บุรีรัมย์แข่งดุ...ซื้อเสียงโจ่งครึ่ม
คลิปวิดีโอการแจกจ่ายเงินของแกนนำของผู้สมัคร สส. พรรคการเมืองหนึ่งในเขตเลือกตั้งแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์
คลิปวิดีโอการแจกจ่ายเงินของแกนนำของผู้สมัคร สส. พรรคการเมืองหนึ่งในเขตเลือกตั้งแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์
โดย...ทีมข่าวภูมิภาค
คลิปวิดีโอการแจกจ่ายเงินของแกนนำของผู้สมัคร สส. พรรคการเมืองหนึ่งในเขตเลือกตั้งแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกมือดีนำออกมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ยูทูบจนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วจังหวัด ทำให้การหาเสียงเลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้ายของผู้สมัคร สส.แต่ละพรรคต้องเพิ่มมาตรการตรวจตราคนเข้าฟังอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการใส่ร้ายป้ายสีหรือจ้องจับผิดจากฝ่ายตรงข้าม
สนามเลือกตั้ง จ.บุรีรัมย์ ถูกจับตามองเป็นพิเศษเพราะถือเป็นเมืองหลวงของ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพผ.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ต่างก็ต้องการทลายป้อมปราการของตระกูลชิดชอบ แย่งเก้าอี้มาครอบครอง
สำหรับสนามเลือกตั้ง จ.บุรีรัมย์ เดิมมี สส.ได้ 10 คน แต่ครั้งนี้ถูกลดจำนวน สส.เหลือ 9 คน ซึ่งทางพรรคภูมิใจไทยตั้งเป้าคว้าเก้าอี้ยกจังหวัด ทำให้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้เกิดการแข่งขันดุเดือดและลุ้นระทึกใจเป็นอย่างยิ่ง
เขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นการแข่งขันระหว่าง สนอง เทพอักษรณรงค์ พรรคภูมิใจไทย เดิมพื้นที่แห่งนี้ ประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล อดีต สส.หลายสมัย พรรคภูมิใจไทย หนึ่งในเพื่อนรักที่ “เนวิน” ไม่เคยทอดทิ้ง แต่คราวนี้ส่ง สนอง ลงแทน เพราะเป็นคนติดดินมากกว่าเพราะต้องชนกับ พ.ต.ท.กิตติฤทธิ์ พูนสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย ผู้ท้าชิงซึ่งลงพบปะชาวบ้านต่อเนื่องจนกระแสตอบรับดีวันดีคืน ส่วนผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ส่ง นภดล อังคสุภณ อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ที่พ่ายแพ้ ปาลีรัตน์ สมานประธาน ภรรยา ปริญญา สมานประธาน อดีตประธานสภา อบจ.บุรีรัมย์ เพื่อนซี้เนวิน เพียงแค่กว่า 800 คะแนน คอยเป็นตัวสอดแทรก
เขตเลือกตั้งที่ 2 มี รังสิกร ทิมาตฤกะ หรือ “เสี่ยหนุ่ม” พรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าของตำแหน่ง โดยมีทั้ง สุรศักดิ์ นาคดี อดีต สส.บุรีรัมย์ ลงสมัครพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เป็นคู่แข่งสำคัญ แม้ รังสิกร จะขยันลงพื้นที่พบปะชาวบ้านอย่างสม่ำเสมอแต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะเขตนี้พรรคเพื่อไทยส่ง กฤช อุปจันทร์แพงวงศ์ อดีตผู้สมัคร สส. ลงชิงเก้าอี้เขต 2 ด้วย รวมทั้ง ธีรวุฒิ ทับทิมหิน จากพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่าฐานเสียงทั้ง กฤช และ ธีรวุฒิ จะสู้ รังสิกร และ สุรศักดิ์ ไม่ได้ แต่ก็สร้างสีสันการแข่งขันให้คึกคักมากยิ่งขึ้น
เขตเลือกตั้งที่ 3 มี โสภณ ซารัมย์ ประกาศจองที่นั่งและไม่น่าพลาดเพราะคู่แข่งจากพรรคอื่นๆ ต่างก็ห่างชั้น เช่น พรรคเพื่อไทยส่ง อาทิตย์ ยุทธเสรี พรรคประชาธิปัตย์ส่ง มนูญ มนูขจร พรรคชาติไทยพัฒนาส่ง วุฒิพงษ์ เหลืองอุดมชัย อดีต สส.บุรีรัมย์ 2 สมัย
