เร่งแก้แท็บเล็ตป.1เป็น
เรื่องเป็นราวขึ้นมาอีกแล้ว สำหรับเครื่องแท็บเล็ตตามโครงการ One Tablet PC Per Child หรือที่เรียกกันติดปากว่า แท็บเล็ต ป.1 ที่ล่าสุดทีมข่าวโพสต์ทูเดย์ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบการใช้งานของเครื่องแท็บเล็ตดังกล่าว ซึ่งพบว่าคุณภาพของเครื่องแท็บเล็ตไม่ตรงกับสเปกที่กำหนด
เรื่องเป็นราวขึ้นมาอีกแล้ว สำหรับเครื่องแท็บเล็ตตามโครงการ One Tablet PC Per Child หรือที่เรียกกันติดปากว่า แท็บเล็ต ป.1 ที่ล่าสุดทีมข่าวโพสต์ทูเดย์ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบการใช้งานของเครื่องแท็บเล็ตดังกล่าว ซึ่งพบว่าคุณภาพของเครื่องแท็บเล็ตไม่ตรงกับสเปกที่กำหนด
โดยแท็บเล็ต ป.1 ที่บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ผลิตและขายให้กับประเทศไทย โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นผู้ลงนามตรวจรับนั้น ปรากฏว่าไม่มีระบบตัดไฟแบตเตอรี่ ทำให้เครื่องร้อนเกินไป และมีความเสี่ยงที่จะดูดผู้ชาร์จไฟด้วย นอกจากนี้ยังใช้เวลาในการชาร์จนานถึง 6 ชม. แต่สามารถใช้งานได้เพียง 23 ชม.เท่านั้น
ที่ผ่านมาโครงการนี้เป็นโครงการที่ถูกตั้งคำถามอย่างมากถึงความคุ้มค่าของโครงการ ที่ใช้งบประมาณไป 1,900 ล้านบาท รวมถึงคุณภาพของเครื่องแท็บเล็ต ว่ามีมากน้อยเพียงใด เพราะรัฐบาลต้องแจกจ่ายเป็นอุปกรณ์การให้กับเด็กนักเรียนทั่วประเทศกว่า 9 แสนเครื่อง
กระทรวงไอซีทีและกระทรวงศึกษาธิการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเครื่องแท็บเล็ตทั้งหมดในโครงการนี้อย่างเต็มตัว และต้องมีกระบวนการตรวจสอบเครื่องแท็บเล็ตให้มีคุณภาพที่สามารถใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลต้องการใช้แท็บเล็ตนี้เป็นตัวพัฒนาการเรียนการสอนของประเทศไทย
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกลับกลายเป็นว่า แท็บเล็ต ป.1 กลายเป็นตัวฉุดรั้งการพัฒนาการเรียนการสอนของประเทศ ด้วยเครื่องที่ไม่มีคุณภาพ และหลักสูตรการเรียนที่ไม่ตรงกับหลักสูตรการเรียนการสอนหลักของเด็กไทย
ปัญหาเครื่องแท็บเล็ตที่ปรากฏออกมาตามหน้าสื่อทั้งหลาย แสดงให้เห็นว่า เครื่องแท็บเล็ตที่ทั้งกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงไอซีทีสั่งซื้อเข้ามานั้น มีปัญหาอย่างแน่นอน และเป็นปัญหาที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับโครงการที่รัฐบาลต้องการสร้างคุณภาพการเรียนการสอนของเด็กไทย ให้มีศักยภาพดีกว่าที่เป็นอยู่
อย่าปล่อยให้อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้กระจายไปอยู่กับเด็กนักเรียนที่ไม่รู้เรื่อง เพราะหากมีเด็กนักเรียนเพียงแค่ 1 ใน 9 แสนคน ถูกไฟดูดจากการชาร์จไฟเครื่องแท็บเล็ต ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะเด็กทุกคนคืออนาคตของชาติ
นี่เป็นเพียงแค่ปัญหาที่เกิดจากการใช้งานเริ่มต้นเท่านั้น เรายังไม่รู้ว่า หากมีการใช้งานไปนานกว่านี้ แท็บเล็ต ป.1 นี้จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาอีก
ยังไม่สายเกินไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีและกระทรวงศึกษาธิการ จะมานั่งจับเข่าคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพของเครื่องแท็บเล็ต ให้กลับกลายมาเป็นเครื่องมือที่ใช้พัฒนาการเรียนการสอนให้กับเด็กไทยอย่างแท้จริง
ไม่ใช่เป็นแค่อุปกรณ์ไอทีไร้คุณภาพ ที่มีแต่ฝ่ายการเมืองมาหาประโยชน์การงบการจัดซื้อ


