posttoday

ชี้ช่องรักษาฟรี ‘บัตรทอง’ ป่วยโควิด-19

26 พฤศจิกายน 2565

สปสช. เปิด 4 ช่องทาง เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด "สิทธิบัตรทอง" เข้าถึงการรักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หลัง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ป่วยโควิด-19 มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง

สถานการณ์ปัจจุบันผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยในระยะหลังนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น กรมควบคุมโรครายงานว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ 46 ระหว่างวันที่ 13-19 พฤศจิกายน 2565 พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่จำนวน 3,957 ราย เฉลี่ย 565 รายต่อวัน เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 25% ขณะที่มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 69 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เมื่อดูข้อมูลย้อนหลังพบว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มสูงอีก สอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลก

จึงมีความจำเป็นที่ประชาชนทุกคนต้องดูแลสุขภาพตนเอง โดยเฉพาะการเน้นมาตรการป้องกันเพื่อให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19 เช่น สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่แออัด ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตลอดจนการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการรับวัคซีนที่ยังมีความจำเป็นสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ที่เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง

**ป่วยโควิดสามารถรักษาฟรีด้วยการใช้สิทธิบัตรทอง

ประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ในกรณีที่เจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 สามารถใช้สิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ผู้ป่วยกลุ่มไม่มีอาการหรือเจ็บป่วยเล็กน้อย

  • สามารถรับบริการรับยาที่ร้านยา
  • บริการโควิด-19 ด้วยระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)
  • บริการปฐมภูมิทุกที่ได้

ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง

  • ขอให้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลตามสิทธิ โดย สปสช. ยังคงสิทธิประโยชน์บริการเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิดอย่างต่อเนื่อง

 

4 ช่องทาง รักษาฟรี

ทั้งนี้ บริการเพื่อดูผลผู้ป่วยโควิด สิทธิบัตรทอง มี 4 ช่องทาง ดังนี้ 

  1. สถานพยาบาลตามสิทธิ หรือหน่วยบริการประจำ ตรวจสอบสิทธิและรายชื่อ
  2. หน่วยบริการปฐมภูมิทุกที่ ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข (พื้นที่ กทม.), คลินิกชุมชนอบอุ่น, สถานีอนามัย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.), หน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาล, ศูนย์สุขภาพชุมชน เป็นต้น (ดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช. เลือกประเภทการขึ้นทะเบียนที่ระบุว่า บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป หรือ หน่วยบริการประจำ)
  3. รับยาที่ร้านยา เฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ต้องดูรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วม
  4. ดูแลด้วยระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ผ่าน 4 แอปพลิเคชันสุขภาพด้วยบริการ “COVID-19 Telemedicine” เลือกแอปฯ ใดแอปฯ หนึ่ง ดังนี้ 
  • แอปพลิเคชัน Clicknic ให้บริการโดย บริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด  รับผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มสีเขียวและกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี, ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรังโรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน และหญิงตั้งครรภ์) สอบถามเพิ่มเติม Line ID : @clicknic
  • แอปพลิเคชัน MorDee ให้บริการโดย บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด  รับผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ เฉพาะกลุ่มสีเขียว (ไม่รับกลุ่ม 608) สอบถามเพิ่มเติม Line ID: @mordeeapp
  • แอปพลิเคชัน Good Doctor Technology ให้บริการโดย บริษัท กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย)  รับเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว (ไม่รับกลุ่ม 608) ที่อยู่ในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และชลบุรี เท่านั้น สอบถามเพิ่มเติม Line ID: @gdtt 
  • แอป Totale Telemed โดย บริษัท โททอลเล่เทเลเมด  รับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกประเภท เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 ทั่วประเทศ สอบถามเพิ่มเติม Line ID : @totale หรือสายด่วน 0620462944, 0618019577

 

ท้ายที่สุดด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. แนะนำไว้ว่า หากประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค ดังนี้

ผู้ป่วยกลุ่มไม่มีอาการ

  • ขอให้พิจารณาดูแลรักษาตามความเหมาะสม โดยให้ปฏิบัติตาม DMH อย่างเคร่งครัด 5 วัน
  • หากจำเป็นต้องออกจากบ้านหรือไปทำงานให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและระมัดระวังการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น

กลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง

  • มีไข้ อุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป โดยวัดอย่างน้อง 2 ครั้ง ห่างกัน 4 ชั่วโมงในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง
  • มีค่าออกซิเจนในเลือดน้อยกว่า 94%
  • มีภาวะแทรกซ้อน หรือการกำเริบของโรคประจำตัว
  • มีภาวะอื่นๆ ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามดุลพินิจของแพทย์