posttoday

พรรคเพื่อไทยย้ำ ต้องขยับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่ม Productivity ให้ประเทศไทย

10 กุมภาพันธ์ 2566

กิตติรัตน์ ณ ระนอง ย้ำพรรคเพื่อไทยมุ่งนโยบายเพิ่มรายได้ เสริมอำนาจการใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยเฉพาะการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อเพิ่มผลิตภาพให้กับสังคมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

บนเวทีเสวนา อนาคตประเทศไทย Thailand Economic Drives เศรษฐกิจไทย...สตาร์ทอย่างไรให้ก้าวนำโลก ซึ่งจัดโดย PostToday รวมกับ Nation TV และสื่อในเครือเนชั่น ดร.กิตติรัตน์ ณ.ระนอง รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ระบุแนวทางของนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ต้องย้อนไปในสมัยของพรรคไทยรักไทย ที่มีนโยบายหลักเพื่อผลักดันเศรษฐกิจแบบ Dual Track คือนอกจากจะมุ่งสู่การเพิ่มรายได้จากการส่งเสริมการค้าการส่งออกแล้ว ยังต้องลดรายจ่ายเพื่อลดต้นทุนให้กับสังคม เช่นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นการลดรายจ่ายของประชาชน เพื่อให้เหลือเงินมากขึ้นมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมได้มากขึ้น

ดร.กิตติรัตน์ ยืนยันว่า นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่ในสมัยรัฐบาลอดีตนายรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งตนมีส่วนร่วมในขณะนั้น ที่ขยับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 300 บาท แม้ในช่วงแรกจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ในระยะยาวแล้ว เป็นประโยชน์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองว่า การขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ ให้เพียงพอ หรือมากกว่าค่าครองชีพ จะเป็นการเพิ่มผลิตภาพ หรือเพิ่ม Productivity ให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  นักธุรกิจไม่ตกใจมาก เพราะไม่ได้ทำทันที แต่คงเห็นแล้ว เพราะตอนนี้ค่าครองชีพสูงขึ้น ถ้าไม่ขยับรายได้ให้เขา ค่าครองชีพจะบีบความสามารถชำระหนี้ให้ลดลง คุณภาพชีวิตลดลง มีความจำเป็นต้องดูแลรายได้ให้ดี และหวังว่าเพิ่มรายได้เร็วกว่าค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น

หลายปีเราทำงานหนักเพื่อเพิ่มผลิตภาพ ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ต่อชั่วโมงของภาคการผลิตอุตสาหกรรม ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นโจทย์อนาคต ขณะเดียวกัน มุ่งที่จะทำงานร่วมกันกับด้านนโยบายการเงิน เรื่องดอกเบี้ย ตรงนั้นไม่สำคัญมาก ไม่ต้องขึ้นก็ได้ เงินสำรองมากพอ ไหลออกบ้าง บาทอ่อนบ้างไม่เป็นไร แต่ที่อยากเห็นเงินฝากดอกเบี้ยสูงขึ้นสักนิด เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสักนิดได้หรือไม่ คือ ความพอดี มันแปลออกมาเป็นมาตรการของเรา ในไม่ช้าจะเป็นสอดคล้องกับผลิตภาพ และความพอดีหลั่งไหลมาเรื่อยๆ