เขตเลือกตั้งที่ 4 โสภณ จองพื้นที่ให้ อารีญาภรณ์ ซารัมย์ ภรรยาสุดที่รัก ลงสมัครแทน โดยอาศัยฐานคะแนนเสียงจากกลุ่มครู กลุ่มสตรี และ อสม. แม้จะไม่เคยลงสนามการเมือง แต่ อารีญาภรณ์ ก็ติดสอยห้อยตาม โสภณ ลงพื้นที่หาเสียงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องพบศึกหนักเมื่อพรรคเพื่อไทยส่ง สราวุฒิ แหวนมุกข์ สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ลงชิงชัยมีฐานเสียงแน่นไม่แพ้กัน
เขตเลือกตั้งที่ 5 เป็นฐานเสียงของตระกูลชิดชอบแน่นที่สุด ครอบคลุมทั้งพื้นที่ หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองคงไม่มีใครล้ม มนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ ได้อย่างแน่นอน ขณะที่พรรคเพื่อไทยส่ง พ.ต.อ.อุดร ชาญนุวงศ์ หวังล้มช้างสร้างเซอร์ไพรส์ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ส่ง สุประดิษฐ์ แสนทวีสุข คะแนนนำขณะนี้เป็นของภูมิใจไทย โดยมีเพื่อไทยไล่หลังมาห่างๆ
เขตเลือกตั้งที่ 6 เขตนี้ไม่มี สส.เก่าเป็นตัวยืน เพราะล้วนแต่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ ที่น่าจับตาคือ พรชัย ศรีสุริยันโยธิน อดีตรองนายก อบจ.บุรีรัมย์ ซึ่งเคยอยู่ในสายเนวิน แต่คราวนี้ พรชัย ตีจากเนวินด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อาจเปิดเผยได้มาซบพรรคเพื่อไทย ที่มี โสภณ เพชรสว่าง ต่อสายให้ ทำให้เนวินต้องคิดหนักหาคนลงแข่งขันสนามนี้ สุดท้ายลงเอยที่ ไตรเทพ งามกมล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองนางรอง วัดน้ำหนักหมัด ฐานเสียงแข็งกันทั้งคู่
เขตเลือกตั้งที่ 7 เขตนี้ไม่มีตัวยืนเช่นกัน ทางพรรคภูมิใจไทยส่ง ประกิจ พลเดช คราวที่แล้วลงสมัครพรรคพลังประชาชน แต่ถูก กกต.แจกใบแดง เลือกตั้งครั้งนี้หวังมาแก้แค้นมั่นใจชนะเพราะฐานเสียงเดิมยังแน่ ส่วนพรรคเพื่อไทยส่ง หนูแดง วรรณกางซ้าย ที่อาศัยฐานเสียงจากกลุ่มเพื่อนครูและคนเสื้อแดง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ส่ง ภุชงค์ เลาหศิริวงศ์ หวังล้มยักษ์สนามนี้
เขตเลือกตั้งที่ 8 ช้างชนช้าง พรรคเพื่อไทยส่ง ขจรธน จุดโต อดีต สส.บุรีรัมย์ 4 สมัยที่ขยันลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง แม้ ขจรธน คราวที่แล้วจะพลาดเก้าอี้ สส. แต่มีฐานคะแนนเสียงแน่นในพื้นที่ อ.บ้านกรวด และละหานทราย ส่วนพรรคภูมิใจไทยส่ง รุ่งโรจน์ ทองศรี น้องชาย ทรงศักดิ์ ทองศรี ลูกพี่ลูกน้องของเนวินลงสมัคร ทำให้ สมนึก เฮงวาณิชย์ อดีตลูกหม้อเก่าพรรคภูมิใจไทย ย้ายไปสวมสีเสื้อพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินลงสมัครสูง เชื่อว่าคะแนนนิยมดีกว่า รุ่งโรจน์ เขตนี้จึงเป็นการชิงดำ 3 คน ขจรธน-สมนึก-รุ่งโรจน์
เขตเลือกตั้งที่ 9 เขตนี้กลุ่มเพื่อนเนวินส่ง จักรกฤษณ์ ทองศรี อดีต สส.บุรีรัมย์ ต้องเจอกระดูกชิ้นโตอย่าง จำรัส เวียงสงค์ หรือกำนันนาย อดีต สส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย อาศัยฐานเสียงเหนียวแน่นจากกลุ่มครูและคนรากหญ้าที่ยังรักทักษิณ กลายเป็น “กระดูกชิ้นโต” ที่พรรคภูมิใจไทยจะขย้อนลงคอไม่ได้ง่ายๆ
ศึกเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการวัดบารมี “เนวิน” ว่าจะกวาด สส.บุรีรัมย์ ได้ทั้ง 9 เขตหรือไม่ และค่ายกลอำนาจเก่าของเนวิน จะถูกเพื่อไทยตีแตกหรือไม่คงต้องลุ้นคำตอบในวันที่ 3 ก.ค.นี้


