posttoday

“ก้าวไกล – อนาคตใหม่” ยกทัพเยือนขอนแก่น ดัน “พิธา” นั่งนายก

04 มีนาคม 2566

“ก้าวไกล” ยกทัพคณะก้าวหน้า เยือนขอนแก่นปราศรัยก่อนเลือกตั้ง ขณะที่นายธนาธร ชี้ว่า “พิธา” ถือเป็นประตูบานใหม่ในสภา นำพาประเทศไทยออกจากความสิ้นหวัง

ณ บริเวณ สวนรัชดานุสรณ์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้ขึ้นบนเวทีปราศรัยพรรคก้าวไกล กล่าวสนับสนุนพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพราะเป็นพรรคการเมืองเดียวของประเทศที่กล้าเผชิญปัญหาที่ต้นตอ

“ก้าวไกล – อนาคตใหม่” ยกทัพเยือนขอนแก่น ดัน “พิธา” นั่งนายก

นายธนาธร เริ่มต้นปราศรัยด้วยการบอกว่า วันนี้ ครบรอบสามปีกว่าพอดีหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ประสบการณ์ของตน จากที่ก่อนหน้านี้เป็นผู้ติดตามการเมืองจากวงนอก วันนี้ได้เป็นผู้เล่นด้วยตัวเอง ทำงานการเมืองจนมีประสบการณ์มาระยะหนึ่งหลังถูกตัดสิทธิ ได้ใช้เวลาทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากกว่า 60 แห่งในประเทศไทย หลายแห่งอยู่ในภาคอีสาน ทำให้ได้เห็นความยากลำบากของประชาชน


“เป็นไปได้อย่างไรในปี 2566 คนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่มีน้ำประปาสะอาดใช้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน บ่อขยะยังไม่ถูกสุขลักษณะ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ผมได้เห็นความเดือดร้อนของประชาชน เห็นการทุจริตในสภา การสืบทอดอำนาจของเผด็จการ” ธนาธร กล่าว

ตลอดเวลาหลังยุบพรรค ธนาธร เผยว่าได้เฝ้าดูการเติบโตของพรรคก้าวไกล ด้วยความเป็นห่วงว่า จะไปไหวไหม แต่วันนี้มั่นใจได้ว่า พรรคก้าวไกลไปไกลกว่าพรรคอนาคตใหม่แล้ว และคนที่จะนำพาเราไปสู่สังคมที่พวกเราต้องการได้ คือพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพราะพิธาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในกิจการแปรรูปข้าวเป็นน้ำมันรำข้าว ยกระดับราคาสินค้าเกษตร

นอกจากนี้ พิธายังสามารถเรียนรู้ เข้าใจโลกและสังคมได้เร็วมาก ฉลาดหลักแหลม พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา และที่สำคัญที่สุดคือ มีความกล้าหาญทางการเมือง กล้าอภิปรายในเรื่องละเอียดอ่อน อภิปรายปัญหาสำคัญของประเทศได้อย่างน่าฟัง เปิดประตูบานใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร

“ผมเคยเชื่อว่า พิธาจะเป็นรัฐมนตรีที่ดีคนหนึ่ง แต่วันนี้ผมเลิกเชื่อไปแล้วว่า พิธาจะเป็นรัฐมนตรีที่ดี… แต่พิธาจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าพิธาในการเป็นผู้นำพาประเทศไทยออกจากความสิ้นหวัง จุดเทียนแห่งแสงสว่างให้กับประเทศไทย” ธนาธร กล่าวทิ้งท้าย

“ก้าวไกล – อนาคตใหม่” ยกทัพเยือนขอนแก่น ดัน “พิธา” นั่งนายก

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวปราศรัยบนเวทีหาเสียง ท่ามกลางประชาชนที่รอฟังอย่างคึกคัก พร้อมระบุว่า การที่เราทุกคนมารวมตัวกันวันนี้ พิสูจน์แล้วว่า การเมืองคือเรื่องของความเป็นไปได้ 4 ปีก่อน หลายคนตั้งคำถามว่า การทำการเมืองแบบอนาคตใหม่ ที่ไม่มีหัวคะแนน ที่คนธรรมดามาลง ส.ส. จะทำให้เราได้ ส.ส.สักกี่คน แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น

