posttoday

DSIเร่งดำเนินคดีนายทุนรุกอุทยานสิรินาถ

18 ธันวาคม 2557

ดีเอสไอเร่งดำเนินคดีนายทุนรุกเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ เบื้องต้นพบผู้ครองครองเอการสิทธิ 4 แห่งในพื้นที่ผิดกฎหมาย

ดีเอสไอเร่งดำเนินคดีนายทุนรุกเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ  เบื้องต้นพบผู้ครองครองเอการสิทธิ 4 แห่งในพื้นที่ผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผอ.ศูนย์คุมครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม  แถลงความคืบหน้ากรณีการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขารวก – เขาเมือง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ว่า ดีเอสไอได้รับการร้องเรียนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่ามีการบุกรุกยึดถือ ครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขารวก – เขาเมือง ตำบลสาคู และตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้เกี่ยวข้องทั้งเอกชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยที่รู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิใดๆได้ ครั้งแรกมีจำนวน 10 ราย และมีการเพิ่มเติมในที่ประชุมอีก 4 ราย รวมเป็น 14 ราย มีทั้งที่เป็นบุคคล และบริษัทผู้ประกอบการขนาดใหญ่ 

ร.ต.อ.วิษณุ  กล่าวอีกว่า ดีเอสไอได้ตั้งคณะทำงานเพื่อสืบสวนเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด และได้ดำเนินการสืบสวนไปแล้จำนวน 4 ราย   เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2557 กรมอุทยานฯ ได้ทำหนังสือมาอีกครั้งหนึ่ง ขอให้ดีเอสไอ รับเรื่องการบุกรุกที่ดินในเขตอุทยานฯเป็นคดีพิเศษ โดยแจ้งว่าได้มีการออกเอกสารสิทธิในเขตอุทยานฯ ประมาณ 379 แปลง ประมาณ 2743  ไร่ เพื่อปลูกสร้างโรงแรม รีสอร์ท อาคารที่พัก โดยนักลงทุนรายใหญ่ และผู้มีอิทธิพล มีลักษณะร่วมกันทำเป็นกระบวนการ ซึ่งกรมสอบสวน คดีพิเศษได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอ กคพ. เพื่อขอพิจารณาเป็นคดีพิเศษและได้รับอนุมัติให้เป็นคดีพิเศษ 

เบื้องต้นจากการสืบสวนผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ 4 แห่ง ได้แก่ 1.โครงการบ้านพักตากอากาศซึ่งมีการใช้หลักฐานที่ดินเดิม (ส.ค.1) เพียง 20  ไร่ และนำมาขยายพื้นที่เพิ่มเติมหลายครั้ง ได้เนื้อที่ส่วนเกินประมาณ100  ไร่ ซึ่งเนื้อที่ส่วนที่เกินมาพบว่าในปี 2510 มีสภาพเป็นป่า จึงไม่ใช่ที่ดินตาม ส.ค.1 ดังกล่าว และยังออกในที่ดินที่เป็นที่เขาหรือภูเขาต้องห้ามตามกฎหมายที่ดิน ทราบว่ากรมที่ดินได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเพิกถอนส่วนที่เกินแล้ว

2..โรงแรมแห่งหนึ่งที่มีการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และที่เขาหรือภูเขาโดยไม่มีหลักฐานที่ดินเดิม ต้องห้ามตามกฎหมายที่ดิน และบางส่วนมีหลักฐานที่ดินเดิม แต่ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการพิสูจน์สิทธิในที่ดินตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ดินเป็นโฉนดจำนวน 6 แปลง น.ส.3 ก. จำนวน 2 แปลง และ น.ส. 3 จำนวน 1 แปลง เนื้อที่รวมกันประมาณ 53ไร่เศษ

3.ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 42053  และ42054  เนื้อที่รวมกันประมาณ 200 ไร่ สภาพปัจจุบันเป็นป่าทั้งแปลง เป็นที่เขาติดทะเล พบว่ามีการปลอมหลักฐาน ส.ค.1 โดยหลักฐาน ส.ค.1 อยู่คนละตำแหน่งกับที่เกิดเหตุ 4.ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 38112  และ 38113 เนื้อที่ประมาณ 86 ไร่เศษ สภาพปัจจุบันเป็นป่าทั้งแปลง เป็นที่เขาติดทะเล พบว่ามีการปลอมหลักฐาน ส.ค.1 โดยหลักฐาน ส.ค.1 อยู่คนละตำแหน่งกับที่เกิดเหตุ พฤติกรรมทั้งหมดมีการทำเป็นขบวนการ มีผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ทั้งข้าราชการและเอกชนที่เป็นเจ้าของที่ดินมือแรก เป็นการกระทำที่มีมูลความผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้  สำหรับความผิดต่อเจ้าพนักงาน ตาม ป.อาญา มาตรา 157 จะได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. รับไปดำเนินการไต่สวนตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ร.ต.อ.วิษณุ  กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานต่อไปของกรมสอบสวนคดีพิเศษ คือ การตรวจสอบพื้นที่บุกรุกฯ จากกรมอุทยานฯ ร้องขอ จำนวน 14 ราย การตรวจสอบพื้นที่บุกรุกฯ เพิ่มเติมโดยการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ ครอบคลุมพื้นที่อุทยานแหงชาติสิรินาถ โดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ. 2510 เพื่อวิเคราะห์แปลงที่ดินที่เชื่อว่า มีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ และการตรวจสอบพื้นที่บุกรุกฯ จากรายงานการตรวจสอบ และการเสนอเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน ของกรมที่ดิน

ข่าวล่าสุด

"อัครา" ชู “พะเยา…ฮีลใจ : Hidden Story – ฟังเสียงหัวใจ @ปางปูเลาะ” หนุนเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง