posttoday

เอกชนเสนอรัฐขยายรันเวย์สนามบินตรัง

07 มิถุนายน 2553

ภาคเอกชนเสนอรัฐบาลขยายรันเวย์สนามตรังยาวขึ้น  เพื่อสอดรับนโยบายพัฒนาระบบขนส่งทางอากาศ  ด้านผู้โดยสารแนะลดราคาตั๋วให้ถูกลงดีกว่า

ภาคเอกชนเสนอรัฐบาลขยายรันเวย์สนามตรังยาวขึ้น  เพื่อสอดรับนโยบายพัฒนาระบบขนส่งทางอากาศ  ด้านผู้โดยสารแนะลดราคาตั๋วให้ถูกลงดีกว่า

นายไมตรี อินทุสุต ผวจ.ตรัง กล่าวว่า  คณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชน (กรอ.) จังหวัด  ได้มีการนำเสนอเรื่องการขยายรันเวย์สนามตรังเข้าสู่การพิจารณา  ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของทางจังหวัดที่จะเดินหน้าพัฒนาระบบการขนส่ง  ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ  โดยเฉพาะในส่วนของทางอากาศนั้น ที่ผ่านมาหอการค้าจังหวัดตรัง ก็มีการผลักดันอยู่เป็นระยะ  ซึ่งจากการสอบถามทุกผู้ว่าราชการจังหวัด หรือทุกรองผู้ว่าราชการจังหวัด  ต่างก็ได้รับการเสนอให้ขยายสนามบินตรัง จากความยาว 2,100 เมตร เป็น 3,000 เมตร  เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินแบบแอร์บัส หรือชาร์เตอร์ไฟว์ (เช่าเหมาลำ) ได้

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวต้องมองความเป็นจริงด้วย  ซึ่งการที่ทางจังหวัดตรังจะมีการวางแผนพัฒนาเอาไว้ในระยะยาวถือเป็นสิ่งที่ดี  แต่ท้ายสุดก็ต้องมาจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง  เพราะการขยายรันเวย์นั้น ก็เคยผลักดันเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กรอ.ทั่วประเทศมาแล้ว  ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเดือนพ.ย. 2552  ต่อมาก็ได้มีการเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม  และกระทรวงก็ได้ตอบความเห็นมายังท่าอากาศยานตรัง ว่า  แม้การขยายรันเวย์จะเป็นสิ่งที่จำเป็นในวันข้างหน้า  แต่ในความเป็นจริงกรมการบินพลเรือนเอง  ก็ต้องดูความสมเหตุสมผลและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นด้วย
 
อย่างไรก็ตามทางจังหวัดตรังมองว่าสิ่งที่จะต้องเร่งทำเป็นอันดับแรกในขณะนี้ก็คือ  การเพิ่มประสิทธิภาพให้มีผู้โดยสารและเที่ยวบินปริมาณมากขึ้นกว่าที่ผ่านๆ มา  เพราะขนาดรันเวย์ที่กว้าง 45 เมตร และยาว 2,100 เมตร ในขณะนี้  สามารถรองรับเครื่องบินแบบโบอิ้ง 737 หรือ 400  อย่างที่สายการบินนกแอร์ และวันทูโก มาใช้บริการอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างสะดวกสบาย  เพียงแต่จะต้องมองย้อนไปดูถึงศักยภาพของสนามบินตรังมาประกอบด้วย  ซึ่งปกติในปีหนึ่งๆ จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 700,000 คน  แต่จากตัวเลขเมื่อปี 2552 จังหวัดตรังมีผู้โดยสาร 150,000 คน หรือมีเพียงแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น
 
ขณะเดียวกัน จังหวัดตรังก็ยังสามารถรองรับเที่ยวบินได้ถึงปีละ 4,800 เที่ยวบิน  แต่จากตัวเลขเมื่อปี 2552 กลับสามารถทำได้เพียงแค่ 1,500 เที่ยวบิน  ส่วนการขนส่งสินค้าทางอากาศก็ทำได้เพียงแค่ปีละ 125 ตัน  ทั้งๆ ที่สนามบินตรังสามารถรองรับได้มากกว่านี้ถึง 4 เท่า  ฉะนั้น จึงเป็นการบ้านของทางจังหวัดตรังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า  ทำอย่างไรที่จะเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้ได้มากกว่านี้อีก 1 เท่า หรือประมาณ 300,000 คน  และทำอย่างไรที่จะเพิ่มเที่ยวบินที่มีอยู่ในขณะนี้ให้มากขึ้น  นอกจากเที่ยวบินเช้า ที่มีอยู่ทุกวันๆ ละ 2 เที่ยว  และเที่ยวบินเย็น ที่มีอยู่มีแค่สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ในวันจันทร์ พฤหัสบดี ศุกร์ และอาทิตย์
 