หรือการทำงานในสภาฯ ทั้งอภิปรายกระดุม 5 เม็ด หรือเรื่องตั๋วช้าง ที่ได้รับการยอมรับ พวกเราทำได้ เราพิสูจน์ว่า เขาพูดผิด ในการเลือกตั้ง 2562 ที่ขอนแก่น พรรคอนาคตใหม่ได้เกือบ 200,000 คะแนน เขต 1 ขอนแก่น ได้คะแนนมากกว่า 40% เจาะไข่แดงได้สำเร็จ 
2 เดือนก่อนหน้านี้ หลายคนบอกว่า เป็นไปไม่ได้ ที่แกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ จะมาช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียง แต่พวกเราคือ มิตรแท้ ผูกเสี่ยวกันไว้หมดแล้ว วันนี้เหลืออีกเพียงประมาณ 60 วันก่อนเลือกตั้ง อยากชวนให้ประชาชนเปลี่ยน 3ป เป็น 3P “พิธา-ปิยบุตร-พรรณิการ์” เลือกตั้งทั้งที  อย่าแค่เปลี่ยนรัฐบาล แต่ต้องเปลี่ยนประเทศ กาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

ส่วนที่ไม่เหมือนเดิม คือ การเมืองดี เลือกก้าวไกลให้ถล่มทลาย ส่งลุงกลับบ้านเลี้ยงหลาน ปิดสวิตช์ 3 ป ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไร ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ภายใน 100 วันแรกทันที

ปากท้องดี คือ เปลี่ยนให้ขอนแก่นไม่เหมือนเดิม ตลอดเวลาที่ผ่านมาวิสัยทัศน์ของตนสำหรับภาคอีสานไม่เคยเปลี่ยน และนับวันยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ สรุปเป็น 3 คำนี้ คือ ‘ตัดตอน แต้มต่อ ตั้งตัว’ 

‘ตัดตอน’ คือ ตัดตอนทุนผูกขาด เราต้องเปลี่ยนแรงงานเป็นผู้ประกอบการ เป็นเถ้าแก่อีสานให้ได้ นโยบายก้าวไกล ขึ้นค่าแรงทันที 450 บาท ผลักดันกฎหมายสุราก้าวหน้า สร้างงานซ่อมประเทศไปด้วยกัน ‘แต้มต่อ’ คือ หวย SME ให้แต้มต่อแก่ร้านรายย่อย

เปลี่ยนใบเสร็จเป็นหวย ใครช่วยซื้อสินค้าจากรายย่อย ลุ้นได้เงินล้าน ‘ตั้งตัว’ คือ กองทุนตั้งตัว ให้เงินทุน SME ตั้งตัวรายละ 1 แสนบาท โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน 2 แสนรายต่อปี

มีอนาคต คือ คนขอนแก่นต้องกำหนดอนาคตตัวเองได้ ซึ่งจะมีอนาคตได้ ต้องกระจายอำนาจ ปลดล็อกท้องถิ่น

“ก้าวไกล – อนาคตใหม่” ยกทัพเยือนขอนแก่น ดัน “พิธา” นั่งนายก

ขณะที่พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ปราศรัยบนเวทีหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ส.ส.ก้าวไกลวันนี้ ดีกว่า ส.ส. อนาคตใหม่ เพราะ ส.ส. อนาคตใหม่ มีเวลาทำงานในสภาเพียง 1 ปี แต่ ส.ส.ก้าวไกลที่เหลืออยู่ในสภาฯ ทุกคน ทำงานหนักอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี แม้ผู้คนจะบ่นว่า ยุบพรรคอนาคตใหม่ทำให้เสียปิยบุตร แสงกนกกุล ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรณิการ์ วานิชไป

แต่กลับทำให้ได้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รังสิมันต์ โรม อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ศิริกัญญา ตันสกุล พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ มาแทนที่ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า อนาคตใหม่ไม่ได้มีแค่ธนาธร ปิยบุตร พรรณิการ์ แต่อนาคตใหม่ ซึ่งตอนนี้คือ ก้าวไกล ทุกคนที่เป็น ส.ส. ได้ทำหน้าที่สมศักดิ์ศรีกับคำว่า ‘ผู้แทนราษฎร’ เป็นผู้แทนของคนตัวเล็กตัวน้อย และคนทุกกลุ่มในประเทศไทย


ที่ผ่านมา บางฝ่ายตั้งคำถามว่า พรรคก้าวไกลหรือ พิธาจะไหวหรือไม่ แต่ก็น่าคิดว่า ถ้าพิธาไม่ไหวจริงๆ ทำไมจึงมีเฟคนิวส์ใส่ร้ายพิธาทุกวัน เช่น เรื่องตัดงบบำนาญข้าราชการ ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันหลายครั้งแล้วว่า ไม่มีนโยบายนี้ มีแต่เพิ่มบำนาญประชาชนจาก 600 เป็น 3,000 บาทต่อเดือนแบบถ้วนหน้า

