'อนุทิน'ประชุม'สธ.'เตรียมรับทัวร์จีนยันไม่เลือกปฎิบัติ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยก่อนการประชุม เตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า วันนี้ เป็นการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือและแจ้งให้ทราบในเรื่องการรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนโดยมี ทั้งด้านคมนาคม , การท่องเที่ยว , ด้านสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ภายในประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รับทราบว่าจะใช้มาตรการอะไรในการรองรับสถานการณ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ โดยกรมควบคุมโรคจะเป็นผู้กำหนดมาตรการ และแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน

ส่วนกรณีที่จีนเคยประกาศว่าจะเอาคืนประเทศที่ต่อต้านนั้นนายอนุทินยืนยันว่าประเทศไทยไม่เคยมีปัญหา และมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศจีนเป็นมิตรประเทศที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด

สำหรับเรื่องการควบคุมโรคก็จะใช้มาตรการเดิมที่ใช้อยู่แล้วให้มากที่สุด เพราะขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศเดินทางเข้ามาก็มีผู้ติดเชื้อดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือประเทศไทยต้องสร้างเกราะของเราให้ดีที่สุด โดยยังคงเน้นย้ำมาตรการเดิมพื้นฐานเรื่องการเข้าไปในพื้นที่แออัดการใส่หน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามมาตรฐานสากล

ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาจะมีการตรวจ  ATK หรือ RT-PCR ก่อนหรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า สำหรับท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา มีการตรวจมาจากประเทศต้นทางแล้ว และ เราก็ทำตามมาตรการขั้นตอนเรา

ขณะที่การเก็บค่าเหยียบแผ่นดินนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวเคยชี้แจงว่าที่ เหมือนการทำประกันว่าอาจจะต้องให้การดูแลรักษานักท่องเที่ยวที่เจ็บป่วยไม่ใช่เพียงโควิดอย่างเดียว เพื่อจะได้มีงบประมาณในการดูแลส่วนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม สปศช. ก็มีงบประมาณในการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติเบื้องต้น ไม่มีปัญหาเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่ประเทศเกาหลีมีนักท่องเที่ยวจีน หายตัวไประหว่างรอเข้าสถานกักตัวนั้น  นายอนุทินตอบกลับทันทีว่าอย่าเทียบกับประเทศอื่นนี่ประเทศไทย แพทย์หลายท่านออกมาให้ความมั่นใจ รวมถึงมีการโพสต์ผ่านโซเชียลให้ได้รับทราบ จึงขอให้มั่นใจในเรื่องมาตรการสาธารณสุขไทย 

นอกจากนี้นายอนุทินยังยืนยัน ว่า ยังไม่เคยมีไอเดีย จะให้วัคซีนฟรีกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เมื่อมาถึงแล้วหากเขาต้องการวัคซีน ก็สามารถรับบริการได้ แต่ไม่มีการให้ฉีดฟรีอย่างแน่นอน 

สำหรับมาตรการต่างๆนั้น ได้ข้อสรุปจาก คกก.ด้านวิชาการ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้มาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า แต่ละหน่วยงานจะปฏิบัติอย่างไร เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะตรวจอย่างไร หากต้องเข้มข้นมากขึ้น แต่ต้องขอให้ใช้ระยะเวลาให้น้อยที่สุด  ซึ่งวันนี้ไม่มี ศบค. ทุกกระทรวงต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน และ วันนี้ สธ. โดยกรมควบคุมโรค ทำหน้าที่คล้าย ศบค. เพียงแต่ไม่สามารถ สั่งการได้ทักกระทรวงต้องขอความร่วมมือ เพื่อทำให้ต่างประเทศมีความเชื่อมั่น เพราะหลายประเทศอยากมา หากเราไม่พร้อมรับ ก็จะเสียโอกาสเพราะถือว่าเป็นโอกาสที่จะดึงสิ่งที่เสียไปกลับมาในการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเป็นสิ่ง ที่เข้มแข็งที่สุดของเราในเรื่องการบริการและการท่องเที่ยว 

พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการแบ่งโซนนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเดินทางมาจากประเทศใด  ก็สามารถท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศเพราะทุกคนถือเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกันและหากมีเชื้อใหม่เข้ามากรมควบคุมโรคก็จะมีการติดตามและจึงจะเปลี่ยนมาตรการใหม่