โดยเฉพาะสายการบินนกแอร์ แม้ก่อนหน้านี้จะประกาศตารางการบินไปยาวถึงเดือนตุลาคม  แต่ภายใน 1-2 เดือนนี้ ทางสายการบินก็จะมีการพิจารณาตัวเลขผู้โดยสารอีกครั้ง  ซึ่งจากข้อมูลที่ทางจังหวัดตรังได้สอบถามไปยังหลายส่วนระบุว่า  ในช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีผู้โดยสารทางเครื่องบินเต็มไปหมด  แต่ขณะนี้ในวันธรรมดา จะมีผู้โดยสารแค่ 100 คน หรือประมาณ 2 ใน 3 ของลำ  ยกเว้นในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่อาจจะมีผู้โดยสารเกือบเต็มลำ แต่ก็ยังถือว่ามีปริมาณที่ค่อนข้างน้อย  ฉะนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องทำก็คือ ให้ยังคงมีเที่ยวบินเย็นต่อไป  และจะต้องพยายามผลักดันให้มีเที่ยวบินเย็นเพิ่มขึ้นและเหมาะสมมากกว่านี้
 
ทางจังหวัดตรังจึงมอบหมายให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว  เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อดึงผู้โดยสารจากจังหวัดข้างเคียงให้มาใช้สนามบินตรังเพิ่มขึ้น  เช่น ชาวพัทลุง ถ้าไปสนามบินหาดใหญ่ มีระยะทาง 100 กิโลเมตร  แต่ถ้ามาสนามบินตรัง มีระยะทางแค่ 60 กิโลเมตร  หรือชาวสตูล ให้แบ่งจากสนามบินหาดใหญ่  และชาวทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้แบ่งจากสนามบินกระบี่ มายังสนามบินตรังบ้าง  ซึ่งจะต้องทำควบคู่ไปกับโปรโมชั่นที่น่าสนใจของทั้ง 2 สายการบิน  รวมทั้งผลักดันให้มีเที่ยวบินชาร์เตอร์ไฟว์มาใช้บริการมากขึ้น  โดยอาศัยความเป็นจุดกึ่งกลางของสนามบินฝั่งอันดามัน  ระหว่างภูเก็ต หาดใหญ่ และสุราษฎร์ธานี
 
นายภานุวัฒน์ นวลฉาย  ชาวเทศบาลตำบลย่านตาขาว กล่าวว่า หากมีการขยายรันเวย์สนามบินตรังจริงๆ ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี  แต่วิธีนี้ไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้มีผู้มาใช้บริการเครื่องบินเพิ่มขึ้น  จึงน่าจะมีการลดราคาตั๋วให้ถูกลงกว่าเดิม เหลือประมาณ 1,000-1,500 บาท  ซึ่งเป็นราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับราคารถทัวร์หรือรถไฟ  ซึ่งหากไม่แพงมากกว่ากัน ผู้คนก็จะเลือกเดินทางด้วยเครื่องบิน  เพราะใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงที่หมายแล้ว  และถ้าหากลดราคาตั๋วมากไป จะทำให้สายการบินขาดทุน  ก็ให้ไปลดในด้านอื่นๆ แทน เช่น ไม่ต้องมีอาหารบนเครื่องบิน  หรือมีแอร์โฮสเตสประจำลำละ 2 คน ก็พอแล้ว
 
ด้านนายสุมิตร เตชานุรัตน์ ชาวเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า  การขยายรันเวย์สนามบินตรัง แม้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ลงทุนก็สูงมาก  ส่วนการกระตุ้นในผู้คนหันมาใช้บริการเครื่องบินกันมากขึ้น  ควรเน้นในเรื่องของราคาตั๋วที่ถูกลงและเรื่องของบริการที่ดีขึ้น  ทั้งนี้ หากราคาตั๋วเครื่องบินแพงกว่าตั๋วรถทัวร์หรือรถไฟไม่มาก  ผู้คนก็จะหันมาใช้บริการเครื่องบินกันมากขึ้นเอง  รวมทั้งอาจจะตัดเรื่องอาหารบนเครื่องบินออกไป  ซึ่งตนคิดว่าวิธีการนี้จะให้ประโยชน์ต่อชาวตรังได้โดยตรง  เพราะสามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับ โดยไม่เสียเวลาและมีค่าใช้จ่ายไม่สูง  ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีกว่าการไปขยายรันเวย์สนามบินตรังเสียอีก

ข่าวล่าสุด

“พลเอกณัฐพล”วาง 5 เงื่อนไขถกGBCกัมพูชา ยันไทยป้องกันตัวเอง