“วันนี้อนาคตใหม่และก้าวไกลรวมตัวกัน ไม่ใช่เพราะกระแสตก แต่ถึงเวลาแล้วที่จะลั่นกลองรบ พวกเรากลับมาแล้ว ที่นี่ที่แรกที่ขอนแก่น เพื่อพิสูจน์ว่า ต่อให้ตัดสิทธิทางการเมืองของเราได้ แต่ไม่มีวันตัดสิทธิทางการเมืองของใครออกจากใจของประชาชน โดยเฉพาะในใจพี่น้องชาวอีสาน” อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

“ก้าวไกล – อนาคตใหม่” ยกทัพเยือนขอนแก่น ดัน “พิธา” นั่งนายก

ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล เป็นผู้ขึ้นเวทีปิดท้ายการปราศรัยใหญ่ภาคอีสานของพรรคก้าวไกล โดยปิยบุตร ระบุว่า ในเดือน พ.ค. นี้ ประชาชนคนไทยจะได้หย่อนบัตรเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งตนอยากชวนให้ทุกคนใช้บัตรเลือกตั้งในการเปลี่ยนสามสิ่งใหญ่ คือ

1) เปลี่ยนขั้วรัฐบาลให้ได้ เพราะ 8 ปีที่ผ่านมายาวนานเหลือเกินไปแล้ว แต่เราต้องอย่าหลงลืมไปจำเพาะเจาะจงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น เพราะ 3 ป. ยังมี “ป.ประวิตร” และ “ป.ป๊อก-อนุพงษ์” ด้วย โดยเฉพาะในการเลือกตั้งรอบนี้ เราต้องจับตาไปที่ พล.อ.ประวิตร เป็นพิเศษ

ปิยบุตร ยังกล่าวต่อไปว่า สุดท้ายการปรองดองภายใต้ พล.อ.ประวิตร จะเป็นได้แค่การปรองดองจอมปลอมเท่านั้น เพราะการปรองดองต้องเกิดจากการยอมรับความจริง รู้ว่า ต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหน แก้ปัญหาได้อย่างถูกจุด ไม่ใช่การซุกขยะไว้ใต้พรม ไล่ยิง ไล่จับขังประชาชน แล้วบอกให้เลิกแล้วต่อกัน


2) เปลี่ยนรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาสภาชุดนี้มีความพยายามแก้รัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่ก็ต้องติดอุปสรรคตลอด โดยเฉพาะจากวุฒิสภาที่แปลงร่างเป็นผู้ออกใบอนุญาตให้แก้รัฐธรรมนูญได้หรือไม่ ล่าสุดพรรคก้าวไกลผลักดันให้ประชามติพร้อมวันเลือกตั้งก็ติดที่วุฒิสภา มาขวางการแก้รัฐธรรมนูญอีกแล้ว

ทางเดียวที่เราจะจัดการเรื่องนี้ได้ ต้องเลือก ส.ส. พรรคก้าวไกลเข้าไปให้มากที่สุด ให้เกิน 250-300 ให้เกิดแรงกดดันนี้จากเสียงของประชาชนเป็นผู้ลงมติอย่างล้นหลาม ที่จะนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญได้แน่นอน

3) เปลี่ยนประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีโครงสร้างปัญหาหลากหลายเรื่องราว เต็มไปด้วยปัญหาที่หมักหมมเรื้อรังมานานตั้งแต่ปี 2548 การแก้ปัญหาที่ผ่านมาเปรียบดั่งการซื้อยาแก้ปวดมากินไปครั้งคราว ทั้งที่ความจริงจะต้องใช้การผ่าตัดใหญ่ ด้วยการแก้ปัญหาให้ถึงที่โครงสร้าง

 

ทั้งนี้ สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคก้าวไกล จำนวน 11 เขต ประกอบด้วย

เขต 1 วีรนันท์ ฮวดศรี

เขต 2 อิทธิพล ชลธราศิริ

เขต 3 ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง

เขต 4 วุฒิรักษ์ แพงตาแก้ว

เขต 5 วิชัย อินทรประสิทธิ์

เขต 6 สานิตย์ พระโบราณ

เขต 7 รุ่งวิชิต คำงาม

เขต 8 อำนวย วิชาโคตร

เขต 9 วนัฏศนันท์ ธีรวรวรรณ

เขต 10 นิวัตร สระพรม

เขต 11 ณัฏฐณิชา สารบรรณ