยุทธ์นั่งนายกฯ

นายจุรินทร์กล่าวถึงกรณีที่ นิด้าโพลที่ระบุว่า คนสงขลาสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในส่วนของ ส.ส.และพรรค ผลโพลยังคงให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นอันดับหนึ่งนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะระบบนี้ไม่ใช่ระบบประธานาธิบดี ที่เลือกผู้นำประเทศโดยตรง แต่ต้องเลือกผ่านระบบพรรคการเมือง

 

ดังนั้น หากพรรคการเมืองคะแนนดี ได้ ส.ส.มาก ใครรวมเสียงข้างมากได้ พรรคนั้นก็เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องไม่สับสนกับระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยหัวหน้าพรรคเป็นส่วนหนึ่งของพรรค ถ้าพรรคคะแนนดี หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส. ล้วนแต่มีส่วน ที่ทำให้พรรคคะแนนดี

ขณะเดียวกัน มั่นใจในระบบรัฐสภาว่า ถ้าเรามีเสียงมากพอ ก็สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยหลักของระบบนี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสมอไป แต่อยู่ที่ว่าพรรคการเมืองใดรวมเสียงข้างมากได้ พรรคนั้น ก็จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี

 

สำหรับการหาเสียงในพื้นที่ เขต 1 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ มีความพร้อมมากกว่าพรรคอื่น เพราะมีการเปิดตัวเป็นพรรคแรกในสงขลา และผู้สมัครลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังเลือกตั้งปี 2562 โดยในเวทีปราศรัยอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ผ่านมา ประชาชนเข้าร่วมฟังปราศรัย กว่า 30,000 คน สะท้อนให้เห็นถึง จิตวิญญาณประชาธิปัตย์ในสงขลากลับขึ้นมา ทำให้มีขวัญกำลังใจและมั่นใจจะชนะยกจังหวัด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากเพราะว่าที่ผู้สมัครทุกคน ล้วนเป็นคนคุณภาพ คนรุ่นใหม่ ทั้งนายสรรเพชญ นายสมยศ และนายนิพัฒน์ อีกครั้งยังมีนายไพเจนมากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา ซึ่งเป็นทีมของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น การเลือกตั้งจังหวัดสงขลาครั้งนี้ จึงถือว่ามีความพร้อม ประกอบกับนายนิพนธ์ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง ก็รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมถึงนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้  เมื่อผนึกกำลังกัน จึงมั่นใจว่าชาวสงขลาจะให้การตอบรับ

 

สำหรับผลโพลช่วงหลัง ที่ความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นอันดับหนึ่ง มาจากพรรคมีความพร้อมทั้งในเรื่องตัวบุคคล และการลงพื้นที่ต่อเนื่อง รวมถึงความผูกพันธ์กับคนใต้ และนโยบายของพรรคที่ ชัดเจนในการสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ พาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดี   และนโยบายย่อย 8 ข้อที่ผูกพันกับคนใต้ ทั้งในเรื่องของการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด การออกโฉนดที่ดินทำกิน 1 ล้านแปลง นมโรงเรียนฟรี 365 วันธนาคารหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการแบ่งเขตใหม่ของ กกต. ที่ทำให้ภาคใต้เพิ่มจาก 58 เขต เป็น 60 เขตว่า ถือเป็นโอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะทำให้มี ส.ส.เพิ่ม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อม โดยเย็นวันนี้(5 มี.ค.) จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานีครบทั้ง 5 คน จากเดิม 4 เขต ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เพิ่มมา 1 เขต อยู่ระหว่างการคัดเลือก เพราะมีผู้สมัครมากกว่า 1 คน ดังนั้น จึงถือเป็นผลดีต่อภาพรวมในการตั้งเป้า ส.ส. โดยคาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ ส.ส.ใต้ 40 ที่นั่งขึ้นไป